กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--รี้ด เทรดเด็กซ์
กรุงเทพมหานคร เตรียมทุ่มงบ 10 ล้าน เนรมิตสวนสวยสไตล์เรียบง่ายตามโครงการพระราชดำริ เน้น “เศรษฐกิจพอเพียง พลังงานพอใช้ ทรัพยากรไม่รั่วไหล สุขใจเมืองน่าอยู่” โดยนำเสนอ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และ การรักษาสิ่งแวดล้อมให้สมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ
นาย ธีระชัย เธียรสรรชัย ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทม.ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการจัดสวนเฉลิมพระเกียรติฯประเภทองค์กรแล้ว โดยใช้พื้นที่ 1,600 ตารางเมตร ก่อสร้างอาคารที่มีการควบคุมอุณหภูมิ โดยตัวอาคารจะมีความกลมกลืนและแฝงไปด้วยธรรมชาติที่แวดล้อมอยู่ ภายใต้ 4 แนวคิดหลักคือ เศรษฐกิจพอเพียง พลังงานพอใช้ ทรัพยากรไม่รั่วไหล สุขใจเมืองน่าอยู่ ประกอบด้วย เศรษฐกิจแบบพอเพียง จะเป็นการนำเสนอในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยมีการหมักน้ำจุลินทรีย์ ใช้เปลือกส้ม เปลือกมะนาว เพื่อเอาไปใช้กับคนที่อยู่ริมคลองไว้ซักผ้า ถูเรือน ดังนั้นน้ำที่เทลงไปในคลองจะช่วยบำบัดน้ำเสียไปโดยปริยาย และสามารถแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียได้ด้วย จึงเป็นการประหยัดเงินที่จะนำไปซื้อน้ำยาซักผ้าถูบ้าน และสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงด้วย การประหยัดพลังงาน
ในส่วนของอาคารจะเน้นความกลมกลืนแฝงธรรมชาติ และควบคุมอุณหภูมิ รวมไปถึงการใช้พลังงาน โดยเน้นการประหยัดพลังงานเป็นหลัก และได้มีการนำพลังงานจากลมเข้ามาใช้ โดยจะติดตั้งกังหันลมเข้ามาเพื่อช่วยเพิ่มการผลิตพลังงานที่จะนำไปใช้ในสวนเพื่อเพิ่มแสงสว่าง และพลังงาน แต่ทั้งนี้ต้องดูความเหมาะสมในเรื่องของการติดตั้งควบคู่กันไป ทรัพยากรไม่รั่วไหล ตามแนวความคิดนี้ ทาง กทม. ได้ปรึกษากันว่า หากเป็นต้นไม้ใหญ่สามารถนำลงแปลงปลูกได้เลย แต่ถ้าเป็นไม้พุ่ม หรือ มีความสูงไม่มากนัก จะมีการนำพลาสติกมาคลุมหน้าดินเพื่อไม่ให้การรดน้ำต้นไม้สูญเสียความชื้นระเหยออกไป เป็นการประหยัดทรัพยากรน้ำ และสุขใจเมืองน่าอยู่ นำแนวความคิดเกี่ยวกับขยะรีไซเคิล เข้ามาใช้ในการจัดสวนนี้ด้วย โดยทุกอย่างที่นำมาแจกหรือใช้ในงานจะต้องสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ได้อีก ส่วนการตกแต่งสวนให้มีความน่าสนใจ ที่สามารถจะดึงดูดผู้ชมงานได้นั้น อาจจะใช้สัญลักษณ์ประจำเมืองกรุงเทพมหานคร นั่นคือ เสาชิงช้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบสวน
“งานนี้เป็นงานมหกรรมระดับโลกที่ประเทศไทยจะได้ประชาสัมพันธ์เมืองเราให้ทั่วโลกได้รู้จักในฐานะที่เป็นเมืองแห่งการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรที่หลากหลาย ทั้งไม้ดอกไม้ประดับมากมาย และสามารถนำมาตกแต่งอวดสายตาชาวโลกได้อย่างไม่น้อยชาติอื่นๆ ที่สำคัญทั้งคนไทยและนานาชาติจะได้มีโอกาสในการเข้าชมความงามของพรรณพืชไม้เขตร้อนในประเทศไทย นี่จึงเป็นจุดขายที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น สำหรับกรุงเทพมหานคร พร้อมเข้าร่วมในการจัดสวนเฉลิมพระเกียรติฯ แด่พ่อหลวงอย่างเต็มที่ เพราะงานนี้เป็นงานแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทยและเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคน เข้าชมงานนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ประกาศศักยภาพความพร้อมและพลังสามัคคีของพสกนิกรคนไทยที่ร่วมจัดงานถวายแด่พ่อหลวงเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ยิ่งใหญ่ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปี 2550” นายธีระชัย กล่าว
งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 — 31 มกราคม 2550 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ต.แม่เหียะ จ.เชียงใหม่ เป็นมหกรรมระดับโลกที่ไม่ใช่แค่งานมหกรรมการแสดงพรรณไม้เขตร้อนชื้นกว่า 2,200 ชนิด มากกว่า 2.5 ล้านต้น เท่านั้น แต่หากยังเป็นการแสดงถึงพระบารมีและพระอัจฉริยภาพทางด้านการเกษตรและเทคโนโลยีการผสมผสานแห่งกษัตริย์นักการเกษตรของไทยให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ ซึ่งขณะนี้งานมีความคืบหน้าไปอย่างมาก ได้แก่ การเข้าร่วมจัดสวนนานาชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ พื้นที่เต็มมี 27 ประเทศตอบรับเข้าร่วมจัดสวน ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม มาเลเชีย กัมพูชา ลาว อินโดนีเชีย อินเดีย เนปาล ภูฏาน บังคลาเทศ ปากีสถาน อิหร่าน กาตาร์ ตุรกี สเปน เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ บัลกาเรีย มอริเตเนีย เคนย่า บราซิล ไนจีเรีย กาบอง ซูดาน ตรินิแดดแอนด์โตเบโก และ จีน โดยมีกำหนดเข้าเริ่มการก่อสร้างสวนในเดือนพฤษภาคม 2549
สวนเฉลิมพระเกียรติประเภทองค์กร 20 องค์กร ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัด การท่าเรือแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ธนาคารออมสิน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย บริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จังหวัดอยุธยา จังหวัดราชบุรี บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) จังหวัดกรุงเทพมหานคร เทศบาลนครเชียงใหม่ บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) การประปานครหลวง และ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีกำหนดเข้าเริ่มการก่อสร้างสวนในเดือนมิถุนายน 2549
การแสดงพรรณไม้แปลกและหายาก จำนวน 80 ชนิด จาก 16 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี เชียงใหม่ นครนายก พะเยา พังงา พิจิตร ภูเก็ต ระนอง ลพบุรี สงขลา สตูล สระแก้ว สุราษฎร์ธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และสกลนคร การแสดงทางวัฒนธรรมและกิจกรรมการแสดง (Culture Performance) 57 รายการจาก 32 จังหวัด ทั่วประเทศ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมจากนานาประเทศ ขณะนี้ มีประเทศยืนยันส่งการแสดงทางวัฒนธรรมเข้าร่วมจำนวน 7 ประเทศ ได้แก่ บังคลาเทศ กัมพูชา อินโดนีเชีย ญี่ปุ่น มอริตาเนีย เนปาล และสเปน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
สำนักงานผู้บริหารงานปฏิบัติการ กิจกรรม และ ประชาสัมพันธ์
เกศินี พันธุ์ธีรานุรักษ์ โทร. 0-2686-7306 หรือ 01-989 3416 email:kaesinee@royalfloraexpo.com
นวพร โรจน์อารยานนท์ โทร. 0-2686-7252 หรือ 05-907 9490 email:nawaporn@royalfloraexpo.com
สุวรรณา จารุธนกิจพานิช โทร. 0-2686-7329 หรือ 01-615 2558 email:suwanna@royalfloraexpo.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net