ซันพลิกประวัติศาสตร์เปิดโอเพ่นซอร์สซอฟต์แวร์จาวาภายใต้ไลเซนส์ GPL ผ่าน NETBEANS และชุมชนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ JAVA.NET

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday November 22, 2006 11:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--ซัน ไมโครซิสเต็มส์
เดินหน้าสานต่อความสำเร็จของ NetBeans และ OpenSolaris เพื่อสร้างชุมชนนักพัฒนา เทคโนโลยีจาวาในแบบโอเพ่นซอร์ส ซัน ไมโครซิสเต็มส์ บริษัทผู้สร้างและผู้ผลักดันเทคโนโลยีจาวาชั้นนำ ประกาศเปิดเทคโนโลยีจาวาเป็นซอฟต์แวร์ฟรีภายใต้การใช้งานตามเงื่อนไข GNU General Public License version two (GPLv2) โดยที่มีผลนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปกับซอร์สโค้ดจาวา ใน Java Platform Standard Edition (Java SE) และ Java Platform Micro Edition (Java ME)
โดยรายละเอียดต่าง ๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.sun.com/opensource/java นอกจากนี้ ซันยังได้นำการกำหนดสิทธิใช้งานในแบบ GPLv2 มาใช้กับกับตัว Java Platform Enterprise Edition (Java EE) ซึ่งเดิมมีนำเสนอนานกว่าปีแล้วภายใต้เงื่อนไขการใช้งาน Common Development and Distribution License หรือ CDDL ผ่าน Project GlassFish ที่ http://glassfish.dev.java.net
การประกาศเปิดโอเพ่นซอร์สครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในการเปิดซอร์สโค้ดครั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาภายใต้เงื่อนไขไลเซนส์ใช้งานแบบ GPL (เป็นเงื่อนไขเดียวกับที่มีใช้กับระบบปฏิบัติการ GNU/Linux) และนับเป็นการเปิดโอเพ่นซอร์สของหนึ่งในแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ที่สำคัญและมีใช้งานกันอย่างกว้างขวางที่สุดอีกด้วย โดยในปัจจุบันมีอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ที่ใช้งานเทคโนโลยีจาวา มากกว่า 3.8 พันล้านเครื่อง แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีจาวากำลังเติบโตอย่างรวดเร็วมีแพร่หลายในทุกสถานที่ นับจากโทรศัพท์มือถือ และบัตรสมาร์ทการ์ด ไปจนถึง แอพพลิเคชั่นระดับเอ็นเทอร์ไพร์ส ตลอดจนเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยเทคโนโลยีจาวาเป็นเสมือนแพล็ตฟอร์มร่วมสำหรับนวัตกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ทางซอฟต์แวร์ในปัจจุบัน และด้วยการเปิดโอเพ่นซอร์สซอฟต์แวร์จาวา ไปพร้อมๆ กับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าของเรา ซันคาดหวังว่าเทคโนโลยีจาวาจะยิ่งมีการใช้งานแพร่หลายยิ่งไปกว่านี้อีก
"ด้วยการโอเพ่นซอร์สเทคโนโลยีจาวาของเรา จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับก้าวใหม่ของความร่วมมือและนวัตกรรมใหม่ๆ ในหมู่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยใช้ NetBeans Integrated Development Environment หรือ IDE และคาดว่าแพลตฟอร์มจาวาจะกลายเป็นพื้นฐานหลักสำหรับแอพพลิเคชั่นอินเทอร์เน็ต เดสก์ท็อป โมไบล์ และเอ็นเทอร์ไพร์สในยุคหน้า " ริช กรีน รองประธานบริหารฝ่ายงานซอฟต์แวร์ของซันกล่าว "และเมื่อซอฟต์แวร์ Java Development Kit (JDK) ได้กลายเป็นซอฟต์แวร์ฟรีภายใต้เงื่อนไข GPL ซันจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้จัดจำหน่ายระบบปฏิบัติการ GNU/Linux ซึ่งจะสามารถรวมเอาซอฟต์แวร์ JDK เข้าไว้ในรีโพซิทอรีโอเพ่นซอร์ส ซึ่งปกติจะรวมไว้กับตัวระบบ GNU/Linux อีกด้วย"
