กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--ปภ.
ปภ.เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัย ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขาและที่ราบลุ่มริมแม่น้ำในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก และภาตใต้ตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ระยอง สระแก้ว จันทบุรี ตราด ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
ให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงได้ พร้อมแนะให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และรับฟังประกาศแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่
นายอนุชา โมกขะเวส อธฺบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ปกคลุมประเทศกัมพูชาแล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกตามแนวร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก และภาตใต้ตอนบน ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมแม่น้ำในพื้นที่ ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก และภาตใต้ตอนบน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง สระแก้ว จันทบุรี ตราด ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา ให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่า ไหลหลากและดินโคลนถล่ม
หากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จะทำให้ดินชุ่มน้ำ และไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้
อาจทำให้เกิด ดินโคลนถล่มลงมาได้ เพื่อความปลอดภัย ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยควรติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศ และสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด คอยรับฟังประกาศแจ้งเตือนภัยจากมิสเตอร์เตือนภัยหรืออาสาสมัครแจ้งเตือนภัยดินถล่มในพื้นที่ที่ได้รับการฝึกอบรมจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ตลอดจนหมั่นสังเกตสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับสีดินบนภูเขา มีเสียงดังผิดปกติมาจากป่าและสัตว์ป่าแตกตื่นในพื้นที่ ให้รีบขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของขึ้นที่สูง ในการอพยพให้ขึ้นที่สูงหรือให้ไปตามเส้นทางที่พ้นจากแนวการไหลของดินถล่ม
และอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยอย่างทันท่วงที สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานป้องกันภัยและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทั้ง ๗๕ จังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั้ง ๑๘ เขต กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป