กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--กบข.
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า จากภาวะวิกฤติการเงินสหรัฐอเมริกาที่ได้ส่งผลกระทบลุกลามเป็นลูกโซ่ในตลาดเงินและตลาดทุนไปทั่วโลกขนาดหนัก ซึ่งส่งผลกระทบกับการลงทุนในประเทศไทยไปด้วยนั้น ทำให้เกิดกระทบต่อผลตอบแทนสะสมของ กบข. ในช่วงนี้
ทั้งนี้ สืบเนื่องตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา กบข.มีหลักการจัดสรรผลประโยชน์ให้กับสมาชิกเป็นรายวัน (Daily Unitization) ตามประกาศคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เรื่องการจัดสรรผลประโยชน์สุทธิเข้าบัญชีเงินกองทุนและหลักเกณฑ์วิธีการคิดมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนส่วนสมาชิกเป็นจำนวนหน่วยและมูลค่าต่อหน่วย เพื่อให้ได้รับรู้ผลการดำเนินงานของกองทุนในรูปมูลค่าต่อหน่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงเป็นรายวันตามผลประกอบการของกองทุน และเมื่อสมาชิกพ้นสมาชิกภาพและยื่นขอรับเงินคืนนั้น กบข. จะจ่ายเงินคืนสมาชิกเท่ากับจำนวนหน่วยที่สมาชิกมีอยู่ในบัญชี คูณด้วยมูลค่าต่อหน่วย ณ วันที่ กบข. ทำรายการจ่ายเงินนั่นเอง
และด้วยสาเหตุที่สภาวะการลงทุนเกิดวิกฤติกระทบอย่างหนักและผันผวนสูงทั้งในประเทศและทั่วโลกเช่นในปัจจุบันนี้ จึงทำให้มูลค่าของหลักทรัพย์ในช่วงนี้ลดลง ส่งผลต่อผลตอบแทนการลงทุนในระยะนี้ติดลบ และทำให้มูลค่าต่อหน่วยลงทุนในปัจจุบันปรับลดลงไปจากสิ้นปี 2550 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการลดลงนี้เป็นการลดลงในส่วนของผลตอบแทนเท่านั้น อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงผลการดำเนินงานในระยะยาวที่ผ่านมานั้น ผลตอบแทนที่บริหารให้กับสมาชิกนับตั้งแต่ปี 2540 — กันยายน 2551 ที่กระจายเข้าสู่บัญชีสมาชิกยังคงอยู่ที่ ร้อยละ 7.24 ส่วนอัตราผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีเฉลี่ยเท่ากับ 4.00 และย้อนหลัง 3 ปีเฉลี่ยเท่ากับ 3.79 ซึ่งยังคงเป็นไปตามเป้าหมายนั่นคือสูงกว่าอัตราเงินฝากเฉลี่ย 5 ธนาคารใหญ่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กบข. เป็นกองทุนเงินออมระยะยาวและมีความเชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจการเงิน และการลงทุนของทั้งโลกและในประเทศไทย มีแนวโน้มจะปรับตัวได้ดีขึ้นในอีก 2- 3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ กบข. ยังจำเป็นต้องรอดูสถานการณ์และจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมก่อนเพื่อประโยชน์ของสมาชิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th / www.gpf.or.th