กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
โครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น อวดโฉมคอลเลกชั่นหนังสือรวบรวมสุดยอด ผลงานการออกแบบแฟชั่นไทย 3 เล่ม 3 สไตล์ ในงาน บางกอก แฟชั่น วีค 2006 คาดดึงความสนใจจากผู้ประกอบการแฟชั่นที่มาร่วมงานจากทั่วโลก หวังใช้หนังสือเป็นสื่อเจาะตลาดเป้าหมาย
นายปราโมทย์ วิทยาสุข อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น เปิดเผยว่า ตามที่โครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น ได้มอบหมายให้บริษัท ทีทีไอเอส จำกัด ผู้ดำเนินโครงการรวบรวมผลงานแฟชั่นนักออกแบบไทย (Top Fashion Report) ได้จัดทำหนังสือเพื่อนำเสนอผลงานด้านการออกแบบของดีไซเนอร์ชาวไทยเพื่อเผยแพร่ไปยังทั่วโลก โดยนำเสนอเป็น 6 เล่ม 6 สไตล์ ภายใต้ชื่อซีรี่ส์ Bangkok Fashion Now & Tomorrow นั้น ขณะนี้โครงการฯ ได้จัดทำหนังสือเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 3 เล่ม ประกอบด้วย สกรีม (Scream) นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับแฟชั่นชั้นสูงของไทย สตรีท (Street) โชว์สุดยอดผลงานดีไซน์ประเภท เรดดี้ ทู แวร์ และเล่มล่าสุด สโตน (Stone) อวดความงดงามและศักยภาพของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ซึ่งแต่ละเล่มมีแนวคิดการนำเสนอที่แตกต่างกันไป
โครงการฯ ได้นำคอลเลคชั่นของหนังสือทั้ง 3 เล่มนี้ ออกเผยแพร่ให้แก่ผู้สนใจในงาน บางกอก แฟชั่น วีค 2006 โดยคาดว่าหนังสือดังกล่าวจะช่วยดึงความสนใจจากบุคคลในอุตสาหกรรมแฟชั่นจากทั่วโลกที่เข้าร่วมงานในปีนี้ให้เห็นถึงศักยภาพการออกแบบด้านแฟชั่นของไทยได้อย่างชัดเจน และจะสามารถใช้เป็นสื่อในการเจาะถึงตลาดเป้าหมายได้
สกรีม (Scream) หนังสือเล่มแรกของซีรี่ส์ Bangkok Fashion Now & Tomorrow นำเสนอแฟชั่นชั้นสูง หรือ โอต กูตู (Haute Couture) ในแบบไทย โดยการจัดทำหนังสือเล่มนี้คณะกรรมการคัดเลือกผลงาน ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงแฟชั่นและดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ได้ทำการคัดสรรผลงานของนักออกแบบไทยที่มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ มีผลงานอยู่ในระดับสากลจำนวน 5 ท่าน คือคุณสมชาย แก้วทอง จากห้องเสื้อไข่บูติก คุณพิจิตรา บุณยรัตพันธ์ จากห้องเสื้อพิจิตรา คุณพิศิษฐ์ เนตรวิเศษ จากห้องเสื้อพิสิท คุณนคร สัมพันธารักษ์ จากห้องเสื้อนาการา และคุณธีระพันธ์ วรรณรัตน์ จากห้องเสื้อธีระพันธ์
สตรีท (Street) เป็นเล่มที่ 2 ของซีรี่ส์ชุดนี้ นำเสนอผงานการออกแบบแฟชั่น เรดี้ ทูแวร์ (Ready to wear) หรือแฟชั่นสำเร็จรูป ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบเข้าใจได้ง่าย ตามชื่อหนังสือ คือ การนำเสนอดีไซน์ของเสื้อผ้าผ่านถนนแฟชั่นที่สำคัญของกรุงเทพฯ โดยนำเสนอให้ผู้อ่านจากทั่วโลก ได้เห็นว่าสถานที่เป็นตัว define การแต่งตัวของคนที่จะไปยังสถานที่นั้นๆ ทำให้ถนนแฟชั่นแต่ละแห่งมีสไตล์การแต่งตัวที่ต่างกันไป โดยเล่มนี้นำเสนอ 4 ถนนสำคัญ คือ สยามสแควร์ จะเป็นแนวแฟชั่นที่แสดงให้เห็นความคิดสร้างสรรค์ในสไตล์ Mix and Match ของวัยรุ่นไทย ทองหล่อ นำเสนอสไตล์การแต่งตัวที่เน้นแบรนด์เนม หรูหรา เน้น accessories จตุจักร มีแนวการแต่งการแบบผสมผสานของเสื้อผ้ามือสอง เสื้อยืด กระเป๋า รองเท้า อย่างลงตัว และสีลม ให้อารมณ์ถนนแฟชั่นกลางคืนของไทย นอกจากนี้ยังมีชุด Super Citizen ที่นำเสนอเสื้อผ้าแฟชั่นฝีมือคนไทยที่ได้นำเสนอในงาน บางกอก แฟชั่นวีค เมื่อเดือนสิงหาคม มาแล้ว และตบท้ายด้วยแฟชั่นชุดพิเศษฝีมือการกำกับภาพของผู้กำกับเจ้าของรางวัลจากเมืองคานส์ คุณอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล จากภาพยนตร์เรื่อง สุดเสน่หา และ สัตว์ประหลาด ที่จำลองภาพของภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่กำลังถ่ายทำอยู่มานำเสนอในหน้าหนังสือแฟชั่น ด้วยวิธีการนำเสนอตามแบบฉบับของผู้กำกับผู้มีเอกลักษณ์
