กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--กทม.
นางสาวปราณี สัตยประกอบ รองผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. แจ้งว่า กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนประชาชนผู้รักการเต้นทุกลีลา ทุกเพศ ทุกวัย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน "สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 21" ด้วยการเข้าร่วมแข่งขันเต้นแอโรบิก โดยการนำของครูแอโรบิกมืออาชีพ หรือร่วมการแข่งขันเต้นร็อค 'เอน โรล ภายใต้จังหวะที่เร้าใจจากการแสดงดนตรีสด แบบ non stop เป็นเวลา 80 นาที ในวันเสาร์ที่ 22 พ.ย.51 ตั้งแต่เวลา16.00 น. ณ บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
สำหรับการแข่งขันเต้นแอโรบิก แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ1.ประเภทนักเต้นแอโรบิกสวยงามทั่วไป เน้นความสามารถในการแสดงออกท่าทางต่างๆ อย่างเหมาะสม ปรับลีลาการเต้นได้อย่างฉับไว และสง่างามตามหลักการเต้นแอโรบิก 2.ประเภทนักเต้นแอโรบิกแต่งชุดแฟนซีลดภาวะโลกร้อน เน้นการแข่งขันด้านแนวความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับแนวคิดการลดภาวะโลกร้อน หรือตลกขบขัน แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมายและวัฒนธรรมอันดี รวมทั้งการเต้นสง่างามตามหลักการเต้นแอโรบิก และ 3. ประเภทนักเต้นแอโรบิกทีมรุ่นเยาว์ (ทีม 5 คนขึ้นไป อายุไม่เกิน 12 ปี) เน้นความพร้อมเพรียงและสวยงามของทีม ไม่จำกัดจำนวน/เพศ โดยผู้ชนะการแข่งขันอันดับที่ 1-3 ของแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศจาก ฯพณฯ พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี พร้อมเงินรางวัล 4,000 บาท 3,000 บาท และ 2,000 บาท ตามลำดับ
ส่วนการแข่งขันเต้นร็อค'เอนโรลล์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทนักเต้นร็อคทั่วไป และ ประเภทนักเต้นร็อครุ่นเยาว์ (อายุไม่เกิน 18 ปี) โดยเน้นการแสดงออกทางลีลา และเทคนิคการเต้นที่ถูกต้องตามมาตรฐานและสวยงาม ผู้ชนะการแข่งขันอันดันที่ 1-3 ของแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศจาก ฯพณฯ พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี พร้อมเงินรางวัล 6,000 บาท 4,000 บาท และ 2,000 บาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 ประเภทจะต้องเต้นแบบต่อเนื่องเป็นเวลา 80 นาที ผู้สนใจสมัครได้ที่จุดลงทะเบียนนักวิ่งมาราธอน ในงาน "กรุงเทพมาราธอน เอ็กซ์โป" ณ บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ค่าสมัครเต้นแอโรบิก คนละ 200 บาท เต้นร็อค'เอนโรลล์ คู่ละ 400 บาท พร้อมเสื้อที่ระลึกคนละ 1 ตัว เฉพาะผู้สมัครรุ่นเยาว์ ทั้ง 2ประเภท ไม่เสียค่าสมัคร
งาน "สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกรุงเทพมาราธอน ครั้งที่ 21" ถือเป็นมหกรรมการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Running Cool Living Green - วิ่งสู่เส้นชัย ด้วยหัวใจสีเขียว" โดยมีเจตนารมณ์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการวิ่งเพื่อสุขภาพ และสร้างจิตสำนึกให้ชาวไทยและชาวโลกตระหนักถึงปัญหาวิกฤตการณ์โลกร้อน