สสส. จับมือ ผู้ผลิต-ผู้ค้า พัฒนาตลาดผักปลอดสาร สร้างคุณภาพอาหาร เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Tuesday November 11, 2008 09:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--สสส. อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากเราสามารถพัฒนาและสร้างกระบวนการผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยจากสารพิษต่างๆ ก็ย่อมที่จะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนภายในประเทศ ทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงในด้านปัญหาสุขภาพอีกทางหนึ่ง ในปัจจุบันถึงแม้ว่าจะมีการรณรงค์ให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมี และส่งเสริมให้มีการผลิตอาหารจำพวกผักและผลไม้ที่ปลอดจากสารพิษกันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีผู้ผลิตอีกเป็นจำนวนมากที่มิได้ใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ รวมไปถึงผู้บริโภคจำนวนมากก็ยังขาดความเอาใจใส่ในเรื่องคุณภาพชีวิตของตนเอง นอกจากนี้เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าปลอดสารพิษยังขาดแหล่งจำหน่ายผลผลิตที่มีการแยกตลาดอย่างชัดเจนกับสินค้าทั่วไป ทำให้กระแสความนิยมในการบริโภคผักปลอดสารพิษของประชาชนส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งๆที่รู้ว่าดีแต่ก็ไม่รู้จะไปหาซื้อได้จากที่ไหน ด้วยเหตุนี้ทาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในจังหวัดขอนแก่น ดำเนินงาน “โครงการผักปลอดภัยจากสารพิษ จังหวัดขอนแก่น” ขึ้นมาโดยมุ่งหวังให้ประชาชนในเมืองดอกคูณเสียงแคนได้มีโอกาสบริโภคอาหารที่สะอาดและปลอดภัยจากสารพิษอย่างยั่งยืน รศ.ดร.สุพัตรา ชาติบัญชาชัย ผู้จัดการแผนงานผักปลอดสารพิษ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า โครงการผักปลอดภัยจากสารพิษ เกิดขึ้นในปี 2547 โดยได้รับทุนการสนับสนุนจาก สสส. เพื่อจัดทำระบบการปลูกผักปลอดสารพิษ โดยคิดค้นกระบวนวิธีให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานผักปลอดสารพิศได้อย่างแท้จริง ซึ่งต้องเริ่มที่เกษตรกรผู้ปลูกผัก ร้านค้าที่รับซื้อ และความตระหนักของผู้บริโภค ในการทำงานจึงมีการประสานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในจังหวัด อาทิ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขต 3 เข้าไปสร้างองค์ความรู้ในเรื่องนี้ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องแต่ละภาคส่วน และเน้นสร้างแรงกระตุ้นเข้าไปสู่การปกครองในระดับท้องถิ่นเพื่อให้การทำงานมีความเข้มแข็งและมีรูปแบบที่ชัดเจน “เราต้องการให้กลุ่มเป้าหมายคือชาวบ้านตั้งแต่ในระดับชุมชน ได้มีวัตถุดิบที่ปลอดภัยไปประกอบอาหารรับประทานในครัวเรือน จึงวางแผนการทำงานโดยผลักดันนโยบายไปสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงให้เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา ได้แก่ เกษตรกรผู้ปลูกผักและตลาดซึ่งมีหน้าที่กระจายสินค้า โดยให้ทั้ง 2 ส่วนได้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้ประชาชนคำนึงถึงความปลอดภัยจากการบริโภคอีกด้วย” รศ.ดร.สุพัตรากล่าว โดยมีพื้นที่ตัวอย่างที่ดำเนินตามแนวทางโครงการฯ ที่ทาง สสส.ได้เข้าไปสนับสนุนตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งสามารถปลูกผักปลอดสารพิษได้อย่างยั่งยืน มีผลผลิตกระจายสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่องคือ กลุ่มเกษตรกรที่หมู่บ้านบ้านหม้อ ต.คูคำ อ.ซัมสูง จ.