กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ ๖ จังหวัด รวม ๔๘ อำเภอ ๒๗๐ ตำบล ๑,๕๓๐ หมู่บ้าน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดนราธิวาสคลี่คลายแล้ว
ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี และสงขลา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ช่วงวันที่๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน ๖ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี และสงขลา รวม ๔๘ อำเภอ ๒๗๐ ตำบล ๑,๕๓๐ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๑๑ ราย ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๘๓,๙๙๐ ครัวเรือน ๒๗๐,๔๓๓ คน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดนราธิวาสคลี่คลายแล้ว ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี และสงขลา โดย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ๙ อำเภอ ๔๕ ตำบล ๒๘๐ หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๗หลัง เสียหายบางส่วน ๑๑๙ หลัง สะพาน ๔๖ แห่ง ถนน ๑๔๓ สาย พื้นที่การเกษตร ๕๖,๑๒๔ ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๑๔,๙๑๑ ครัวเรือน ๓๘,๙๗๕ คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี คีรีรัฐนิคม ท่าฉาง วิภาวดี กาญจนดิษฐ์ พุนพิน ดอนสัก บ้านนาเดิม และบ้านตาขุน นครศรีธรรมราช เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่๑๘ อำเภอ ๑๒๓ ตำบล ๗๖๐ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๔๖,๔๘๙ ครัวเรือน ๑๖๕,๘๘๘ คน ผู้เสียชีวิต ๖ ราย ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พรหมคีรี เชียรใหญ่ หัวไทร ร่อนพิบูลย์ ขนอม นบพิตำ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด สิชล ท่าศาลา ลานสกา ปากพนัง พิปูน พระพรหม จุฬาภรณ์ ช้างกลาง และทุ่งใหญ่ พัทลุง เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าไหลเข้าท่วมพื้นที่ ๗ อำเภอ ๑๔ ตำบล ๔๔หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๒ ราย ราษฎรเดือดร้อน๑๘๖ ครัวเรือน ๗๓๖ คน ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง กงหรา ศรีบรรพต ควนขนุน ป่าพะยอม ศรีนครินทร์ และปากพะยูน ปัตตานี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอยะหริ่ง ๕ ตำบล ๒๔ หมู่บ้าน สงขลา เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ ๖อำเภอ ๒๘ ตำบล ๑๓๒ หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน ๓๓ หลังถนน ๑๐๙ สาย พื้นที่การเกษตร ๕,๑๘๙ ไร่ ราษฎรเดือดร้อน ๑๒,๒๐๑ ครัวเรือน ๔๐,๐๘๕ คน ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา ควรเนียง ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และสิงหนคร
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ประสานอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหาย และระดมเครื่องจักรกล รถยนต์ เครื่องสูบน้ำ ๘ เครื่อง เรือท้องแบน ๑๕ ลำ ออกให้บริการขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม รวมทั้งนำน้ำดื่ม ๓๒,๔๐๐ ขวด ถุงยังชีพ ๖,๕๐๐ ชุด พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้ เพื่อเตรียมความพร้อม ในการรับมือสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๑ สุราษฎร์ธานี เขต ๑๒ สงขลา เขต ๑๗ จันทบุรี เขต ๑๘ ภูเก็ต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดเหตุภัยพิบัติ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ผู้ส่ง : pr
เบอร์โทรศัพท์ : 02 2432200