กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--GPI Motorsport
เพลงชาติไทยกระหึ่มจังหวัดสระบุรี หลังเด็กไทยพาเหรดขึ้นโพเดี่ยมคว้าถ้วยรางวัล ในศึก Akoc 2008 ที่สนามเอส.ซี. มอเตอร์สปอร์ต อำเภอบ้านหมอ จ.สระบุรี "อโณทัย" เผยเด็กไทยฝีมือไม่ด้อยต่างชาติ หากส่งเสริมถูกทาง ขณะที่นายกเทศมนตรีบ้านหมอ แย้มเตรียมดึงแมทช์ระดับโลก มาแข่งที่สระบุรีปีหน้าแน่นอน
การแข่งขัน Asian Karting Open Championship Series 2008 สนามที่ 4 ที่สนาม เอส.ซี.มอเตอร์สปอร์ต อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ระยะทางรวม 1,310 เมตร จัดโดยบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับสนาม S.C. Motorsport อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 1-2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ได้เริ่มขึ้นหลังจากมีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ประเดิมเรซแรก ร็อคจูเนียร์ โรเท็กซ์ แมกซ์ จูเนียร์ และฟอร์มูล่า 125 จูเนียร์ โอเพ่น มีรถคาร์ทนานาชาติเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 20 คัน โดยทำการแข่งขันทั้งหมด 18 ร อบสนาม หลังจากสัญญาณไฟแดงดับลง "น้องเต้" กิติทัช วงษ์ไพร วัย 13 ปี นำรถคู่ใจพุ่งออกนำเดี่ยว หลังจากผ่านรอบแรกไป น้องเต้ เริ่มเร่งความเร็วฉีกหนีคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งมาก
รอบเท่าใด นักซิ่งชาวไทยยิ่งหนีห่าง และขึ้นนำแบบม้วนเดียวจบ ได้ตีธงมากรุกเป็นคันแรก ตามด้วยไบรอัน เมห์ธา นักซิ่งมือหนึ่งจากมาเลเซีย ซึ่งมีคะแนนสะสมนำโด่งอยู่ และที่ 3 วิลเลี่ยม สจ๊วต นักแข่งสัญชาติไทย ขณะที่ "น้องเติ้ล" ภัทรพล วงษ์ไพร อายุ 12 ปี แม้ว่าจะเข้าอันดับ 8 ในโอเวอร์ออล แต่ก็สามารถคว้าแชมป์ได้ในรุ่นของตัวเอง คือรุ่น ร็อคจูเนียร์ ส่วนเรซที่ 2 รุ่นมินิร็อค ซึ่งมีรถเข้าแข่งขันจำนวน 11 คัน เด็กไทยซิวหมดทั้ง 3 ตำแหน่ง โดย ศศกร ชัยมงคล ได้อันดับ 1 ที่ 2 วีระวิทย์ วงศ์แสงอนันต์ และ ฉัตรมงคล วิสุทธิ์แสน
ส่วนรุ่นไฮไลท์ที่น่าจับตามอง เป็นรุ่นใหญ่ ที่มีความเร็วสูงสุด โดยนักแข่งสามารถทำความเร็วได้เฉลี่ย 56 วินาทีต่อรอบ คือในเรซที่ 3 มีรุ่น ร็อค ซีเนียร์ โรแท็กซ์ แมกซ์ ซีเนียร์ ฟอร์มูล่า 125 ซีเนียร์ โอเพ่น มีรถแข่งทั้งหมด 25 คัน ทำการแข่งขันทั้งหมด 22 รอบสนาม ในเรซนี้ มีนักแข่งดาวรุ่งของไทย ที่น่าจับตามอง ทั้ง ติณ ศรีตรัย และน้องโชกุน ณนิน อินทรพัวพง เมื่อสัญญาณแข่งขันเริ่มขึ้น สองนักแข่งไทย ต่างขับไล่บี้มากันโดยตลอด และเมื่อจบการแข่งขัน ปรากฏว่า นักซิ่งชาวมาเลเซีย อาร์รอน ลิม เบียดเอาชนะสองนักแข่งไทยทั้ง ติณ ศรีตรัย ที่หล่นไปอยู่ที่ 2 และ โชกุน ที่ได้แค่อันดับ 3
ในเรซที่ 4 แข่งทั้งหมด 18 รอบสนาม เป็นรุ่นยามาฮ่า คัพ จูเนียร์ และซีเนียร์ มีรถแข่งร่วมชิงชัย 8 คัน ซึ่งรุ่นนี้ ทางประเทศฟิลิปปินส์ ครองความเป็นเจ้าความเร็วอยู่ โดยเฉพาะ อาร์จี โรเมโร่ ที่มีคะแนนสะสมจาก 3 สนามเป็นอันดับ 1 และเป็นตัวเต็งในรุ่นนี้ด้วย แต่เมื่อสตาร์ทการแข่งขัน นักแข่งไทย "น้องณัฐ" ศุภณัฐ สุวรรรณขำ "น้องแพรว" แพรวพันธุ์ ธรรมลาภา กลับทำผลงานได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะน้องณัฐ ซึ่งขับได้ดีเป็นพิเศษ พลิกออกนำตั้งแต่สตาร์ทตั้งแต่รอบแรกจนจบการแข่งขัน ส่งผลให้ เจ้าของแชมป์เก่า อาร์จี โรเมโร่ ได้แค่อันดับสอง ส่วนนักแข่งสาวน้อย "น้องแพรว" ก็ทำผลงานได้อย่างเซอร์ไพร์ส ได้อันดับ 3 ในเรซนี้
