กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
“กระเบื้องหลังคาตราเพชร” รับผลงานไตรมาส 3 ชะลอ เหตุเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดวัสดุก่อสร้าง ทำให้การแข่งขันด้านราคาดุเดือด ขณะที่ความกังวลด้านเศรษฐกิจ-การเมือง กระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค เผย เตรียมตั้งฮับในต่างจังหวัด ทำหน้าที่กระจายสินค้า หวังลดต้นทุนการขนส่ง พร้อมปรับแผนลุยตลาดผนังสำเร็จรูป “แซนด์วิช บอร์ด” (Diamond Sandwich Board) นวัตกรรมใหม่ของวงการก่อสร้าง
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ “DRT” ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์หลังคารุ่นเจียระไน รุ่นอดามัส และรุ่น CT เพชร ผลิตภัณฑ์ไม้ฝาและไม้สังเคราะห์ ผลิตภัณฑ์แผ่นบอร์ด รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา และบริการหลังการขาย ภายใต้ตราสินค้า “ตราเพชร” เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2551 (กรกฎาคม - กันยายน 2551) ว่าบริษัทฯ มีรายได้รวม 475 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 35 ล้านบาท ลดลง 60 % จากงวดเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกของปี 2551 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 บริษัทฯ สามารถทำรายได้ 1,985 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 0.31 % และมีกำไรสุทธิ 253 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 20 %
“การที่รายได้และกำไรของบริษัทฯ ลดลงในไตรมาส 3 นั้น เป็นเพราะช่วงไตรมาส 3 เป็นโลว์ซีซั่นส์ของตลาดวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน บวกกับในปีนี้ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯ นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งในประเทศ และบริเวณชายแดน ซึ่งทำให้มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้กำลังซื้อลดลง” กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าว
ขณะเดียวกัน ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทฯ ยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่อยู่ในระดับสูงเนื่องจากวิกฤติราคาน้ำมันรวมถึงจากการอ่อนค่าของเงินบาททำให้ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าสูงขึ้น สำหรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั้น บริษัทฯ ได้มีโครงการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตหลายโครงการเพื่อชดเชยกับต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าที่สูงขึ้น
ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ากำลังซื้อในประเทศปรับตัวลดลงมาก เนื่องจากว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่การบริหารงานภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ บริษัทฯ ยังคงมั่นใจในศักยภาพและผลการดำเนินงาน โดย DRT ยังมีตลาดส่งออกเข้ามาชดเชย ซึ่งตั้งเป้าจะรักษาอัตราการเติบโตไว้ที่ 10% ของรายได้รวม โดยจะส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก ได้แก่ เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา รวมทั้งการรุกตลาดไปยังประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน DRT ยังมีรายได้หลักจากขายภายในประเทศอีก 90% โดยเป็นการขายให้กับผู้ใช้โดยตรงหมายถึงการขายผ่านร้านค้าของผู้จำหน่ายที่มีอยู่กว่า 600 ราย ทั่วประเทศ
รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT ยังกล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเชื่อมั่นว่า ยังคงมีทิศทางที่ดี หลังจากแนวโน้มราคาน้ำมันเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการก่อสร้างมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนในการผลิตและดำเนินการก็ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตเกิดวิกฤติราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีก บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ด้านการขนส่งไว้ด้วย โดยบริษัทฯ เริ่มที่จะกระจายสินค้าด้วยการตั้งฮับเก็บสินค้า เพื่อรองรับสินค้าจากส่วนกลางไปตามภูมิภาคต่างๆ แทนที่จะเก็บไว้ที่เดียว เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง ซึ่งที่ผ่านมา ได้เริ่มทำที่ จังหวัดขอนแก่น โดยเปิดฮับใหม่ที่ จังหวัดขอนแก่น เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้หันมาใช้แก๊สธรรมชาติ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถบรรทุกขนส่งสินค้าของบริษัทฯ แทนน้ำมันดีเซล ด้วย
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ จะหันมาบุกตลาดผนังสำเร็จรูป หรือ “ผนังแซนด์วิชบอร์ด” (Diamond Sandwich Board) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย นับเป็นนวัตกรรมใหม่ของการก่อสร้างที่เข้ามาช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน และใช้เวลาในการก่อสร้างน้อย ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ เหมาะสมกับการก่อสร้างในรูปแบบของอาคารสูง และคอนโดมิเนียม เป็นอย่างมาก โดยกำลังเป็นที่ต้องการของผู้อยู่อาศัยในเวลานี้
“ที่ผ่านมาตลาดกระเบื้องหลังคาโดยรวมเริ่มนิ่ง แต่ DRT ไม่หยุดนิ่งที่จะหาช่องทางใหม่ๆ ในการเพิ่มรายได้ จึงได้แตกไลน์ธุรกิจจับตลาดผนังสำเร็จรูป ซึ่งได้เริ่มนำร่องในโครงการบ้านเอื้ออาทร รังสิตคลอง10/1 และคอนโดมิเนียม ในพัทยาเหนือ” นายสาธิต กล่าว
บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน )หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคา ไม้ฝา รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้าตราเพชร อดามัส เจียระไน และตราหลังคา มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 20 ปี มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000 รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand’s Brand จากกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้า ตลอดจนมีการบริหารจัดการภายในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้สโลแกน “คุณภาพต้องมาก่อน ทุกขั้นตอนของสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำค่า ถึงลูกค้าพึงพอใจ”
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ในนามบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: วารุณี คำไชย (แนน) โทร: 0-2248-7967-8 ต่อ 23 หรือ 08-1496-6762
e-mail : c_mastermind@hotmail.com