"ทุกคนต่างคาดกันมานานว่า พอถึงวันหนึ่ง ซันจะเปิดโอเพ่นซอร์สเทคโนโลยีจาวาอย่างแน่นอน แต่ไม่มีใครคาดเลยว่าจะเปิดถึงระดับ GPL นับเป็นก้าวที่กล้าและโอกาสที่ดีกับทั้งซัน และซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สแบบฟรี" ทิม โอไรลีย์ ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ O'Reilly Media กล่าว
Java SE
ขณะนี้ซันได้รีลีสสามคอมโพเนนท์สำคัญซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดโอเพ่นซอร์สของ Java SE ในชุมชนใน Java.net ได้แก่เทคโนโลยี Java HotSpot คอมไพเลอร์โปรแกรมมิ่งภาษาจาวา (javac) และซอฟต์แวร์ JavaHelp โดยซันคาดว่าจะออกรีลีสที่บิลด์ได้ของ JDK ในไตรมาสแรกของปี 2007 ตามมาด้วยการกำหนดระเบียบปฏิบัติของชุมชนซอฟต์แวร์ฟรีในการออกไลเซนส์ใช้งานเวอร์ช่วลแมชชีน และไลบรารีที่เกี่ยวข้อง สำหรับเทคโนโลยี Java HotSpot และ javac เป็นหนึ่งในบรรดาส่วนที่สำคัญที่สุดของ Java SE โดยเทคโนโลยี Java HotSpot คือ Java Virtual Machine (JVM) และคอมโพเนนท์สำคัญของ Java Runtime Environment (JRE) ที่แปลงโค้ด Java สำหรับแต่ละระบบปฏิบัติการและไมโครชิปที่ใช้งาน ซึ่งช่วยให้ซอฟต์แวร์จาวาสามารถรันได้กับทุกเครื่องทุกระบบ ส่วน javac คือซอฟต์แวร์คอมไพเลอร์ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ซอร์สโค้ดจาวาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและสร้างไบต์โค้ดที่เหมาะสมในการใช้งานส่วนซอฟต์แวร์ JavaHelp คือระบบเอกสารที่สนับสนุน JDK.
คอมโพเนนท์แรกๆ ของโปรเจ็กต์ OpenJDK เหล่านี้จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดลองใช้งานคอมไพเลอร์ ทดลองคุณสมบัติใหม่ ๆ ของภาษา เรียนรู้การสร้างเวอร์ช่วลแมชชีนระดับนำ พอร์ต JVM ลงเครื่องฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการใหม่ๆ ตรวจแก้บั๊ค รวมทั้งนำเสนอคุณสมบัติใหม่ๆ เพิ่มเติม และด้วยโปรเจ็กต์ OpenJDK นี้ บรรดานักพัฒนาซอฟต์แวร์จะสามารถมีอิทธิพลโดยตรงต่ออนาคตของการใช้ JDK มีส่วนร่วมกับเพื่อนร่วมอาชีพในชุมชนโอเพ่นซอร์สและช่วยนำเทคโนโลยี Java ไปสู่การใช้งานใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
Java ME
ที่มีให้ทันทีในชุมชนนักพัฒนา Java.net ก็คือ ซอร์สโค้ดของระบบโทรศัพท์มือถือ Java ME ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับอนาคตในยุคหน้าของการใช้งานที่ช่วยให้สามารถส่งบริการข้อมูลคุณภาพสูงไปยังโทรศัพท์มากกว่า 1.5 พันล้านเครื่อง นอกจากนี้ยังมี Java ME ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือแบบก้าวหน้า ซึ่งเป็นเซ็กต์เมนต์ของตลาดที่กำลังก่อตัว และเฟรมเวิร์กในการทดสอบการใช้งานร่วมของ Java ME ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทดสอบการใช้งานและการทำงานร่วมกันได้ของ Java ME ของซัน โดยในช่วงปลายปีนี้ซันยังจะรีลีสซอร์สโค้ดอื่นๆ เพิ่มเติม รวมทั้งเฟรมเวิร์กของ Java Device Test Suite อีกด้วย
ซันได้รีลีสเทคโนโลยีเหล่านี้ในรูปแบบของซอฟต์แวร์ฟรี เพื่อที่จะเร่งการพัฒนาของแพลตฟอร์มนี้ ลดความแตกต่างในการพัฒนา และลดต้นทุนในการพัฒนาระบบของทุกฝ่ายที่เกี่ยวของในชุมชนพัฒนา Java ME ยิ่งไปกว่านั้น ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะช่วยให้การเข้าถึงเทคโนโลยี Java ME เวอร์ชั่นล่าสุดทำได้ง่ายขึ้น และนับเป็นครั้งแรกที่ทำให้ทั้งชุมชนพัฒนา Java ME สามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้
Java EE
