กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ปตท.
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงผันผวน โดยก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริการาคาน้ำมันได้มีการปรับเพิ่มขึ้น และปรับลดลงอีกครั้งในวันนี้ จากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้คาดการณ์เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว จะประสบภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2552 ลง 0.8% จากคาดการณ์ครั้งก่อน มาอยู่ที่ระดับ 2.2% ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อจะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันของโลกชะลอตัว ล่าสุด (7 พ.ย. 51) ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 56.17 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ 56.04 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และดีเซลอยู่ที่ 74.24 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท. จึงได้พิจารณาลดราคาน้ำมันขายปลีกเบนซิน 91 และกลุ่มเบนซินแก๊สโซฮอล์ (91, 95 และ อี 20) ลงให้ผู้บริโภคอีก 80 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (วันเสาร์ที่ 8 พ.ย. 51) เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 85 พลัส 18.29
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 20 พลัส 20.59
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 21.89
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 21.09
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 26.99
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 21.84
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 22.84
อย่างไรก็ดีช่วงนี้ยังคงต้องจับตามองท่าทีของกลุ่มโอเปคและนโยบายการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะมีการประชุมกลุ่มในวันที่ 17 ธ.ค.ศกนี้ และนโยบายเศรษฐกิจของนานาประเทศว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจได้หรือไม่
ปตท. พร้อมลดราคาน้ำมันเพื่อสะท้อนตามต้นทุนตลาดโลก โดยที่ผ่านมา ปตท.ปรับลดราคาน้ำมันในครั้งนี้นับเป็นการปรับลดราคาต่อเนื่องครั้งที่ 34 แล้วตั้งแต่ต้นเดือน กรกฎาคม 2551 เป็นต้นมา รวมกลุ่มดีเซลลดลงไปแล้ว 21.40 บาท/ลิตร และกลุ่มเบนซินลดลงไป 17.30 บาท/ลิตร นายประเสริฐ กล่าวในตอนท้าย
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนสื่อสารธุรกิจน้ำมัน ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2571
โทรสาร 0 2537 2572