ขณะที่เรซสุดท้าย คาเด็ท 60 ซีซี. มีรถแข่งขัน 6 คัน โดยทำการแข่งขัน 14 รอบสนาม "น้องพลอย" ทัชพันธุ์ วิจิตรานนท์ เด็กสาวชาวไทย ลงทำการแข่งขันแย่งแชมป์กับนักแข่งจากอินเดีย และแชมป์เก่าจากฟิลิปปินส์ แต่ไม่สามารถเอาชนะความเก๋าของนักซิ่งจากแดนตากาล็อกได้ ทำได้ดีที่สุดแค่ที่ 3 ส่วนแชมป์เก่า คริสเตียน กั๊ดดี ป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกครั้ง ส่วนอันดับ 2 เป็นนักแข่งชาวไทยอีกคน วีระวิทย์ วงศ์แสงอนันต์
ในส่วนของพิธีเปิดการแข่งขันนั้น นายธนเษก อัศวานุวัตร ผู้ว่าราชาการจังหวัดสระบุรี ได้เป็นประธานเปิดการแข่งขันพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ คุณากร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านหมอ นายชาคร วัฒนศิลป์ นายอำเภอบ้านหมอ นายเฉลิม วงษ์ไพร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี นายสุชา เข็มมา นายบุญส่ง เกิดหลำ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี นายวีระพล อดิเรกสาร นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี นายอารักษ์ แดงจันทร์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าลาน นายประชุม ขวัญเมือง นายกเทศมนตรีตำบลตลาดน้อย นายธนภาส ปัญญากาวิน นายกอบต.บางโขมด นายผดุงศักดิ์ ทองสาร์ นายกอบต.สร่างโศก นายศิริ ศรีมาวงศ์ นายกอบต.หนองบัว นายวิเชียร เทพพงษ์ นายกอบต.โคกใหญ่-หรเทพ นายถาวร เทพวิมลเพชรกุล นายกอบต.บ้านหมอ นายน้อย คำมี นายกอบต.ไผ่ขวาง
ภายหลังเปิดการแข่งขัน นายธนเษก กล่าวว่า จังหวัดสระบุรี รู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับนักแข่งนานาชาติและทีมแข่งจาก 9 ประเทศ ที่เดินทางมาแข่งขันและท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรี ที่ได้รับการยอมรับทั้งจากผู้จัดและนักแข่งในเรื่องของความปลอดภัย นอกจากนี้ การแข่งขันรถคาร์ทในครั้งนี้ ยังเป็นสื่อให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่ระดับโลกต่อไป
ด้านนายอโณทัย เอี่ยมลำเนา รองประธานบริหารบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า รถโกคาร์ท ถือได้ว่าเป็นกีฬ่าที่เป็นพื้นฐานของมอเตอร์สปอร์ตทั้งหมด ดังจะเห็นได้ว่า นักขับฟอร์มูล่า วัน ระดับโลก อย่างในเยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส หรือแม้กระทั่งบราซิล ล้วนแต่ผ่านการขับโกคาร์ทมาแทบทั้งสิ้น
"ในยุโรป กีฬาชนิดนี้ มีการเล่นกันอย่างแพร่หลาย มีการแข่งขันกันในระดับโลก โดยเฉพาะในฝรั่งเศส ถือได้ว่าเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีสนามโกคาร์ทกระจายไปทั่วประเทศ กว่า 100 สนาม อีกทั้ง โกคาร์ท เป็นกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ลงทุนไม่สูงมาก และเป็นกีฬาที่คนไทยซึ่งสรีระร่างกายไม่ใหญ่มาก สามารถที่จะสู้กับต่างชาติได้ เนื่องจากว่า ไม่ต้องใช้กำลังมาก รถคันเล็ก