กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--กรมสรรพากร
ตามที่กรมสรรพากรได้เสนอแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย เพื่อขยายวงเงินการหักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการหักค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต จากเดิมที่กฎหมายกำหนดให้หักได้ไม่เกินปีละ 50,000 บาท เป็นให้หักได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท ซึ่งมีผลสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป นั้น
ปัจจุบัน กฎหมายฉบับดังกล่าวนี้ ได้ผ่านขั้นตอนทางกฎหมายและมีผลใช้บังคับแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จึงได้มาหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลังและกรมสรรพากรในวันที่ 21 ตุลาคม 2551 โดย คปภ. มีความเป็นห่วงว่า ผู้เอาประกันอาจไม่ทราบถึงหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ในการหักลดหย่อนทางภาษี จนเป็นเหตุให้มีการเสียภาษีผิดพลาด ทั้งนี้ โดยเฉพาะกรณีการเอาประกันชีวิตที่มีประกันอื่นควบกันอยู่ เช่น ประกันชีวิต ควบกับประกันสุขภาพผลการประชุมได้ข้อสรุปว่า การพิจารณาการหักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับค่าเบี้ยประกันชีวิต นั้น จะพิจารณาจากหลักฐานที่ทางบริษัทผู้รับประกันภัยออกให้ ซึ่งบริษัทจะต้องแยกให้ชัดเจนว่า เป็นส่วนของค่าเบี้ยประกันชีวิตเท่าไหร่ เป็นส่วนของค่าประกันประเภทอื่นเท่าไหร่ เพื่อให้ทราบว่าวงเงินที่ผู้เอาประกันภัยจะสามารถนำไปใช้หักเป็นค่าลดหย่อนทางภาษีได้เป็นจำนวนเท่าใด
นายสาธิต รังคสิริ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ” ในประเด็นการออกเอกสารหลักฐานข้างต้นนั้น คปภ. รับจะไปเป็นผู้กำชับให้บริษัทประกันภัยดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมสรรพากร
โทร. 0 2617 3321 โทรสาร 0 2617 3324