กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--ตลท.
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2551 นี้มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนแล้วจำนวน 21 บริษัท โดยมีบริษัทที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว 2 บริษัท อยู่ระหว่างการซื้อหุ้นคืนรวม 19 บริษัท ในวงเงินทั้งสิ้น 7,415 ล้านบาท ( ณ 30 ต.ค. 2551)
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนให้บจ.ซื้อหุ้นคืน เนื่องจากเห็นว่าแนวทางดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการบริหารการเงิน เมื่อบริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่องสูงคือ มีเงินเพียงพอที่จะไปลงทุนในหุ้นบริษัทเอง เมื่อเห็นว่าหุ้นมีราคาต่ำเกินจริง และการลงทุนในหุ้นของบริษัทจะได้รับอัตราผลตอนแทนจาการลงทุนสูงกว่าลงทุนประเภทอื่น นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือในการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทด้วย โดยแต่ละครั้งจะทำให้จำนวนหุ้นลดลง และทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น” นางภัทรียากล่าว
ทั้งนี้ บจ.ที่จะซื้อหุ้นคืนได้จะต้องเป็นบจ.ที่มีกำไรสะสม หุ้นของบริษัทมีสภาพคล่องส่วนเกิน โดยพิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ภายใน 6 เดือนข้างหน้าว่า ถ้านำเงินมาซื้อหุ้นคืนแล้ว จะไม่กระทบกับการชำระหนี้ของบริษัท และไม่ทำให้สัดส่วนการกระจายการถือหุ้นรายย่อย ( Free Float) ต่ำกว่า 15%
โดยตลาดหลักทรัพย์ ฯ กำหนดราคาเสนอซื้อหุ้นคืนหรือราคาเสนอขายหุ้นที่ซื้อคืนบนกระดานหลัก ดังนี้
ราคาเสนอซื้อหุ้นคืน : ไม่เกินกว่าราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้า บวกด้วยจำนวน 15 % ของราคาปิดเฉลี่ยดังกล่าว
ราคาเสนอขายหุ้นที่ซื้อคืน : ไม่น้อยกว่าราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้า หักด้วยจำนวน 15 % ของราคาปิดเฉลี่ยดังกล่าว
สำหรับเกณฑ์ห้ามบริษัทขายหุ้นที่ได้มาจากการซื้อหุ้นคืนภายใน 6 เดือนแรก และหากขายไม่หมดภายใน 3 ปี บริษัทต้องทำการลดทุนนั้น ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างขอแก้ไขกฎกระทรวงของกระทรวงพาณิชย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบจ.ที่ซื้อหุ้นคืน รวมทั้งจะขอให้บริษัทที่ซื้อหุ้นคืนสามารถจัดสรรหุ้นที่ได้มาผ่านวิธีอื่นๆ ได้เช่น ขายผู้ถือหุ้นเดิม หรือขายต่อพนักงาน (ESOP) หรือจัดสรรเป็นหุ้นปันผล เป็นต้น
ทั้งนี้ ในช่วงหลังการปิดงวดบัญชี แต่ก่อนการนำส่งงบการเงิน บจ. ยังสามารถซื้อหุ้นคืนได้ โดยบริษัทต้องจัดให้มีแนวทางป้องกันการล่วงรู้ข้อมูลภายในระหว่างหน่วยงานของบจ. (Chinese Wall ) ซึ่งทำให้หน่วยงานหรือบุคคลที่รับผิดชอบด้านการซื้อหุ้นคืน ไม่สามารถเข้าถึงสารสนเทศภายในที่ยังไม่มีการเปิดเผยต่อประชาชน และมีผลต่อราคาหุ้นได้
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์โทร.0-2229—2036/ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร. 0-2229—2037/ วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797