อุตสาหกรรมไทยสดใสในตุรกี

ข่าวทั่วไป Thursday October 30, 2008 15:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--กรมการค้าต่างประเทศ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าระหว่างไทยกับตุรกีในช่วง ม.ค.-ก.ค. 2551 มีมูลค่า 869.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกมูลค่า 717.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 27.45 และไทยนำเข้าจากตุรกีมูลค่า 151.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 566.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับสินค้าส่งออกที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ รถบรรทุกชนิดแวนและปิกอัพ เส้นใยประดิษฐ์ เม็ดพลาสติก ยางแผ่นธรรมชาติ และยางแผ่นรมควัน เป็นต้น ทั้งนี้ ในช่วง ม.ค.-มิ.ย. 2551 มีผู้มาขอใช้สิทธิลดภาษีนำเข้าภายใต้ GSP เพื่อส่งออกไปยังตุรกีมูลค่าทั้งสิ้น 280.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 47.09 ของมูลค่าการส่งออกรวมไปยังตุรกี) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รายการสินค้าที่ไทยขอใช้สิทธิ GSP สูง ได้แก่ เส้นใยประดิษฐ์ (ร้อยละ 92.97) เม็ดพลาสติก (ร้อยละ 87.84) คอมเพรสเซอร์ (ร้อยละ 100) เครื่องปรับอากาศ (ร้อยละ 100) และเคมีภัณฑ์จำพวกกรดต่างๆ (ร้อยละ 100) เป็นต้น อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าไทยหลายรายการมีสัดส่วนการใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปตุรกีเพิ่มขึ้น ในขณะที่ยังคงมีสินค้าหลายรายการที่มีศักยภาพในการส่งออกสูง แต่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยหรือยังไม่มีผู้ขอใช้สิทธิ ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศ/ระบายอากาศ อาหารปรุงแต่ง เส้นด้ายสังเคราะห์จากโพลิเอสเตอร์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ เป็นต้น กรมฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการไทยหันมาใช้สิทธิ GSP ในสินค้าดังกล่าวส่งออกไปยังตุรกีให้มากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นแต้มต่อในการแข่งขันกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ หากต้องการติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ โทร.1385 ตอบทุกปัญหาด้านการค้าต่างประเทศ หรือติดต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ตที่ www.dft.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