กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
แวนบิ๊ว บริษัท ร่วมทุน ไทย - ญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมและห้องควบคุมคุณภาพอากาศเน้นที่ให้บริการแบบครบวงจร เตรียมขึ้นเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีระบบห้องควบคุมคุณภาพอากาศ Indoor Air Quality (IAQ) จากเดิมที่มีตลาดสำคัญเป็นโรงงานอุตสาหกรรม เป็นหลัก โดยหันมาให้ความสำคัญอย่างจริงจัง กับตลาดโรงพยาบาลและผู้ป่วยโรคทางเดินอากาศ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียง มักให้ความสำคัญกับคุณภาพการให้บริการอย่างจริงจัง เพราะนอกจากจะได้ผลในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคในสถานที่ของตนเองแล้ว ยังเป็นการเสริมภาพลักษณ์ให้กับโรงพยาบาลอีกด้วยว่ามีความปลอดภัยและมีมาตรฐานในการให้บริการสูงกว่าคู่แข่ง
นายปัญจภัทร์ เกียรติจักรวาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แวนบิ๊ว จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมและห้องควบคุมคุณภาพอากาศ เปิดเผยว่า บริษัท แวนบิ๊ว จำกัด เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท แวนยูเนี่ยน โดยร่วมทุนระหว่างไทย — ญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบและก่อสร้างอาคารและโรงงาน และเป็นบริษัทที่ให้บริการงานทางด้านวิศวกรรมแบบครบวงจรโดยมุ่งเน้นในเรื่องของมาตรฐานสากล เราได้การรับรองมาตรฐาน ISO 9001/ 2000 และ QSME ในปัจจุบันลูกค้าของเราเป็นบริษัทหรือโรงงานสัญชาติญี่ปุ่นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอื่นๆ”
“ในปี 2549 บริษัท แวนบิ๊ว ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 420 ล้านบาท โดยแยกสัดส่วนรายได้จากกลุ่มต่างๆ ดังนี้คือ กลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์ คิดเป็นสัดส่วน 74 % กลุ่มธุรกิจโรงงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอื่นมีสัดส่วน 12 % ระบบ Indoor Air Quality และห้องฟังก์ชั่นพิเศษ คิดเป็นสัดส่วน 14 % โดยในปีนี้จะมีการทุ่มเทพัฒนาระบบและเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจก่อสร้างเพิ่มขึ้น พร้อมกับขยายกลุ่มลูกค้าไปในกลุ่มของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุนเพิ่ม ตามที่รัฐบาลมีนโยบายดึงนักลงทุนต่างชาติให้ลงทุนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น”
“นอกจากนี้ แวนบิ๊ว ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ฮันนี่เวลล์ ซิสเต็มส์ (ไทยแลนด์) จำกัดซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องของระบบ Indoor Air Quality (IAQ) เป็นอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเราได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายและติดตั้งระบบห้องควบคุมคุณภาพอากาศ Indoor Air Quality (IAQ) ในรูปแบบของการเป็น System Integrators โดย แวนบิ๊ว จะเป็นผู้รวบรวมเทคโนโลยีทั้งหมดของฮันนี่เวลล์ เพื่อทำการติดตั้งและส่งมอบให้ลูกค้าตามความต้องการ ระบบ IAQ นี้เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความสลับซับซ้อน จึงจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีและการติดตั้งรวมถึงการก่อสร้างเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ แวนบิ๊ว จึงเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ฮันนี่เวลล์ไว้วางใจ เราสามารถพูดได้ว่า แวนบิ๊ว เป็นรายแรกของประเทศไทยที่สามารถดูและและติดตั้งระบบ IAQ นี้ได้อย่างครบวงจร โดยที่ลูกค้าของเราไม่จำเป็นต้องรื้อระบบเก่าที่มีอยู่ เราสามารถทำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยดูแลหรือเพิ่มในส่วนที่ลูกค้าต้องการได้ ซึ่งจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าด้วย นอกจากนี้ทางฮันนี่เวลล์ยังจะมีการสนับสนุนในเรื่องของการถ่ายทอดเทคโนโลยี การฝึกอบรม รวมถึงเป็นที่ปรึกษาในเรื่อง ระบบ IAQ ให้กับเราด้วย”
นายปัญจภัทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับความสำคัญของห้องควบคุมคุณภาพอากาศ Indoor Air Quality (IAQ) ในปัจจุบันนี้มีบทบาทและความสำคัญมากขึ้นทั้งในวงการอุตสาหกรรมและวงการแพทย์ เนื่องจากประเทศไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็คทรอนิคส์ที่สำคัญ ซึ่งโดยปกติจะมีความจำเป็นที่ต้องใช้ห้องที่สามารถควบคุมในเรื่องของความสะอาดได้ค่อนข้างมากอยู่แล้ว เช่น ห้องที่ทำงานเกี่ยวกับการผลิตชิพ การผลิตสติ๊กเกอร์สำหรับรถยนต์ เป็นต้น สำหรับในวงการแพทย์นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ในเอเชียหรือแม้แต่ในประเทศไทยเรา ไข้หวัดนก โรคซาร์ หรือแม่แต่โรคอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อทางอากาศยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญในแวดวงสาธารณสุข และในประเทศไทยเองก็ยังไม่มีระบบไหนที่สามารถที่ควบคุมโรคต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก่อน ดังนั้น การนำมีเทคโนโลยี IAQ เข้ามาเพื่อช่วยในการควบคุมการแพร่กระจายของโรคทางอากาศได้จึงเป็นความจำเป็นที่มีมากขึ้น และกำลังได้รับความสนใจจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้น เช่น กลุ่มแพทย์ หรือ กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ หรือแม้แต่นโยบายของรัฐบาลเองที่ต้องการป้องกันปัญหาข้างต้นอย่างจริงจังมากขึ้น”
“และสำหรับการทำตลาดของการจำหน่ายและติดตั้งระบบ IAQ ทางบริษัทฯ จะเน้นลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล หน่วยงานราชการ สนามบิน และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องมีห้องที่สามารถควบคุมความสะอาดขั้นสูง และอีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มผู้ป่วยโรคภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ โดยกลุ่มนี้จะเป็นลักษณะของการขายและติดตั้งเครื่องควบคุมคุณภาพอากาศภายในบ้านที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ (Portable) ผ่านทางการแนะนำของแพทย์ โดยตั้งเป้าว่าภายในปีนี้จะทำรายได้จากการขายและติดตั้งระบบนี้อยู่ที่ 60 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14% จากยอดรายได้รวมทั้งธุรกิจของแวนบิ๊ว”
“นอกจากการทุ่มเทในเรื่องของการพัฒนาระบบและเทคโนโลยีเพื่อการก่อสร้างแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะจัดทำโครงการอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อสังคมและการศึกษาอยู่เป็นประจำ โดยปีนี้มีโครงการ VANBIV AWARD 2006 โดยให้นักเรียนนักศึกษาระดับ ปวส และระดับปริญญาตรีในคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ส่งผลงานการออกแบบบ้านพักสำหรับแรงงานก่อสร้างในไซท์งาน โดยมีรางวัลรวมมูลค่ากว่าแสนบาท เพราะนอกจากเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานที่จำเป็นต้องพักอาศัยชั่วคราวบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง ให้ถูกสุขลักษณะ น่าอยู่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาได้คุ้นเคยกับการทำโครงการและการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกมาทำงานจริงในอนาคตมากขึ้นด้วย” นายปัญจภัทร์ กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ภัทรา เรืองสวัสดิ์, ชยภัค ลายสุวรรณ
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 28 หรือ 42--จบ--