นอกจากนี้ซันยังได้ประกาศเปิดซอร์สโค้ดของ Project GlassFish (ส่วนหนึ่งของชุมชน GlassFish) ภายใต้เงื่อนไขการใช้แบบโอเพ่นซอร์สทั้งตู่ โดยนอกเหนือจาก CDDL นี้ ตัว Project GlassFish จะเข้าร่วมในเงื่อนไขการใช้งานแบบโอเพ่นซอร์ส GPLv2 ในไตรมาสแรกของปี 2007 การเพิ่มไลเซนส์ที่สองนี้ ช่วยให้กระบวนการรวมและแจกจ่ายโค้ดของ GlassFish กับชุมชนนักพัฒนา GPL ทำได้สะดวกขึ้น การเปิดโอเพ่นซอร์สแพลตฟอร์มจาวานี้ ซันได้ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ สามารถแจกจ่ายตัวเวอร์ชั่นที่อัปเดตแล้วของ Java SE, Java EE และ Java ME รวมกันได้สะดวกขึ้น
NetBeans และทูลพัฒนาซอฟต์แวร์ของซัน
NetBeans IDE ช่วยให้การเริ่มพัฒนา JDK ทำได้ง่ายขึ้นมาก เพราะคอมโพเนนท์โอเพ่นซอร์สได้ถูกตั้งค่าไว้แล้วว่าเป็นโปรเจ็กต์ NetBeans นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถดาวน์โหลดซอร์สโค้ด และเปิดใน NetBeans IDE จากนั้นใช้คำสั่ง Build Project เพื่อสร้างขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและคำแนะนำแบบเป็นขั้นตอน สามารถดูได้ที่ http://nb-openjdk.netbeans.org ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโปรเจ็กต์การพัฒนาแอพพลิเคชั่นของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ให้โดยเป็นส่วนหนึ่งในชุมชน Mobile & Embedded ที่เชื่อมโยงกับแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
อาทิเช่น NetBeans Mobility Pack ทูลเขียน Java ME ที่นำเสนอระดับความซับซ้อนใหม่ที่เหนือกว่า และการดีไซน์การออกแบบหน้าจอที่สะดวกด้วยฟังก์ชั่นการลากและวาง ซันยังได้เปิดเปิด Sun Studio สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ตรงตามเนทีฟโค้ดของแพล็ตฟอร์ม ในเวอร์ช่วลแมชชีนของ Java HotSpot อีกด้วย
NetBeans 5.5 เวอร์ชั่นใหม่ที่เพิ่งออกมามีคุณสมบัติใหม่ ๆ เพิ่มเติมเช่น Java Persistence API และทูล JAX WS 2.0 การสนับสนุนเวอร์ชั่นย่อยและการปรับเพิ่มความสามารถของ NetBeans GUI Builder (ก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อโปรเจ็กต์ Matisse) โดยซอฟต์แวร์ NetBeans 5.5 จัดเป็นซอฟต์แวร์IDE ตัวแรกและตัวเดียวที่การสนับสนุนอย่างครบครันสำหรับ Java EE 5 มาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นจาวาสำหรับฝั่งเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัย ปรับขยายได้ ทรงพลัง และพอร์ตข้ามระบบได้
การสนับสนุนและการบริการนักพัฒนาซอฟต์แวร์
ซันได้นำเสนอข้อมูลการใช้งาน การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ การอัปเดต และฝึกอบรมอย่างครบครันแก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ เทคโนโลยี Java และระบบปฏิบัติการ Solaris เพื่อช่วยลดเวลาและความเสี่ยงในการพัฒนาและใช้งานแอพพลิเคชั่นแบบครบวงจรนับตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาไปจนการติดตั้ง โดยทำผ่านโครงการ Developer Services ของซัน ( http://developers.sun.com/services ) โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถร่วมเป็นสมาชิก Sun Developer Network Program ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ http://developers.sun.com/register
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณรัมภา มนูญศิลป์บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัดโทร. 0-2344-6830อีเมล์: Rampa.Manoonsin@Sun.COM คุณมรุต ทวีเพ็ชร / คุณฐาปนี นันทวิสัยภูมิพีอาร์โทร. 0-2610-3727-8, 089-491-5333อีเมล์: Marut@Bhumpr.com Tapanee@Bhumpr.com

แท็ก จาวา   java  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