การลงทุนก็ไม่สูงมากนัก" นายอโณทัย กล่าว เขายังกล่าวต่อว่า การจัดการแข่งขันในปีนี้ ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่บริษัทกรังด์ปรีซ์ ตั้งแผนก Gpi Motorsport ขึ้นมา แต่ก็ถือว่า ได้รับการตอบรับจากนักแข่งถึง 77 คัน จาก 10 ชาติ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ประเทศไทย มีความไม่ปกติทางการเมืองก็ตาม ถึงกระนั้นในปีต่อไป หากเรามีโอกาสได้รับความไว้วางใจให้จัดอีก ก็พร้อมที่จะรับจัดการแข่งขันอีกเหมือนเดิม ขณะที่นายสุทธิชัย วงษ์ไพร นายกเทศมนตรีตำบลบ้านหมอ และกรรมการผู้จัดการ เอส.ซี. มอเตอร์สปอร์ต กล่าวถึงความพร้อมการจัดเตรียมสนามว่า หลังจากที่ได้จัดการแข่งขันไปครั้งแรกเมื่อปี 2550 และได้นำข้อบกพร่องต่างๆ มาแก้ไขปรับปรุงในปีนี้ โดยใช้เวลาเตรียมสนามกว่า 1 เดือน ซึ่งเราได้เน้นในเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง โดยทางสมาคมรถคาร์ทเอเชีย (CIK ) ได้มาตรวจความพร้อมของสนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "กีฬาแข่งขันรถคาร์ท ถือได้ว่าเป็นกีฬาครอบครัว พ่อแม่ลูก มีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน จึงนับได้ว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของกีฬาชนิดนี้ อนาคตเด็กไทย จึงสามารถสู้กับต่างชาติได้อย่างสูสี ซึ่งในขณะนี้ เรามีเด็กไทยหลายคนที่มีฝีไม้ลายไม้จัดจ้าน อย่าง ติณ ศรีตรัย หรือ โชกุน เป็นต้น ที่สามารถสู้กับนักแข่งต่างชาติได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าจะให้กีฬาชนิดนี้แพร่หลายอย่างกว้างขวางในบ้านเรา ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน โดยเฉพาะการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ มีการจัดการแข่งขันในระดับต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับเด็กไทยให้มากกว่าทุกวันนี้" นอกจากนั้นนายสุทธิชัย ยังได้กล่าวเสริมว่า เบื้องต้นได้มีการพูดกับทางประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะดึงนักแข่งระดับโลก และมาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทย คาดว่าคงไม่เกินปีหน้า กระนั้นเราก็ไม่ได้ทิ้งแมตซ์ของ Akoc ซึ่งได้มีการพูดคุยกับทางคณะกรรมการของ Akoc ซึ่งเขายืนยันจะมอบลิขสิทธิ์การแข่งให้กับทางสนาม เอส.ซี. มอเตอร์สปอร์ต แต่เพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย การแข่งขันรอบเก็บคะแนนสนาม 4 นี้ ประเทศไทยรับเป็นประเทศเจ้าภาพ มีนักแข่งจาก 10 ประเทศ ประกอบด้วย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง มาเก๊า อินเดีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ แคนาดา และประเทศไทย มีรถแข่งสมัครเข้าแข่งขันทั้งสิ้น 79 คัน
สำหรับการแข่งขันรายการนี้ ในปี 2551 จัดขึ้นทั้งหมด 5 สนาม เริ่มต้นสนามแรกที่เกาะมาเก๊า ระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย. สนามที่ 2 วันที่ 26-27 ก.ค. ที่ประเทศฟิลิปปินส์ สนามที่ 3 วันที่ 16-17 สิงหาคม ที่อินโดนีเซีย สนามที่ 4 วันที่ 1-2 พ.ย. ที่ประเทศไทย และสนามสุดท้าย วันที่ 28-30 พ.ย. ที่เกาะมาเก๊า
ผู้ส่ง : GPI Motorsport
เบอร์โทรศัพท์ : 02-522-1731