กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--ปตท.
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้อ่อนตัวลงจากปัจจัยระยะสั้นโดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยเนื่องมาจากปัญหาวิกฤติทางการเงินที่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน และยังส่งผลให้เกิดการว่างงาน โดยล่าสุดอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือน ต.ค.51 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อน ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 6.5% และนักวิเคราะห์จาก Petroleum Industry Research Associate (PIRA) คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2552 จะเติบโตเพียง 7.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศในปี 2552 เติบโตเพียง 4.1% หรือ 320,000 บาร์เรล/วัน
ล่าสุด (10 พ.ย. 51) ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 54.02 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ 53.75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และดีเซลอยู่ที่ 71.28 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท. จึงได้พิจารณาลดราคาน้ำมันขายปลีกเบนซิน 91 และกลุ่มเบนซินแก๊สโซฮอล์ (91, 95 และ อี 20) ลงให้ผู้บริโภคอีก 80 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (วันอังคารที่ 11 พ.ย. 51) เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 85 พลัส 18.29
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 20 พลัส 19.79
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 21.09
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 20.29
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 26.19
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 21.84
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 22.84
สำหรับการลดราคาครั้งนี้ เป็นการปรับลดราคาน้ำมันให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 35 แล้ว นับตั้งแต่ต้นเดือน กรกฎาคม 2551-ปัจจุบัน ซึ่ง ปตท. พร้อมลดราคาน้ำมันเพื่อสะท้อนตามต้นทุนตลาดโลก รวมกลุ่มดีเซลลดลงไปแล้ว 21.40 บาท/ลิตร และกลุ่มเบนซินลดลงไป 18.10 บาท/ลิตร นายประเสริฐ กล่าวตอนท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนสื่อสารธุรกิจน้ำมัน ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2571
โทรสาร 0 2537 2572