กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--ปตท.
นพ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีบริการ NGV หลักกัลปพฤกษ์ และ ศูนย์ปฏิบัติการระบบท่อส่งก๊าซ เขต 6 ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยมี นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ผู้บริหารของ ปตท. ให้การต้อนรับ
สถานีบริการ NGV หลักกัลปพฤกษ์ และ ศูนย์ปฏิบัติการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเขต 6 ของ ปตท. แห่งนี้ เป็นศูนย์กลางความมั่นคงด้านพลังงานในเขตเมือง ตั้งอยู่ที่ ถนนกัลปพฤกษ์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ด้วยความมุ่งมั่นของ ปตท. ในการดำเนินการขยายโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเข้า สู่เมือง เพื่อนำก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทั้งในภาคการผลิตกระแสไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม ภาคพาณิชยกรรมและภาคการขนส่ง
นพ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การเปิดสถานีบริการ NGV หลักกัลปพฤกษ์ และ ศูนย์ปฏิบัติการระบบท่อส่งก๊าซเขต 6 ของ ปตท. ในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความตั้งใจจริงของ ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติที่ปฏิบัติภารกิจในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการจัดหาพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการ ตลอดจนการดำเนินโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยสถานีบริการ NGV หลักกัลปพฤกษ์แห่งนี้จะช่วยให้มีก๊าซ NGV ให้บริการอย่างเพียงพอในสถานีบริการ NGV นอกแนวท่อฯ อีกทั้งศูนย์ปฏิบัติการระบบท่อส่งก๊าซฯ เขต 6 ที่มีบทบาทในการควบคุมและวางแผนปฏิบัติการรับ-ส่งก๊าซธรรมชาติให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดใน 7 โครงการสำคัญของ ปตท. จึงเป็นอีกความสำเร็จหนึ่งของการดำเนินงานของ ปตท. ในปัจจุบัน และเมื่อรวมถึงแผนการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของ ปตท. ในอนาคต ก็จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพความมั่นคงทางด้านพลังงานและระบบเศรษฐกิจโดยรวม
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า ตามแผนการดำเนินงานของ ปตท. ในการจัดหา NGV ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน นับตั้งแต่ต้นปี 2551 ที่ผ่านมา ปตท. ได้ดำเนินการขยายกำลังการผลิตของสถานีแม่ และก่อสร้างสถานีตามแนวท่อฯ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตและจ่ายก๊าซ NGV ของสถานีแม่และสถานีที่อยู่แนวท่อส่งก๊าซฯ จาก 1,900 ตัน/วัน ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มเป็น 3,564 ตัน/วัน ณ ปัจจุบัน และภายในสิ้นปี 2551 นี้จะเพิ่มเป็น 5,400 ตัน/วัน ในขณะที่ปัจจุบันมียอดการจำหน่าย NGV อยู่ที่ 2,780 ตัน/วัน
ทั้งนี้ สถานีบริการ NGV หลักกัลปพฤกษ์แห่งนี้ เป็นสถานีแม่ (NGV Mother station) ในเขตเมือง มีกำลังการผลิตก๊าซ NGV ในปริมาณ 70 ตันต่อวัน ด้วยจำนวนรถขนก๊าซ 30 คัน สามารถขนก๊าซ NGV ได้ 60 เที่ยวต่อวัน ทำให้ ปตท. สามารถจัดส่งก๊าซ NGV ป้อนให้สถานีนอกแนวท่อฯ ขนาดเล็ก (Mini Daughter Station) ในย่านชุมชนเขตกรุงเทพมหานครได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก รวมทั้งยังสามารถจัดส่งก๊าซ NGV ให้กับสถานีฯ บริเวณรอบนอกในเขตปริมณฑลในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และ สมุทรสาคร เพิ่มขึ้นถึง 7 สถานี ซึ่งจะทำให้ปริมาณก๊าซ NGV มีให้บริการอย่างเพียงพอ สามารถช่วยบรรเทาปัญหาการเข้าคิวรอเติม NGV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีสถานีบริการ NGV เปิดให้บริการแล้วจำนวน 254 สถานี ซึ่ง ปตท. ยังคงเร่งดำเนินการฯ โดยจะเพิ่มเป็นกว่า 300 สถานี ในสิ้นปี 2551
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับศูนย์ปฏิบัติการระบบท่อส่งก๊าซฯ เขต 6 ซึ่งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับสถานี NGV หลักกัลปพฤกษ์ นี้ เป็นศูนย์ควบคุมแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในเขตเมือง โดยจะเป็นศูนย์ปฏิบัติการในการควบคุมการรับ-ส่งก๊าซฯ ในเขตชุมชนเมืองและปริมณฑล รวมถึงโครงข่าย City Gas ทั้ง 7 โครงการของ ปตท. จากระบบท่อส่งก๊าซฯ หลัก รวมระยะทางประมาณ 170 กม. ประกอบด้วย
1. โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไทรน้อย — โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ/ใต้
2. โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ถ.สุขสวัสดิ์ จ.สมุทรปราการ
3. โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังสถานีบริการ NGV และสถานีขนส่งสายใต้ใหม่
4. โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติสุวรรณภูมิ-พญาไท
5. โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติตามแนวถนนเอกชัย-พระราม 2
6. โครงการท่อส่งก๊าซฯศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะและศูนย์พลังงานแห่งชาติ ปทุมธานี-พญาไท
7. โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังโรงกลั่นน้ำมันบางจาก
ซึ่งศูนย์ควบคุมการทำงานโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซฯ ของ ปตท. ได้ออกแบบให้เป็นระบบควบคุมอัตโนมัติ (Supervisory Control and Data Acquisition System ) หรือที่เรียกว่า SCADA ซึ่งควบคุมเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะทำงานสอดประสานกันกับศูนย์ควบคุมหลักที่ จ.ชลบุรี ผ่านระบบสื่อสารที่ทันสมัย และข้อมูลที่ได้จาก SCADA จะสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับระบบความดัน อุณหภูมิ อัตราการไหลของก๊าซฯ ตำแหน่งการทำงานของอุปกรณ์ฯ รวมถึงระบบสัญญาณเตือนต่างๆ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าโครงข่ายท่อฯ City Gas จะปลอดจากปัญหาการติดขัดของระบบท่อฯ และที่สำคัญที่สุดคือ ประเทศชาติได้รับประโยชน์จาการลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ สามารถทดแทนน้ำมันในภาคการผลิตกระแสไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม ภาคการคมนาคมขนส่ง อีกทั้งยังเป็นพลังงานสะอาดช่วยลดมลภาวะ ขณะเดียวกันด้วยคุณลักษณะที่ต้องขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อฯ ทำให้ลดปัญหาด้านการจราจร และลดภาระต้นทุนของผู้ประกอบการในการจัดเก็บเชื้อเพลิงอีกด้วย
โทรศัพท์ 0-2537-3217 ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทรสาร 0-2537-3211