ขอนแก่น ซึ่งใช้วิธีปลูกผักกางมุ้งเพื่อป้องกันแมลงและศัตรูพืช ลดการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลง “เดิมเมื่อเจอแมลงรบกวนก็ใช้ยาฆ่าแมลงตลอด แต่เมื่อได้เปลี่ยนเป็นการปลูกผักกางมุ้ง ก็ช่วยลดต้นทุนการใช้ยาฆ่าแมลง ค่าน้ำ และค่าปุ๋ยลงได้ หากเจอแมลงรบกวนมากๆ ก็จะไถทิ้งให้เป็นปุ๋ยแล้วปลูกใหม่ทันที เพราะเรานึกถึงสุขภาพของตัวเองและผู้บริโภคเป็นหลัก” นายสุนันท์ เผ้าหอม ผู้ใหญ่บ้านบ้านหม้อ เล่าถึงแนวคิดที่ส่งผลดีต่อทั้งคนปลูกและคนซื้อ ด้านหัวหน้ากลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ นายสมจิตร เผ้าหอม กล่าวเสริมว่า “การปลูกผักปลอดสาร มีต้นทุนค่าไถกลบ ค่าปุ๋ยมูลสัตว์และค่าเมล็ดพันธุ์เท่านั้น ที่เหลือจึงเป็นกำไรเฉลี่ยไร่ละ 3-4 หมื่นบาท มากขึ้นกว่าตอนที่ใช้สารเคมีถึง 2 เท่า และที่สำคัญคือ เมื่อก่อนสังเกตได้ว่าเมื่อใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง คนทำไร่เองมักจะเป็นโรคต่างๆค่อนข้างมาก แต่พอได้เรียนรู้วิธีการปลูกผักปลอดสารพิษแล้ว สังเกตได้ว่า สุขภาพของผู้ปลูกเองก็ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริโภคเองก็ได้สุขภาพที่ดีกลับไป” ผลผลิตของชาวบ้านหม้อ เป็นผักตามฤดูกาลที่นิยมบริโภคกันทั่วไปได้แก่ ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ถั่วฝักยาว และมะเขือ ซึ่งมีการปลูกหมุนเวียนสลับกันไป ในแต่ละวันชาวบ้านจะนำผลผลิตที่ได้มารวมกันแล้วให้ตัวแทนหมู่บ้านนำไปขายที่ “ตลาดบางลำภู” ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองขอนแก่น เพื่อลดปัญหาการถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา และผู้บริโภคก็จะได้รับประทานผักปลอดสารพิษสดใหม่ทุกวัน นายภาสภาดร เนียมประดิษฐ์ ผู้จัดการตลาดบางลำภู เปิดเผยว่า ทางตลาดได้คำนึกถึงความปลอดภัยและสุขภาพของผู้บริโภค จึงได้มีนโยบายสนับสนุนการผลิตและจำหน่ายผักปลอดสารพิษในตลาดโดยแบ่งพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน “ทางตลาดได้มีการจัดพื้นที่จำหน่ายผักปลอดสารพิษให้กับกลุ่มเกษตรกรบ้านหม้อ เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการรายอื่นๆ ได้เห็นว่าสินค้าประเภทผักปลอดสารพิษมีความต้องการจากผู้ซื้อ และมีตลาดรองรับ มีการประกาศเสียงตามสายเชิญชวนให้ผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยหันไปบริโภคผักปลอดสารพิษอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการจัดโต๊ะทดสอบสารพิษตกค้างในอาหาร ให้แก่ผู้ซื้อโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น และเราสร้างห้องล้างผักที่ได้มาตรฐาน ให้พ่อค้าแม่ค้าและผู้ซื้อเข้าไปเรียนรู้วิธีการล้างผักที่ถูกสุขอนามัย แต่วัตถุประสงค์หลักจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ซื้อได้ฉุกคิดว่า ผักทั่วไปอาจมีสารเคมีตกค้าง ทางที่ดีควรหันไปบริโภคผักปลอดสารพิษจะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า” ผู้จัดการตลาดบางลำพูเล่าถึงการสร้างจิตสำนึกในเรื่องการบริโภคผักปลอดภัย โครงการผักปลอดภัยจากสารพิษ จังหวัดขอนแก่นก่อให้เกิดการร่วมมือกันระหว่างเกษตรกรผู้ผลิต และตลาด ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอาหารที่มีความปลอดภัยได้โดยง่าย ส่งผลดีกับทุกฝ่ายทั้งในเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจในชุมชน และสังคมในระดับท้องถิ่น ซึ่งผู้จัดการแผนงานผักปลอดสารพิษ จ.ขอนแก่น กล่าวสรุปถึงการดำเนินงานของโครงการนี้ว่า "เมื่อผู้ผลิตเองก็มีจิตสำนึกผลิตอาหารปลอดภัย และตลาดก็มีจิตสำนึกในการขายสินค้าที่มีคุณภาพ สิ่งที่ชาวขอนแก่นจะได้รับคือ สุขภาพอนามัยที่ดี ซึ่งเกิดจากการได้บริโภคอาหารดีๆ ที่มีคุณภาพ และสามารถเข้าถึงผักปลอดภัยจากสารพิษอย่างต่อเนื่องและตลอดไป" ผู้ส่ง : punnda เบอร์โทรศัพท์ : 0813580687

แท็ก สสส.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