หนังสือเล่มนี้นอกจากจะนำเสนอความโดดเด่นของแฟชั่นเรดดี้ ทู แวร์ ของไทยแล้ว ยังถือเป็นการให้โอกาสผู้ประกอบการแฟชั่นแบบ เรดดี้ ทู แวร์ ประมาณ 50 แบรนด์ได้มีโอกาสนำเสนอผลงานดีไซน์ของตัวเองผ่านแฟชั่นเซ็ตต่างๆในหนังสือเล่มนี้ เพื่อเผยแพร่ไปยังทั่วโลกด้วย ผลงานทุกชิ้นที่ได้รับการนำเสนอในหนังสือเล่มนี้ได้ระบุเครดิตและสถานที่ติดต่อสำหรับผู้สนใจให้สามารถติดต่อกลับไปยังผู้ประกอบการได้ทันที ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกสื่อหนึ่งที่ช่วยขยายตลาดเสื้อผ้า เรดดี้ ทู แวร์ ของไทย ออกสู่ต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
สโตน (Stone) รวบรวมและนำเสนอผลงานออกแบบด้านแฟชั่นอัญมณีและเครื่องประดับของไทย โดยใช้รูปแบบการเล่าเรื่องด้วยภาพ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นความงดงามของเครื่องประดับแต่ละชิ้น เนื้อหาของ Stone ยังคงใช้วิธีการเล่าเรื่องด้วยภาพถ่ายเป็นหลัก มีการแทรกคำอธิบายและบทความสั้น ๆ พอสังเขป เนื้อหาหลักจะเกี่ยวกับวัฒนธรรมการสวมใส่เครื่องประดับของไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบันผ่านงานภาพถ่าย และงานจัดองค์ประกอบศิลป์ที่งดงามชวนติดตาม โดยผลงานที่นำมาเผยแพร่นั้น ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนจากสำนักงานโครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น และบุคคลในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ทำให้ได้ผลงานจากผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์
หนังสือ Bangkok Fashion Now & Tomorrow ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบุคคลในแวดวงแฟชั่นทั้งจากภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศ รวมทั้งผู้อ่านที่สนใจติดตามเรื่องราวความเคลื่อนไหวของวงการแฟชั่น ทั้งจากการเผยแพร่ไปยังสถาบันแฟชั่นทั่วโลก ร้านหนังสือชั้นนำ และเว็บไซต์โครงการ www.bkkfashionnow.com ซึ่งเป็นผู้เข้าชมต่างชาติจาก 55 ประเทศ โดยขณะนี้มีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ กว่า 130,000 ฮิท ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2548
นอกจากนี้โครงการรวบรวมผลงานแฟชั่นนักออกแบบไทย ยังได้รวมการจัดพิมพ์ นิตยสาร SNOOK (สนุก) ซึ่งเป็นนิตยสารเสริมที่นำเสนอความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับแวดวงแฟชั่น ปฏิทินงานแฟชั่นทั้งในและต่างประเทศ กระแสแฟชั่นที่กำลังมาแรง ซึ่งจัดพิมพ์คู่กับ Bangkok Fashion Now & Tomorrow ด้วยยอดพิมพ์อย่างละ 12,000 เล่ม โดยมีบางส่วนส่งให้กับบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นชั้นนำ และสถาบันการศึกษาแฟชั่นชั้นนำของโลก และบางส่วนจัดจำหน่ายในร้านหนังสือชั้นนำ อาทิ เอเชียบุ๊คส์ เพลย์กราวด์ บีทูเอส คิโนะคูนิยะ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งจองผ่านทางเว็บไซต์ของโครงการ www.bkkfashionnow.com
นอกจากนี้ โครงการยังได้มีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นในร้านหนังสือชั้นนำในแถบเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ซึ่งผู้สนใจในต่างประเทศสามารถสั่งซื้อได้ที่ www.amazon.com