กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานข่าวจากบริษัท เมอร์ค แอนด์ โก ว่าวัคซีนซึ่งใช้ป้องกันผู้หญิงจากโรคมะเร็งปากมดลูกซึ่งมีสาเหตุจากไวรัสหูดนั้น สามารถป้องกันโรคหูดอวัยวะเพศในผู้ชายได้เช่นกัน
พญ. แอนนา จูเลียอาโน และทีมงานแห่ง H. Lee Moffitt Cancer Center & Research Institute ในเมือง แทมปา มลรัฐฟลอริดา พบว่าวัคซีนการ์ดาซิลมีประสิทธิภาพ 90 เปอร์เซ็นต์ ในการป้องกันรอยโรคของหูดอวัยวะเพศในผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากไวรัสหูดที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โดยปกติในการวิจัย จะมีการตรวจคัดกรองผู้ที่เข้าร่วมทำการศึกษาว่ามีการติดเชื้อ HPV มาก่อนหรือไม่ แต่ในกรณีของบุคคลที่ไม่ได้ตรวจคัดกรองก่อน พบว่าวัคซีนนี้มีประสิทธิภาพประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ ในการป้องกันการติดเชื้อ HPV สี่สายพันธุ์ ที่วัคซีนนี้ครอบคลุมอยู่ "เราพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 90.4 เปอร์เซ็นต์ ในการลดรอยโรคบริเวณอวัยวะเพศส่วนนอกของผู้ชาย ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อ HPV สายพันธุ์ 6 และ 11" พญ.แอนนา กล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
เมอร์ครายงานอีกว่า "ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลเดียวที่ได้จากประเมินประสิทธิภาพของวัคซีน HPV ในการป้องกันโรคในผู้ชายและได้มีการรายงานผลดังกล่าวเป็นครั้งแรกในงานประชุม The European Research Organization on Genital Infection and Neoplasia (EUROGIN) International Multidisciplinary Conference ที่ผ่านมา"
นอกจากนี้ ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯ รายงานว่าเชื้อ human papilloma virus หรือ HPV เป็นเชื้อที่ติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ได้มากที่สุดทั่วโลก โดยในสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อไวรัส HPV ทั้งหญิงและชายประมาณ 20 ล้านคน
เชื้อไวรัสนี้เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งคร่าชีวิตผู้หญิง 3,870 คนต่อปีในสหรัฐอเมริกา และ 300,000 คนต่อปีทั่วโลก
เชื้อไวรัสนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งอื่นๆ เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งองคชาต รวมทั้งมะเร็งบริเวณปากและลำคอ ทั้งนี้ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯคาดว่า ระหว่างปี พ.ศ. 2541 ถึง 2546 นั้น มะเร็งที่เกิดจากเชื้อ HPV นี้เป็นสาเหตุการตายของผู้ป่วยประมาณ 25,000 คน
วัคซีนการ์ดาซิลได้รับอนุมัติให้ใช้ในเด็กผู้หญิงและผู้หญิงสาว อย่างไรก็ตามบริษัทผู้ผลิตกำลังพยายามหาตลาดใหม่ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้กล่าวว่าวัคซีนนี้ควรใช้ได้ในเด็กผู้ชายและผู้ชายเพื่อป้องกันตนเองและคู่นอนจากโรคที่อาจเป็นได้ในอนาคต
ทีมงานของพญ. แอนนา ได้ฉีดวัคซีนนี้ หรือวัคซีนหลอกกับกลุ่มทดลองผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 26 ปี จำนวน 4,065 คน และได้ติดตามผลทุกๆ หกเดือน โดยข้อมูลทางการแพทย์แนะนำว่าการป้องกันที่มีประสิทธิภาพควรฉีดวัคซีนนี้ก่อนได้รับเชื้อ HPV หรือเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
ถึงแม้ว่าวัคซีนสามารถป้องกันผู้ติดเชื้อได้น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ที่ตรวจพบ HPV ในกระแสเลือดทั้งหมด แต่วัคซีนนี้ยังสามารถป้องกันการพัฒนาของโรคหูดอวัยวะเพศ และรอยโรคก่อนเป็นมะเร็งอวัยวะเพศ (PIN) ได้อีกด้วย
"ข้อมูลนี้ได้ช่วยตอบคำถามสำคัญเกี่ยวกับงานวิจัยในอนาคต กล่าวคือ เราเพิ่งเข้าใจว่าโรคมะเร็งในผู้ชายนั้นเกี่ยวข้องกับเชื้อ HPV ดังนั้นข้อมูลนี้ จึงมีส่วนสำคัญในการศึกษาว่าการฉีดวัคซีนในผู้ชายนั้นสามารถป้องกันผ่านไปถึงผู้หญิงที่เป็นคู่นอนของเขาได้ด้วยหรือไม่" พญ.แอนนา กล่าวเสริม
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
คุณชุติมา บวรรัตนโชติ
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน (ประเทศไทย)
โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 211
e-Mail: cbovonratanachote@th.hillandknowlton.com