กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าขณะนี้ทางการสหรัฐฯได้ประกาศต่ออายุโครงการ GSP ที่จะหมดอายุในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ออกไปอีก 1 ปี จนถึง 31 ธันวาคม 2552 โดยไม่เปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์การให้สิทธิแต่อย่างใด โดยสินค้าที่ได้รับ สิทธิ GSP สหรัฐฯ จะได้รับยกเว้น ภาษีอากรนำเข้าทั้งหมด
ปัจจุบันมีสินค้าไทยได้รับสิทธิ % GSP ประมาณ 3,400 รายการ โดยสินค้าที่ได้รับ สิทธิ GSP ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าเกษตรกรรมบางรายการ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารปรุงแต่ง ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ เครื่องรับวิทยุโทรศัพท์ แผงควบคุมวงจรไฟฟ้า ฯลฯ
ทั้งนี้สินค้าที่ได้รับสิทธิ GSP จะถูกจำกัดเพดานการนำเข้า โดยสินค้าของประเทศใดประเทศหนึ่ง จะถูกระงับสิทธิ GSP หากมูลค่าการนำเข้าสหรัฐฯสูงเกินเพดานระดับใดระดับหนึ่ง คือ
1) มีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป หรือ
2) มีมูลค่านำเข้าสูงเกินเพดานที่กำหนดไว้ (ปี 2551 เท่ากับ 135 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
โดยสินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงเกินเพดานในปีใดจะถูกสหรัฐฯตัดสิทธิ GSP ในวันที่ 1 กรกฎาคม ของปีถัดไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเทศที่ใช้สิทธิ GSP สหรัฐฯสูง 5 อันดับแรก คือ
ประเทศ มูลค่า (ม.ค.-มิ.ย.51) ส่วนแบ่งตลาด(%)
(ล้านUS$)
1. แองโกล่า 3,551.26 23.20
2. อินเดีย 1,955.63 12.77
3. ไทย 1,765.72 11.53
4. บราซิล 1,434.08 9.36
5. อินโดนีเซีย 1,124.54 7.34
สำหรับรายการสินค้าที่มีการใช้สิทธิ GSP สูง 10 อันดับแรก คือ เครื่องรูปพรรณอื่นๆทำด้วย โลหะเงินมีมูลค่าเกิน 18 เหรียญสหรัฐฯ ต่อโหลชิ้น ยางเรเดียล ชุดสายไฟที่ใช้ในรถยนต์ อาหารปรุงแต่ง ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ ถุงมือยาง เครื่องสุขภัณฑ์ เตาอบไมโครเวฟ ฯลฯ