กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่มริมแม่น้ำในบริเวณพื้นที่ภาคกลางฝั่งตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์และชุมพรให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม 2551 โดยให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการศูนย์ ปภ.เขต และสำนักงาน ปภ.จังหวัด จัดเจ้าหน้าที่ มิสเตอร์เตือนภัย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนและอพยพประชาชนได้ทันที หากเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับ
กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคมนี้ ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ภาคตะวันออก รวมทั้งอ่าวไทยตลอดช่วง ทำให้บริเวณภาคกลางฝั่งตะวันตก ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขาและที่ราบลุ่มริมแม่น้ำในบริเวณภาคกลางฝั่งตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มในระยะ 2-3 วันนี้ (วันที่ 30-31 ต.ค 2551) โดยให้ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศ และประกาศแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด ตลอดจนหมั่นสังเกตสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ หากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ และพบว่าน้ำเปลี่ยนสี ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สัตว์ป่าแตกตื่น มีเสียงดังจากป่าต้นน้ำให้รีบแจ้งเตือนชาวบ้านเพื่อเตือนการอพยพออกจากพื้นที่ทันที่ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฝนตกหนัก
ปภ.ได้สั่งการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมความพร้อมด้วยการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานงานกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักรกล ยานพาหนะ เรือท้องแบน และอุปกรณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดเหตุภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่ ตลอดจนกำชับเจ้าหน้าที่ทั้งอาสาสมัครแจ้งเตือนภัยดินถล่ม (มิสเตอร์เตือนภัย) สมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัย (OTOS) เฝ้าระวังสถานการณ์ และติดตามข้อมูลข่าวสารพยากรณ์อากาศ และการขึ้น-ลงของน้ำในแม่น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติรุนแรงในพื้นที่ ให้รีบแจ้งเตือนประชาชนให้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัยในทันที สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทั้ง 75 จังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั้ง 18 เขต กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือทางสายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ผู้ส่ง : goodprcdpm
เบอร์โทรศัพท์ : 022432200