กรุงเทพฯ--17 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัย ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยรวม ๗ จังหวัด แยกเป็น ๓ จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา และ ๔ จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และพัทลุง แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน ๑-๒ วันนี้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม ๗ จังหวัด ดังนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมฝั่งของจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง ๓ จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา โดย สิงห์บุรี น้ำท่วมพื้นที่อำเภออินทร์บุรี ๖ ตำบล ๑ เทศบาล ๔๘ หมู่บ้าน อ่างทอง น้ำท่วมพื้นที่ ๓ อำเภอ ๑๖ ตำบล ๔๑ หมู่บ้าน ๔ ชุมชน ดังนี้ อำเภอเมือง ป่าโมก และไชโย พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมพื้นที่ ๙ อำเภอ ๙๖ ตำบล ๕๖๕ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอผักไห่ บางบาล เสนา บางไทร มหาราช นครหลวง พระนครศรีอยุธยา บ้านแพรก และบางปะอิน นอกจากนี้ ภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้
ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรใน ๔ จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และพัทลุง โดย ชุมพร มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ๘ อำเภอ ๕๖ ตำบล ๔๘๖ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๗๔,๑๗๖ คน ๒๔,๖๖๘ ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๖ หลัง บางส่วน ๘๑หลัง สะพาน ๖๗ แห่ง ถนน ๓๘๕ สาย ยังคงมี น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอสวี หลังสวน และละแม แนวโน้มระดับน้ำลดลงคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ๑-๒ วันนี้ สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร ๗ อำเภอ ๓๕ ตำบล ๒๓๒ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๒ คน ราษฎรเดือดร้อน ๕๒,๗๖๓ คน ๑๗,๑๑๓ ครัวเรือน ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ๒ อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก และกาญจนดิษฐ์
หากไม่มีฝนตกคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ๑-๒ วันนี้ นครศรีธรรมราช น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ๑๖ อำเภอ ๙๗ ตำบล ๕๕๗ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๑ คน ราษฎรเดือดร้อน ๑๓๕,๗๒๓ คน ๓๗,๒๔๑ ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร ๕๕,๑๗๖ ไร่ ถนน /ฝาย ๖๘๙ สาย ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ๗ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ท่าศาลา เฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ พระพรหม หัวไทร และปากพนัง พัทลุง ได้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งซึ่งเกิดจากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำท่าแนะ เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรสองฝั่งคลองท่าแนะของอำเภอควนขนุน ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างต่อเนื่อง โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ นำเครื่องจักรกล รถยนต์ เรือท้องแบน ๙๙ ลำ ออกให้บริการขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ๑๖ เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัย กระสอบทรายสำหรับกั้นน้ำ จำนวน ๑๑,๔๐๐ ถุง รวมทั้งนำอาหาร ๒,๐๐๐ ชุด น้ำดื่มจำนวน ๑๔,๖๔๒ ขวด ยารักษาโรค๑,๔๕๐ ชุด ถุงยังชีพ ๗,๗๒๐ ถุง เครื่องอุปโภคและบริโภค ๑๑,๕๙๙ ชุด ไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ และเต็นท์ที่พักอาศัยจำนวน ๑๕๐ หลัง ให้ผู้ประสบภัยได้ พักชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
อีกทั้งออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ เพื่อเตรียม ความพร้อมในการรับมือสถานการณ์อุทกภัยจากภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมการป้องกันปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม
ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดเหตุภัยพิบัติ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทาง สายด่วนสาธารณภัย๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ผู้ส่ง : goodprcdpm
เบอร์โทรศัพท์ : 022432200