กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--โตโยต้า มอเตอร์
ตลาดส่งออกรถยนต์ 10 เดือนเติบโต 14.3% มูลค่าส่งออกรวม 281,740 ล้านบาท รถยนต์สำเร็จรูป 439,985 คัน เดือนตุลาคมส่งออก 27,233 ล้านบาท ลดลง 10.1% รถยนต์สำเร็จรูป 41,776 คัน
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ประจำเดือน ตุลาคม มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 27,233 ล้านบาท ลดลง 10.1% แบ่งเป็นการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) 41,776 คัน ลดลง 16.0% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 18,868 ล้านบาท ชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ เครื่องยนต์และอื่นๆ มูลค่า 8,366 ล้านบาท เติบโต 5.2%
สำหรับสถิติการส่งออกสะสม 10 เดือน มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 281,740 ล้านบาท เติบโต 14.3% โดยแบ่งเป็นการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป (CBU) มีจำนวนทั้งสิ้น 439,985 คัน เติบโต 21.8% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา มูลค่ารวมทั้งสิ้น 196,581 ล้านบาท ชิ้นส่วนเพื่อการประกอบ เครื่องยนต์และอื่นๆ 85,159 ล้านบาท เติบโต 8.5%
มูลค่าการส่งออกรวม ประจำเดือน ตุลาคม 2549 :
มูลค่ารวม 27,233 ล้านบาท ลดลง 10.1%
อันดับ 1 โตโยต้า 11,631 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 42.7% ลดลง 12.3%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 4,411 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 16.2% ลดลง 7.5%
อันดับ 3 ฮอนด้า 3,838 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 14.1% ลดลง 3.3%
ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ประจำเดือน ตุลาคม 2549 :
จำนวนรวม 41,776 คัน ลดลง 16.0%
อันดับ 1 โตโยต้า 16,689 คัน ส่วนแบ่งตลาด 39.9% ลดลง 16.0% อันดับ 2 มิตซูบิชิ 7,592 คัน ส่วนแบ่งตลาด 18.2% ลดลง 31.3%
อันดับ 3 อีซูซุ 5,896 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.1% เติบโต 31.4%
มูลค่าการส่งออกรวม สะสม 10 เดือนของปี 2549
มูลค่ารวม 281,740 ล้านบาท เติบโต 14.3%
อันดับ 1 โตโยต้า 115,115 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 40.9% เติบโต 26.7%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 50,113 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 17.8% เติบโต 40.6%
อันดับ 3 ฮอนด้า 43,800 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 15.5% เติบโต 25.3%
ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป สะสม 10 เดือนของปี 2549
จำนวนรวม 439,985 คัน เติบโต 21.8%
อันดับ 1 โตโยต้า 166,258 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.8% เติบโต 47.6%
อันดับ 2 มิตซูบิชิ 95,857 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.8% เติบโต 27.6%
อันดับ 3 ฮอนด้า 48,578 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.0% เติบโต 19.5%
นายวุฒิกร กล่าวว่า “มูลค่าการส่งออกในเดือนตุลาคมลดลง 10.1% เป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 35 เดือน ทั้งนี้เนื่องมาจากการชะลอการสั่งซื้อรถยนต์จากต่างประเทศ จึงทำให้ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปลดลงถึง 16% แต่การส่งออกชิ้นส่วนเติบโต 5.2% ประกอบกับค่าเงินบาทเฉลี่ยในเดือนตุลาคม 2549 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นประมาณ 3.56 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามการส่งออกรวม10 เดือนของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมซึ่งเป็นสินค้าหลักในการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 77 ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศ โดยการส่งออกอุตสาหกรรมรถยนต์สำเร็จรูป อุปกรณ์และส่วนประกอบที่รวมอยู่ในกลุ่มดังกล่าวมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 281,740 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 6.86% ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศ การลดลงของการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือนตุลาคม คาดว่าการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์จะต่ำกว่าเป้าหมายการส่งออกของปี 2549 ประมาณ7 - 8%”