กรุงเทพฯ--25 พ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ถือเป็นธรรมเนียมของการประกวดก่อนจะถึงรอบตัดสิน ที่จะต้องพาเหล่าสาวงามที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเดินทางไปเก็บตัว เพื่อร่วมทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนางงาม และร่วมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ของดี ของแหหล่งชุมชนนั้นๆ สำหรับ “การประกวดนางสาวไทยประจำปี 2551” ได้พาเหล่าสาวงามที่ผ่านเข้าสู่รอบ 18 คนสุดท้าย เดินทางไปเก็บตัว ณ จังหวัดสุโขทัย ในช่วงระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันสวยงาม และได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลก พร้อมด้วยวิถีชีวิตของชาวบ้านที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กิจกรรมการเก็บตัวจะได้ถ่ายทอดให้ชม ในรูปแบบเรียลิตี้โชว์ทางโมเดิร์น ไนน์ ทีวี ระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายนนี้ เวลา 17.10-17.35 น. และเปิดโอกาสให้ร่วมโหวตขวัญใจประชาชน ผ่าน SMS 4221900 พิมพ์ M เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขของผู้เข้าประกวด หรือเว็บไซต์ www.mcot.net/missthailand2008 หรือทางแว็บของเอไอเอส โดยรอบตัดสินจะจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายนศกนี้ ณ สยามพารากอน
กิจกรรมของเหล่าสาวงามเริ่มต้นด้วยการทำบุญตักบาตร หน้าโรงแรมสุโขทัย เฮอริเทจ รีสอร์ท สถานที่พักของเหล่าสาวงาม เพื่อเป็นสิริมงคลตลอดทริป โดยเหล่าสาวงามได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวนาครั้งแรก ด้วยการดำนา ปักต้นกล้า, เกี่ยวข้าว, นวดข้าว, ตากข้าว, สีข้าว และผสมพันธุ์ข้าวหอมแดงสุโขทัย 1 ข้าวหอมดำสุโขทัย 2 และข้าวหอมมะลิ 105 ที่เหล่าสาวงามถึงกับออกปากว่าสุดยอดมาก ที่ต้องใช้กระบวนการของนิเวศวิทยา หรือวงจรธรรมชาติมาสร้างผลผลิต และยังใช้เวลาทดลองถึง 13 ปี อีกทั้งยังได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันปลูกต้นกาแฟ เยี่ยมชมโครงการเพาะเห็ด ที่โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
นอกจากนี้เหล่าสาวงามยังได้มีโอกาสไปนมัสการศาลพระแม่ย่า (ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพระมารดาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช) และอนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช รวมทั้งได้เยี่ยมชมโบราณสถานสำคัญๆ และสัมผัสศิลปวัฒนธรรมต่างๆ อาทิ วัดศรีชุม ที่ประดิษฐานพระอจนะ หรือ พระพูดได้, เยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง วัดมหาธาตุ, วัดศรีสวาย, วัดตระพังเงิน, วัดสระศรี, วัดชนะสงคราม รวมทั้งร้านสาทร ผ้าทองคำ ที่มีการจัดแสดงผ้าทองคำ เป็นผ้าซิ่นที่ทอด้วยทองคำจริง และที่นี่สาวงามยังสนุกสนานกับการได้ลองทอผ้าซิ่นตีนจก ของดีของอำเภอศรีสัชนาลัย และที่หมู่บ้านอุตสาหกรรมชนบทเพื่อการท่องเที่ยวบ้าน นาต้นจั่น สาวงามยังได้เรียนรู้การทอผ้าซิ่น, ทำผ้าหมักโคลน, วาดหน้าตุ๊กตา, ทำเครื่องจักสาน และการทำ ข้าวเปิ๊บ หรือ ก๋วยเตี๋ยวพระร่วง อาหารประจำท้องถิ่น ซึ่งขั้นตอนการทำคล้ายข้าวเกรียบปากหม้อ แต่มีส่วนผสมเป็นวุ้นเส้น ผักบุ้ง ถั่วงอก ถั่วฝักยาว ปิดท้ายด้วยการเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ซึ่งที่นี่ยังรายล้อมไปด้วยวัดวาอาราม ที่ยังคงสภาพของโบราณสถานได้อย่างสมบูรณ์อยู่เช่นกัน ตลอดจนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์สุโขทัยอันรุ่งเรือง ผ่านการแสดง แสง สี เสียงที่วัดสระศรี ยามค่ำคืนอีกด้วย
เด็กย่อมอยู่คู่กับนางงามเสมอ เหล่าสาวงามจึงมิพลาดที่จะเข้าเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กประชาสรรค์ และได้ร่วมทำกิจกรรมกับน้องๆ หนูๆ น่ารัก ไม่ว่าจะเป็นวาดรูประบายสี, ร้อยดอกไม้ หรือ ปั้นดินน้ำมัน ตลอดทริปการเก็บตัว เหล่าสาวงามได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากชาวบ้านและเด็กๆ ซึ่งสามารถชมได้ช่วงเรียลิตี้โชว์แล้ว ยังจะได้เห็นประกายงามแห่งปัญญาของเหล่าสาวงาม ที่จะตอบคำถามกับภารกิจที่กองประกวดมอบหมายให้อีกด้วย
