ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ ต.ค.ไร้แววฟื้น เหตุเศรษฐกิจโลก ปัญหาซ้ำซากทางการเมืองตัวฉุด ส.อ.ท. แนะรัฐเร่งเบิกจ่ายงบ 52กระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวทั่วไป Wednesday November 19, 2008 14:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย (Thai Industries Sentiment Index: TISI) ในเดือนตุลาคม 2551 ที่ได้จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,302 ตัวอย่าง ครอบคลุม 39 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมฯ ว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 75.5 ปรับตัวลดลง จากเดือนกันยายน 2551 ที่อยู่ในระดับ 81.1 เหตุจากปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอย และวิกฤตการเมืองภายในประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศที่ชะลอตัว โดยตลาดต่างประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การเงินโลกที่เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงของโลกที่เข้าสู่ภาวะชะลอตัว ส่วนตลาดในประเทศได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวมากขึ้น รวมทั้งปัญหาทางด้านการเมืองที่เป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงยืดเยื้อและไม่มีทางออก ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 82.4 ปรับลดลงจากเดือนกันยายน 2551 ที่อยู่ในระดับ 90.8 ซึ่งเป็นการปรับลดลงในระดับที่มากกว่าดัชนีรวม และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงในด้านต่างๆ ที่จะกระทบต่อผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นในระยะเวลาอีก 3 เดือนข้างหน้า ในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นจำแนกตามขนาดอุตสาหกรรม พบว่า ปรับลดลงทุกรายขนาด เนื่องจากถูกกระทบจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขายทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศที่ลดลง ซึ่งการลดลงของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในเดือนนี้น่าจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของการส่งออกในระยะต่อไป อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอดังกล่าว ด้านดัชนีความเชื่อมั่นจำแนกตามภูมิภาค พบว่า ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออก ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของคำสั่งซื้อทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศเป็นสำคัญ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเป็นผลมาจากความต้องการซื้อสินค้าในบางอุตสาหกรรมของภาคดังกล่าวเพิ่มขึ้น ตลอดจนต้นทุนประกอบการที่ลดลง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นจำแนกตามตลาดส่งออก พบว่า กลุ่มเน้นตลาดภายในประเทศและกลุ่มเน้นตลาดต่างประเทศ มีความเชื่อมั่นฯ ปรับลดลงเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มเน้นตลาดส่งออกปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากสถานะทางการเงินของประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินสหรัฐฯ ส่งผลให้มีการชะลอการสั่งซื้อสินค้าออกไปก่อน ด้านสภาวะแวดล้อมในการดำเนินกิจการ พบว่า ปัจจัยด้านการเมือง เศรษฐกิจโลก ยังคงสร้างความกังวลต่อการดำเนินกิจการอยู่ ส่วนปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อการดำเนินกิจการ ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต่อภาครัฐ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่าภาครัฐควรแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและนักลงทุน ควรเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2552 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดหาแหล่งเงินทุน เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับภาคอุตสาหกรรม ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ภายในประเทศ รวมทั้งช่วยสนับสนุนหาตลาดใหม่ๆ ที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ให้กับภาคอุตสาหกรรมส่งออก เพื่อทดแทนตลาดหลัก ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินสหรัฐฯ และดูแลเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้มีความผันผวน โดยคงระดับไว้ที่ 33-35 บาท เพื่อช่วยอุตสาหกรรมส่งออก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทร. 0-2345-1017 โทรสาร 0-2345-1296-9

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