กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--บีโอไอ
บอร์ดใหญ่บีโอไอไฟเขียวส่งเสริมลงทุนโครงการขนาดใหญ่อีก 19 โครงการ รวมมูลค่า 36,496 ล้านบาท โดยเป็นการขยายกิจการถึง 15 โครงการ มิตซูบิชิลงทุนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กว่า 6 พันล้านบาท ไทยแอร์เอเชียและบางกอกแอร์เวย์ ขยายกิจการรวม 9 ลำ เงินลงทุน 5 พันล้านบาท รวม 1 เดือน บอร์ดบีโอไอ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน ได้พิจารณาให้ส่งเสริมไปแล้ว 219 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท
นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ว่า ที่ประชุมในวันนี้ มีมติอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 19 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 36,496 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวด้วยว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการ และคณะทำงานพิจารณาโครงการของ บีโอไอ ได้เร่งรัดการพิจารณาให้การส่งเสริมการลงทุน ซึ่งหากรวมโครงการที่พิจารณาในวันนี้ด้วยแล้ว ทำให้มีการให้ส่งเสริมไปแล้ว 219 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 106,118 ล้านบาท สำหรับโครงการที่ได้รับส่งเสริม 19 โครงการในวันนี้ ประกอบด้วย
1.บริษัท การ์เดียนอินดัสทรีส์ คอร์ป จำกัด ขยายกิจการผลิตกระจกแผ่นเรียบและกระจกเงา (FLOAT GLASS AND MIRROR) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,560 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณ 199,000 ตันต่อปี โดยจะผลิตเพื่อป้อนอุตสาหกรรมทำเฟอร์นิเจอร์ และการก่อสร้างเป็นหลัก และรองรับความต้องการกระจกแผ่นเรียบทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น อาทิ ตลาดยุโรป อเมริกาเหนือ และจีน ตั้งโรงงานที่เขตอุตสาหกรรม จังหวัดสระบุรี
2.บริษัท ไทยน็อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) ขยายกิจการผลิตเหล็กแผ่นไร้สนิมรีดเย็นชนิดพื้นผิวมันเงา (BA) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 4,604 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณ 115,000 ตันต่อปี ตั้งโรงงานที่จังหวัดระยอง โดยจะใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเครื่องใช่ในครัวเรือนและอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
3. บริษัท ไอชิน เอไอ (ประเทศไทย) จำกัด ขยายกิจการผลิตชุดขับเคลื่อน 4 ล้อ (TRANSFER CASE) เป็นชุดขับเคลื่อนที่ต่อจากชุดเกียร์ส่งกำลัง มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,810.3 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณ 343,960 ชุด ได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจากบริษัท ไอชิน เอไอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในญี่ปุ่น โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้จะผลิตป้อนโครงการประกอบรถยนต์ของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ( ประเทศไทย ) จำกัด ที่จะมีการส่งออกทางอ้อมเป็นรถยนต์ไปต่างประเทศ และจะทำให้เป็นบริษัทฯ ผู้ผลิตชุดขับเคลื่อน 4 ล้อรายเดียวในไทย
4. บริษัท สยาม เอ็น เอส สเตียริ่ง ซิสเต็มส์ จำกัด ขยายกิจการผลิตชิ้นส่วนของแกนพวงมาลัยรถ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,092 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณ 17,694,000 ชิ้นต่อปี ตั้งโรงงานที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โครงการนี้เป็นการขยายการผลิตเพื่อเป็นฐานการส่งออกให้บริษัทในเครือทั่วโลก เช่นที่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ และโปแลนด์ และเพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเดิมบริษัท ฯ ได้นำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศมาประกอบ
5.บริษัท มิตซูบิชิ เทอร์โบชาร์เจอร์ เอเซีย จำกัด ผลิต TURBOCHARGER, CARTRIDGE , BEARING HOUSING กำลังการผลิตปีละประมาณ 500,000 ชิ้น , 2,000,000 ชิ้น และ 40,000 ชิ้นตามลำดับ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 6,764 ล้านบาท โครงการนี้เป็นการผลิต TURBOCHARGER สำหรับรถยนต์ รถขุด และรถแทร็คเตอร์ จะผลิตเพื่อส่งออกเป็นส่วนใหญ่ โดยจะส่งให้บริษัทในเครือที่ญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์