ส่วนหนึ่งของเหล่าสาวงามได้เล่าประสบการณ์ครั้งนี้ โดย ฟ้า-ธิติยา ปราบชม ผู้เข้าประกวดหมายเลข 2 เล่าความรู้สึกที่ได้มาเก็บตัวในครั้งนี้ว่า “นอกจากจะได้เที่ยวสถานที่สำคัญๆ และยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่ได้มากกว่าตอนสมัยเรียน โดยเฉพาะพระอจนะที่วัดศรีชุม ฟ้าทึ่งในความชาญฉลาดของพระมหากษัตรย์และคนโบราณในอดีตที่สร้างอุโมงค์ขึ้น ซึ่งอุโมงค์นี้เองเมื่อเวลาที่พูดทำให้เกิดเสียงก้องกังวาน จึงเป็นที่มาของพระพูดได้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ทหารก่อนออกไปรบในสมัยนั้น”
ปู-ศุภาธร เลาหนุวัติ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 4 เผยว่า “การเดินทางมาเก็บตัวในครั้งนี้ นอกจากจะได้ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ ได้เห็นโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ และมิตรภาพของเพื่อนที่เข้าประกวดด้วยกันแล้ว ยังได้เห็นเมืองสุโขทัย คนสุโขทัย ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส มีน้ำใจ ซึ่งตลอดการเดินทางในสุโขทัย ทุกคนให้การต้อนรับดีมากค่ะ”
เกด-งามเนตร หิรัญชนะโชค ผู้เข้าประกวดหมายเลข 7 เผยว่า “การมาเก็บตัวในครั้งนี้ทำให้เกดได้มาเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ อย่างเช่นการทำผ้าหมักโคลน ทำให้รู้ว่าโคลนมีประโยชน์ช่วยให้ผ้าเวลาที่นำมานุ่ง หรือสวมใส่นั้นเย็นสบาย”
ใบเฟิร์น-ศุจินันท์ บุญทา ผู้เข้าประกวดหมายเลข 9 เผยว่า “ได้เห็นศิลปะอันเก่าแก่ของสุโขทัย รวมถึงโบราณสถานต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ผ่านมาตั้ง 700 ปี รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตจริงๆ และยังรู้สึกภูมิใจค่ะที่ได้เกิดเป็นคนไทย”
ฮอลล์-พิมพ์พิชชา อัศวพงศ์สุกฤตา ผู้เข้าประกวดหมายเลข 10 กล่าวถึงความประทับใจในการเก็บตัวว่า “จากการมาเก็บตัวที่จังหวัดสุโขทัย ทำให้ดิฉันได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ รวมถึงวิถีชีวิตของชาวสุโขทัยด้วยค่ะ และยังได้เยี่ยมชมวิธีการนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริจากในหลวงของเรา ที่ชาวสุโขทัยนำมาประยุกต์ใช้ตามวิถีชีวิตของพวกเขา”
ปาล์ม-รต.หญิง ชโลธร ชัยชมพู ผู้เข้าประกวดหมายเลข 16 เผยถึงกิจกรรมในช่วงเก็บตัวที่ผ่านมาว่า “ดิฉันได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย ได้เรียนรู้คุณค่าในแต่ละขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นของข้าว จนถึงขั้นตอนสุดท้าย ได้ใส่ชุดไทย ได้เห็นความสวยงาม ท่าทางที่อ่อนช้อยในศิลปะการร่ายรำของไทย เมื่อมาผสมกับแสง สี และเสียง ที่เหมาะสมสวยงาม ยิ่งทำให้ศิลปะการร่ายรำของเราทรงคุณค่า และน่าประทับใจ”
บุ๋ม-พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้เข้าประกวดหมายเลข 17 เผยว่า “นอกจากจะได้รู้จักกับเพื่อนที่เก็บตัวด้วยกัน ยังได้ประสบการณ์การทำนา ซึ่งบุ๋มรู้สึกว่ากว่าจะได้ข้าวมาทานกัน ค่อนข้างเหนื่อย บุ๋มมองว่ามันเป็นศิลปะอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นงานแฮนด์เมดที่ใช้แรงกายทำ ตั้งแต่การดำนา การเกี่ยวข้าว การนวดข้าว หลายๆ อย่าง รู้สึกถึงความลำบากของชาวนาค่ะ”
เดียร์-วรรณกร กองเมือง ผู้เข้าประกวดหมายเลข 18 เผยว่า “สนุกมากค่ะ โดยเฉพาะผสมพันธุ์ข้าว ที่กว่าจะได้ข้าวพันธุ์หนึ่งเขาต้องใช้เวลาทดลองกันนานถึง 13 ปี และขั้นตอนก็ค่อนข้างละเอียดอ่อน ซึ่งต้องนำต้นกล้ามาตัดแต่งกิ่ง เอาเกสรตัวผู้มาผสม ซึ่งเดียร์รู้สึกว่ายากจริงๆ ค่ะกว่าจะได้ข้าวมาทาน”
ติดตามความน่ารัก สดใส และการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ที่พร้อมจะฉายแวว “ประกายงามแห่งปัญญา” ของเหล่าสาวงามทั้ง 18 คนนี้ได้ พร้อมอิ่มเอมใจกับสถานที่ประวัติศาสตร์สำคัญๆ ของจังหวัดสุโขทัย ติดตามชมกันได้กับเรียลิตี้เกาะติดเส้นทางนางสาวไทย ได้ทางช่องโมเดิร์น ไนน์ ทีวี เริ่ม 24-28 พฤศจิกายนศกนี้ เวลา 17.10—17.35 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์