กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน มั่นใจ โครงการเพื่อสร้างความมั่นคงพลังงาน คืบหน้า ระบุ ท่อก๊าซเส้นที่ 3 ของปตท. เสร็จสมบูรณ์ 100 % แล้ว ส่งก๊าซในประเทศเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านลบ.ฟุต/วัน รับข่าวดี ปตท.สผ. สำรวจแหล่ง M9 ในพม่า เจอสำรองก๊าซ 1.38 ล้านล้านลบ.ฟุต ด้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเอกชน IPP ยังเดินหน้าได้ตามแผน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เป็นประธานในการประชุม คณะทำงานติดตามการบริหารเชื้อเพลิง พร้อมผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.สผ. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า กระทรวงพลังงานได้ติดตามความคืบหน้าของการก่อสร้างด้านพลังงานต่าง ๆ ตามนโยบายการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยปัจจุบันพบว่า โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ 3 ของปตท. ได้เสร็จสมบูรณ์ทั้งระบบแล้ว ซึ่งจะช่วยให้กำลังการจัดส่งก๊าซในประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในขณะที่แหล่งก๊าซในประเทศปัจจุบันมีเพียงพอใช้ จากระดับการใช้ประมาณ 2,835 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน นอกจากนี้ยังมีแหล่งก๊าซในส่วนของประเทศพม่าอีกประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน อีกด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุม ฯ ยังได้รับทราบว่า หลังจากที่บริษัท ปตท.สผ. จำกัด(มหาชน) ได้เข้าสำรวจแหล่งก๊าซในประเทศพม่า ในแหล่ง M9 จำนวน 13 หลุม ซึ่งข่าวดีก็คือ ปตท.สผ.สามารถสำรวจพบก๊าซธรรมชาติได้ทั้งหมด 13 หลุม และคาดว่าจะมีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 1.38 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต โดยจะนำมาใช้ในประเทศไทย ได้ 240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่งให้พม่า 60 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งจะเริ่มมาใช้ในประเทศไทยได้ประมาณปี 2556
“กำลังสำรองก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ประเทศไทย มั่นใจว่าจะมีเพียงพอใช้ไปถึงปี 2569 แต่จากโครงการที่ยังมีการเร่งสำรวจเพิ่ม รวมทั้งการเร่งหาเชื้อเพลิงชนิดอื่นๆ เช่น พลังงานนิวเคลียร์ การส่งเสริมพลังงานทดแทนอื่น ๆ ก็มั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะมีแหล่งพลังงานไว้ใช้ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายแพทยวรรณรัตน์กล่าว
นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวเพิ่มว่า แผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อสร้างความมั่นคงในระบบไฟฟ้าเพิ่มเติมนั้น ในส่วนของ กฟผ. ได้รายงานว่า โครงการโรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าบางปะกง และโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ จะเสร็จได้ทันกำหนดการ และในส่วนของการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) พบว่าโครงการของบริษัท GHECO ONE ได้ดำเนินการตามแผนการก่อสร้างเรียบร้อย โครงการ Siam Energy และโครงการ Power Generation Supply ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) ส่วนโครงการ National Power Supply ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับ กฟผ. อยู่