ฟิทช์ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้มูลค่า 2 หมื่นล้านบาทของธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ ‘AA-(tha)’

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 12, 2008 14:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัดประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) แก่หุ้นกู้ประเภทไม่มีหลักประกัน และไม่ด้อยสิทธิ มูลค่ารวมไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท และมีอายุไม่เกิน 4 ปี ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ที่ระดับ ‘AA-(tha)’ (AA ลบ(tha)) ในขณะที่ตัวธนาคารมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตของธนาคารสะท้อนถึงผลการดำเนินงานและคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น ถึงแม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังคงอ่อนแอ รวมถึงสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคารและการสนับสนุนทางด้านการดำเนินงานและด้านการเงินจาก GE Capital International Holdings Corporation (GECIH) ซึ่งขณะนี้ถือหุ้นใน BAY อยู่ 33% การให้การสนับสนุนจาก GECIH ที่สูงขึ้น คาดว่าจะช่วยทำให้ธุรกิจในส่วนลูกค้ารายย่อยของ BAY มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และคาดว่าจะช่วยให้ผลการดำเนินงานของธนาคารดีขึ้นได้ในช่วงหนึ่งถึงสองปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าในระยะสั้นผลการดำเนินงานของธนาคารมีโอกาสที่จะอ่อนแอลง แต่คาดว่าสถานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคารจะสามารถรองรับผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะชะลอตัวลงอย่างมากในปี 2552 ได้ ผลประกอบการของ BAY ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551โดยธนาคารมีกำไรสุทธิ 4 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับผลขาดทุน 4 พันล้านบาทในปี 2550 โดยผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น มีสาเหตุหลักมาจากการกันสำรองหนี้สูญที่ลดลงและการเพิ่มขึ้นของรายได้โดยรวม ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของธนาคารในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 ได้รับผลกระทบจากการบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนในตราสารหนี้ประเภท Collateralized Debt Obligation หรือ CDO เป็นจำนวน 1.7 พันล้านบาท โดยในปัจจุบันมูลค่าคงเหลือทางบัญชีของเงินลงทุนในตราสารหนี้ประเภท CDO อยู่ที่ประมาณ 20% ของต้นทุน รายได้และส่วนต่างกำไรของ BAY เติบโตขึ้นอย่างมากเป็นผลมาจากการที่ธนาคารเข้าซื้อธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จาก GE Capital (GECAL) ที่มีสินทรัพย์รวม 77.8 พันล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้สินทรัพย์ของธนาคารเพิ่มขึ้น 12% ทั้งนี้ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิของ BAY ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2551 จาก 3.0% ในปี 2550 ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ BAY ลดลงมาอยู่ที่ 64 พันล้านบาท หรือ 12% ของสินเชื่อ จาก 72 พันล้านบาท หรือ 16% ของสินเชื่อ ณ สิ้นปี 2550 โดยในเดือนตุลาคม 2551 BAY ได้ทำการขายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มูลค่า 8.9 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารลดลงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 10% ภายในสิ้นปี 2551 ถึงแม้ว่าอัตราส่วนของการกันสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 56% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 แต่อัตราส่วนดังกล่าวยังคงต่ำกว่าธนาคารอื่น ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่ BAY อาจต้องกันสำรองเพิ่มเติมอีกในอนาคต แต่คาดว่าการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานจะสามารถลดผลกระทบจากการกันสำรองหนี้สูญที่อาจเพิ่มขึ้นได้ ด้วยเงินลงทุนจาก GECIH มูลค่า 32 พันล้านบาท และการใช้ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญอีก 9.7 พันล้านบาทในปี 2550 ส่งผลให้ BAY เป็นหนึ่งในธนาคารไทยที่มีระดับเงินกองทุนสูงที่สุด โดยธนาคารมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 13.7% และมีเงินกองทุนรวมที่ 17.7% อย่างไรก็ตามคาดว่าเงินกองทุนของธนาคารจะลดลงเล็กน้อย จากการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สำหรับความเสี่ยงด้านปฏิบัติการของ Basel 2 ภายในสิ้นปีนี้ BAY ก่อตั้งขึ้นในปี 2488 และเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย โดยมีสาขาทั้งสิ้น 579 สาขา และมีส่วนแบ่งการตลาดทางด้านสินเชื่อและทางด้านเงินฝากอยู่ที่ 9% และ 8% ตามลำดับ ธนาคารมีบริษัทในเครือซึ่งดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิต ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจบริหารกองทุน เนื่องจากธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดของเงินฝากและสินเชื่อในสัดส่วนที่ค่อนข้างใหญ่ จึงมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหากมีความจำเป็น ติดต่อ Vincent Milton, กรุงเทพฯ +662 655 4759 พชร ศรายุทธ, กรุงเทพฯ +662 655 4761 หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้ คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