6.บริษัท แดธสเปเปอร์ จำกัด ผลิตกระดาษหนังสือพิมพ์ (NEWSPRINT) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,320 ล้านบาท กำลังการผลิตปีละประมาณ 72,000 ตัน เพื่อจำหน่ายในประเทศร้อยละ 60 ส่วนที่เหลือจะจำหน่ายต่างประเทศ เช่นฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น
7. บริษัท ไทยแอร์เอเซีย จำกัด ขยายกิจการขนส่งทางอากาศ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,778.1 ล้านบาท โดยแต่ละโครงการจะทำการเช่าเครื่องบินใหม่แบบ AIRBUS 320 โครงการละ 1 ลำ จากบริษัท AIR ASIA MAURITIUS จำกัด ให้บริการทั้งเส้นทางบินในประเทศและต่างประเทศ
8. บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ขยายกิจการขนส่งทางอากาศ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,209.9 ล้านบาท เพื่อเช่าเครื่องบินไอพ่นแบบ AIRBUS A319 จากประเทศสหพันธรัฐเยอรมนี ขนาดบรรจุผู้โดยสารประมาณ 114 -144 ที่นั่งจำนวน 3 ลำ ให้บริการขนส่งทางอากาศแบบประจำเส้นทางทั้งในประเทศ ระหว่างประเทศ และแบบไม่ประจำเส้นทางเป็นครั้งคราว
9. บริษัท เน็กซ์ แคน อินโนเวชั่น จำกัด ผลิตกระป๋อง มูลค่าเงินลงทุน 1,650 ล้านบาท โดยเป็นโครงการผลิตภัณฑ์ตัวกระป๋องชนิด 2 ชิ้น สำหรับใช้บรรจุเครื่องดื่มกาแฟสำเร็จรูป กำลังผลิตปีละประมาณ 14,200 ตัน ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมหนองแค จังหวัดสระบุรี ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศทั้งสิ้น
10. บริษัท ไทย เอ บี เอส จำกัด ขยายกิจการผลิตเม็ดพลาสติก ABS/SAN ปีละประมาณ 100,000 ตัน มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,380 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ เขตอุตสาหกรรมไอ อาร์ พี ซี จำกัด (มหาชน) จังหวัดระยอง ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกที่ผลิตได้ เป็นการผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลาย โดยเม็ดพลาสติก ABS นิยมใช้เป็นวัตถุดิบในการขึ้นรูปชิ้นส่วนยานยนต์ ส่วนประกอบเครื่องใช้สำนักงาน โทรศัพท์ ของเล่นเด็ก เป็นต้น สำหรับเม็ดพลาสติก SAN ใช้เป็นวัตถุดิบขึ้นรูปส่วนประกอบเครื่องใช้สำหรับรักษาความสะอาด เครื่องใช้ภายในบ้าน และเครื่องครัวที่มีคุณภาพ ใช้วัตถุดิบในประเทศ มูลค่ารวมกว่า 3,178.6 ล้านบาท
11. บริษัท คุณนที จำกัด ขยายกิจการขนส่งทางเรือ มูลค่าเงินลงทุน 1,254 ล้านบาท โดยเป็นการจัดซื้อเรือบรรทุกสินค้าเหลว (Tanker) จำนวน 1 ลำ ขนาดระวางบรรทุก 44,999 เดทเวทตัน (28,628 ตันกรอส) ให้บริการเดินเรือบรรทุกน้ำมันดิบ (Crude Oil) จากแท่นขุดเจาะในอ่าวไทย ไประยอง-ศรีราชา และเส้นทางระหว่างประเทศในเขต South East Asia
12. นายณรงค์ บุณยสงวน ดำเนินกิจการขนส่งทางเรือ มูลค่าเงินลงทุน 3,497.4 ล้านบาท โดยเป็นการให้บริการเช่าเรือพร้อมพนักงานประจำเรือ จำนวน 1 ลำ ขนาด 15,660 ตันกรอส เพื่อติดตั้งหรือรื้อถอนแท่นขุดเจาะ รวมถึงวางท่อปิโตรเลียมกลางทะเลอ่าวไทย และบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งประเทศในแถบเอเซีย เช่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย เป็นต้น
13. บริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด ขยายกิจการผลิตไอน้ำ น้ำร้อน และน้ำปราศจากแร่ธาตุ มูลค่าเงินลงทุน 2,360 ล้านบาท โดยโครงการจะใช้ก๊าชธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เพื่อผลิตไอน้ำ น้ำร้อน และน้ำปราศจากแร่ธาตุเพื่อจำหน่ายให้แก่โรงงานที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด)
14. บริษัท ลัคกี้ สปินนิ่ง จำกัด ขยายกิจการผลิตเส้นด้าย กำลังการผลิตปีละประมาณ 17,363,700 กิโลกรัม มีแกนปั่นด้าย 4,000 แกน มูลค่าเงินลงทุน 2,216.3 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.สิงห์บุรี โดยตามโครงการเป็นการผลิตด้ายที่เรียกว่า VORTEX YARN ซึ่งจะทำให้ได้เส้นด้ายที่มีความนุ่มและเส้นใยเรียบเมื่อนำไปถักหรือทอ และผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่างๆ จะได้ผลิตภัณฑ์ที่สวมใส่สบาย เรียบลื่น และไม่เป็นขนง่ายเมื่อใช้ไปนาน ๆ ใช้วัตถุดิบในประเทศ ได้แก่ เส้นใยชนิดต่างๆ และบรรจุภัณฑ์ มูลค่าประมาณ 1,004.9 ล้านบาทต่อปี
ศูนย์บริการลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
กระทรวงอุตสาหกรรม
555 ถ.วิภาวดีรังสิต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร 0 2537- 8111 , 0 2537- 8155