กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเลแลชายฝั่ง(ทช.) จัดทำโครงการทะเลสวยใส ชายฝั่งสมบูรณ์ สร้างพื้นที่สาธิตบริเวณพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก อ่าวไทยตอนใน และอ่าวไทยตอนกลาง โดยใช้แนวคิดธรรมชาติสู้ธรรมชาติ หวังป้องกันการพังทลายของชายฝั่งทะเลเป็นหลัก พร้อมพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยควบคู่ไปกับฝั่งอันดามัน เพื่อคงความเป็นทะเลสวยใส ชายฝั่งสมบูรณ์
นายสำราญ รักชาติ อธิบดี ทช. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าเป็น อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในบางพื้นที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บางแห่งกลับมีความแห้งแล้งเพิ่มขึ้น คลื่นความร้อนเกิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเกิดน้ำท่วมใหญ่ในทวีปเอเชียเพิ่มขึ้น 6 เท่า นอกจากนี้ภูเขาน้ำแข็ง ทะเลน้ำแข็งแถบอาร์กติก และแผ่นน้ำแข็งแถบกรีนแลนด์ มีพื้นที่ที่เป็นน้ำแข็งลดน้อยลงมีผลทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งในประเทศไทยด้วย สภาวการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศไทย คือ ระบบนิเวศทางทะเลเกิดความเสื่อมโทรม การกัดเซาะชายฝั่งทวีความรุนแรง การเกิดพายุรุนแรงและสภาพอากาศแปรปรวนบ่อยครั้งและการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศป่าไม้ส่งผลต่อทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพ
อธิบดี ทช. กล่าวต่อไปว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในฐานะที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการสงวน อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้ริเริ่มโครงการทะเลสวยใส ชายฝั่งสมบูรณ์ วางระบบในการป้องกันพื้นที่ชายฝั่งและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่รุนแรงและการกัดเซาะชายฝั่ง โดยอาศัยหลักการแก้ไขปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานของการกลับคืนสู่สมดุลธรรมชาติ ในวิธีการที่สอดคล้องกับสภาพสังคมและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ในพื้นที่ การส่งเสริมให้เกิดภูมิคุ้มกันของชุมชนในพื้นที่ต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยใช้แนวคิดธรรมชาติสู้ธรรมชาติ อาศัยการปัก 3 อย่าง คือ ปักไม้ไผ่ ป่าชายเลน และกังหันลม เพื่อให้ได้ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ป้องกันการพังทลายของชายฝั่ง ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของชุมชน
“ แนวคิดโครงการทะเลสวยใส ชายฝั่งสมบูรณ์นั้น มีรูปแบบที่เหมือนกับโครงการมาตรการบรรเทา ผลกระทบจากวิกฤตโลกร้อนที่บางปู แต่โครงการนี้จะใช้พื้นที่ดำเนินการที่กว้างออกไปตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในระดับที่วิกฤต ได้แก่ บริเวณพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก อ่าวไทยตอนใน และอ่าวไทยตอนกลาง นอกจากนี้ยังขยายระยะเวลาดำเนินการออกไปเป็น 3 ปี คือระหว่างปี 2552 — 2554 เพราะมีพื้นที่ดำเนินการเป็นบริเวณกว้าง อีกทั้งต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีประสิทธิภาพ แต่ยังคงใช้แนวคิดเดิมคือใช้ธรรมชาติสู้ธรรมชาติ โดยอาศัยการปัก 3 อย่าง คือ ปักไม้ไผ่ ป่าชายเลน และกังหันลม” อธิบดี ทช. กล่าว
ผลจากการดำเนินโครงการนี้ นอกจากจะทำให้มีพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้น ป้องกันและลดอัตราการ กัดเซาะและสูญเสียพื้นที่ชายฝั่ง ได้พลังงานสะอาด และทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้รับการคุ้มครองอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ระบบนิเวศป่าชายเลนและชายฝั่งทะเลอ่าวไทยก็จะมีความสมบูรณ์และสมดุล มลพิษทางน้ำได้รับการบำบัด และลดปัญหาโลกร้อน นอกจากนี้ ยังจะได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนต่อไป
อธิบดี ทช. กล่าวด้วยว่า นอกจากการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแล้ว ภายใต้แนวคิดทะเลสวยใส ชายฝั่งสมบูรณ์ กรมฯ ยังมีการพัฒนาพื้นที่ทางฝั่งอันดามัน อาทิ การพัฒนาพื้นที่ป่าชายเลนที่จังหวัดสตูลเพื่อให้เป็นพื้นที่ป่าชายเลนต้นแบบและสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
กลุ่มสื่อสารองค์กร www.dmcr.go.th
โทรศัพท์/โทรสาร ๐ — ๒๒๙๘ — ๒๐๒๐