กฟผ. ชวนผู้ประกอบการค้าของเก่าเป็นแนวร่วม รักษาสมบัติชาติ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 24, 2008 15:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--กฟผ. กฟผ.ขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการค้าของเก่า งดรับซื้อน็อตและชิ้นส่วนอุปกรณ์เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง ชวนเป็นแนวร่วมกับ กฟผ. รักษาสมบัติชาติเพื่อป้องกันไฟตกไฟดับ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับสำนักงานเขตหนองจอก และกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 จัดสัมมนาเสริมสร้างความร่วมมือผู้ประกอบการค้าของเก่า ณ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าของเก่า ตระหนักถึงความเสียหายจากการโจรกรรมชิ้นส่วนอุปกรณ์เสาโครงเหล็กไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงล้ม เกิดไฟตกไฟดับ ส่งผลเสียหายทางต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมรวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ภายในงานมีการเสวนา เรื่อง “ปัญหาและผลกระทบจากการรับซื้อชิ้นส่วนเสาโครงเหล็กไฟฟ้าของ กฟผ.” ซึ่ง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 นายไพโรจน์ สุดใจ ผู้อำนวยการเขตหนองจอก และนายชำนาญ ชลิศราพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเขตนครหลวง กฟผ. เป็นผู้ร่วมเสวนา การเสวนาดังกล่าวได้ผลสรุปว่า ทางตำรวจพร้อมให้ความร่วมมือในการจับกุมผู้ลักขโมยชิ้นส่วนอุปกรณ์เสาโครงเหล็กไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งนับเป็นสมบัติของชาติ โดยกำหนดมาตรการ เพิ่มสายตรวจให้ตรวจตราเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการลักขโมยให้มากขึ้น มีการตั้งด่านตรวจของที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ประสานกับวิทยุชุมชนในการแจ้งเบาะแส รวมทั้งขอความร่วมมือจากร้านค้าของเก่าในการงดรับซื้อชิ้นส่วนอุปกรณ์เสาโครงเหล็กไฟฟ้าแรงสูงที่สงสัยว่าจะเป็นของ กฟผ. และทำประวัติควบคุมรถรับซื้อของเก่าทั้งหมดเพื่อป้องกันการลักขโมย ซึ่งผู้ใดรับซื้อของโจรจะมีความผิดโทษจำคุก 1-3 ปี ส่วนการขโมยทรัพย์สินสาธารณะโทษคือ จำคุก 1-5 ปี ปรับ 2,000 — 10,000 บาท นอกจากนี้ยังประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนและอาสาสมัครต่างๆให้ช่วยกันสอดส่องดูแลเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง ตลอดจนขอให้บิดา มารดา ช่วยกันดูแลบุตรหลานไม่ให้ไปลักขโมยทรัพย์สินส่วนรวมของประเทศชาติ” ส่วนนายไพโรจน์ สุดใจผู้อำนวยการเขตหนองจอก ย้ำว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับ กฟผ. อย่างเต็มที่ โดยการจัดระเบียบร้านรับซื้อของเก่าด้วยการขึ้นทะเบียนร้านรับซื้อของเก่าในเขตหนองจอก 21 ราย และทุกพื้นที่หากผู้ประกอบการใดกระทำความผิดเขตมีอำนาจเพิกถอนใบอนุญาตทันที นอกจากนี้ยังมีมาตรการให้ สายตรวจเทศกิจ และมอเตอร์ไซด์รับจ้างเฝ้าระวังตรวจตราและช่วยกันสอดส่องดูแลในเขตพื้นที่เสี่ยงภัยให้ถี่ขึ้น เพื่อไม่ให้มีการโจรกรรมชิ้นส่วนของเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง ด้าน นายชำนาญ ชลิศราพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเขตนครหลวง กฟผ. กล่าวว่า “เนื่องจากเหตุการณ์เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงล้มเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่เขตหนองจอก ทาง กฟผ.ได้มีมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ในการตรวจตระเวนอย่างเข้มงวดไปตามแนวเขตเดินสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และมาตรการซ่อมแซมบำรุงรักษาอุปกรณ์เสาส่งไฟฟ้าด้วยการเชื่อมย้ำน็อตทำให้ยากต่อการลักขโมยชิ้นส่วนอุปกรณ์ อย่างไรก็ตามก็ยังเกิดเหตุการณ์การลักขโมยอยู่บ้าง จึงได้มีการจัดสัมมนาครั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการค้าของเก่าเกิดความเข้าใจในการสังเกตชิ้นส่วนอุปกรณ์เสาโครงเหล็กซึ่งจะมีรหัสตัวเลข รวมไปถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์ของเสาโครงเหล็กไฟฟ้าที่ผ่านการเคลือบสาร กัลวาไนซ์” การจัดสัมมนาในครั้งนี้เป็นกิจกรรมใน โครงการรณรงค์ “คนไทยรักสายส่ง” เพื่อเป็นการตอกย้ำ ปลูกจิตสำนึกและความร่วมมือในการช่วยกันดูแล ทรัพย์สินของชาติ ไม่ให้เกิดผลเสียหายกับธุรกิจอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศซึ่งโครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี คือ ปี2551-2553 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กองประสานสื่อสารองค์การสายงานระบบส่ง ฝ่ายสื่อสารองค์การ โทรศัพท์ 0-2436-2342 โทรสาร 0-2436-2394

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