กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัย ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัย รวม ๒ จังหวัด แยกเป็น ภาคกลาง ๑ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และภาคใต้ ๑ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในวันนี้ พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังภาวะอากาศฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ ๑๘ — ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม ๒ จังหวัด ดังนี้ พื้นที่ภาคกลาง ๑ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำใน ๖ อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ บางบาล เสนา บางไทร พระนครศรีอยุธยา และบางปะอิน ส่วนพื้นที่ภาคใต้ ๑ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ลุ่มต่ำ ๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ และปากพนัง แนวโน้มสถานการณ์หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในวันนี้
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ นำเครื่องจักรกล รถยนต์ เรือท้องแบน ๒๖ ลำ ออกให้บริการขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม ถุงยังชีพ ๕๐๐ ชุด เครื่องอุปโภคและบริโภค ไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ ๑๘- ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๔ ประจวบคีรีขันธ์ เขต ๑๑ สุราษฎร์ธานี เขต ๑๒ สงขลา เขต ๑๗ จันทบุรี เขต ๑๘ ภูเก็ต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ประจวบครีขันธ์ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดเหตุภัยพิบัติ สุดท้ายนี้หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ผู้ส่ง : pr
เบอร์โทรศัพท์ : 02 2432200