กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุด นำกองทุนเปิด เอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ (MFC Energy Fund) เข้าร่วมลงทุนในบริษัท เซลเลนเนียม (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้คิดค้นพัฒนาระบบเทคโนโลยี Vanandium Redox Flow นวัตกรรมใหม่เพื่อการเก็บและสร้างพลังงานไฟฟ้าด้วยเซลเชื้อเพลิงแวนเนเดียม หวังเดินหน้าแก้วิกฤติพลังงานชาติอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ปัญหาด้านพลังงานทดแทน พร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐพัฒนาพลังงานทดแทน
ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ ภายใต้การบริหารของเอ็มเอฟซีได้ร่วมลงนามในสัญญาร่วมลงทุนในบริษัท เซลเลนเนียม (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับเป็นบริษัทลำดับที่สามที่กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ เข้าไปลงทุน ทั้งนี้ กองทุนได้พิจารณาแล้วว่า บริษัท เซลเลนเนียม (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เนื่องจากเป็นผู้พัฒนานวัตกรรมทางเลือกใหม่สำหรับเก็บและสร้างพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะปฏิวัติการใช้พลังงานหมุนเวียนของชาติ ด้วยเทคโนโลยี Vanadium Redox Flow หรือระบบเทคโนโลยีเซลเชื้อเพลิงแวนเนเดียม ทั้งนี้กองทุนเชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ โดยกองทุนฯ ได้ลงทุนในบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน 355 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 3,230 ล้านบาท
นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการกลยุทธ์กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ กล่าวเสริมว่า ปัจจัยหลักสำหรับการเข้าร่วมลงทุนในบริษัท เซลเลนเนียม (ไทยแลนด์) จำกัด ได้แก่จุดเด่นด้านนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนามาเป็นเวลากว่า 20 ปี ซึ่งได้มีการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ได้ผ่านการพิสูจน์ในระดับห้องปฏิบัติการ และการทดสอบใช้งานจริงแล้ว ผลงานต้นแบบที่มีการเปิดเผยได้แก่ จักรยานไฟฟ้าที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงแวนเนเดียม และบ้านประหยัดพลังงาน นอกจากนี้เซลเชื้อเพลิงแวนเนเดียมสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับพลังงานทดแทนได้หลายประเภท เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานไบโอแก๊สจากสาหร่าย ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ไฟฟ้า และลดต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งนำไปสู่การปฏิวัติการใช้พลังงานของโลก นอกจากเทคโนโลยี Vanadium Redox Flow จะสามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าและแปลงกระแสไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังสามารถพัฒนาไปสู่การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากคาร์โบไฮเดรตในอนาคต สำหรับโครงการปัจจุบันของบริษัท เซลเลนเนียมฯ มีแผนการที่จะนำแวนเนเดียมเรด๊อกซ์แบตเตอรี่มาประยุกต์ใช้กับโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก และสถานีส่งสัญญาณโทรศัพท์ ฯลฯ
นายกฤษฎา กัมปนาทแสนยากร ประธานกรรมการ บริษัทเซลเลนเนียม (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้คิดค้น ระบบเทคโนโลยี Vanadium Redox Flow ด้วยเซลเชื้อเพลิงแวนเนเดียม เปิดเผยว่า การเซ็นสัญญาในครั้งนี้ บริษัทได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเปิด เอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ เป็นอย่างดี ทั้งนี้ กองทุนฯ ได้ลงทุนในโครงการเป็นจำนวน 355 ล้านบาท และมีระยะเวลาการลงทุน 10 ปี
ส่วนการดำเนินการต่อไป บริษัท เซลเลนเนียม ฯ จะมีการลงทุนสร้างโรงงานผลิตแวนเนเดียมเรด๊อกซ์แบตเตอรี่ และตั้งโรงไฟฟ้า VSPP ขนาด 20 เมกะวัตต์ จำนวน 2 แห่ง ซึ่งจะเป็นโรงงานไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้แก่ โซล่าร์เซลล์ และไบโอแก๊สสาหร่าย โดยโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งจะตั้งอยู่ที่รังสิตคลอง 8 และที่โครงการ ฮอร์ท ชูพอยส์ พัทยา นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ จะมีการพัฒนานำเซลเชื้อเพลิงแวนเนเดียม เข้าไปใช้ด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มุ่งเรื่องการประหยัดพลังงานไฟฟ้าอีกหลายโครงการ
ดร. พิชิตกล่าวสรุปว่า สำหรับการดำเนินงานเข้าร่วมลงทุนโดยกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ (MFC Energy Fund) ภายในปี 2551 นี้ ได้มีการลงทุนไปแล้วรวม 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท อีเอสเทอร์ จำกัด (E-Ester) ซึ่งเป็นบริษัทค้นคว้า วิจัย และผลิตพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพประเภท “ไบโอดีเซล” โดยกองทุนฯ เข้าไปลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท แห่งที่สองได้แก่ บริษัท Impress Ethanol และบริษัท Impress Farming ซึ่งเป็นบริษัทผลิต “เอธานอล” ที่มีกำลังการผลิต 200,000 ลิตรต่อวัน และปลูกมันสำปะหลังซึ่งให้ผลผลิตกว่า 16 ตันต่อไร่ โดยกองทุนฯ เข้าไปลงทุนประมาณ 280 ล้านบาทจากมูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท และล่าสุดคือการลงทุนในบริษัท เซลเลนเนียม (ไทยแลนด์) จำกัด
ทั้งนี้ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ (MFC Energy Fund) ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2550 อายุโครงการ กองทุน 10 ปี โดยระดมทุนจากนักลงทุนสถาบัน ทั้งในกลุ่มสถาบันการเงิน นักลงทุนสถาบัน และกลุ่มธุรกิจพลังงาน รวม 12 แห่ง เป็นจำนวนเงินรวม 2,456 ล้านบาท และกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในบริษัทที่ดำเนินกิจการเกี่ยวข้องกับพลังงาน พลังงานทดแทน และธุรกิจที่มีส่วนสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า จำนวนเงินลงทุนของกองทุนในแต่ละโครงการประมาณ 50-500 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายในการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาและนำนวัตกรรมด้านพลังงานมาสู่การประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ อีกทั้งเพื่อส่งเสริมให้เกิดโครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
สำหรับผู้ประกอบการพลังงานทดแทนที่สนใจให้กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ เข้าร่วมลงทุนสามารถติดต่อได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 02-649-2000 ต่อ 2439 หรือ E-mail:mfcenergyfund@mfcfund.com หรือที่ www.mfc-energyfund.com
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์องค์กร : สุทรรศิกา คูรัตน์, สุวรรณา ชีวนันทชัย
โทร. 0-2649-2230, 0-2649-2232
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์ :วงจันทร์ ตั้งเจทรงศักดิ์ /ตรึงฤทัย สันโดษโทร.0-2204-8221, 0-2204-8078