อีเอ็มซีรุกหนัก เข้าซื้อกิจการ “อาร์เอสเอ ซีเคียวริตี้” รวมทั้งเน็ตเวิร์ก อินเทลลิเจนซ์

ข่าวบันเทิง Wednesday November 22, 2006 11:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
จัดตั้งส่วนธุรกิจการรักษาความปลอดภัยเพื่อนำเสนอโซลูชั่นความปลอดภัยที่มุ่งเน้นข้อมูล พร้อมทั้งคุ้มครองข้อมูลตลอดอายุการใช้งาน
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) ผู้นำระดับโลกด้านการจัดเก็บและการจัดการข้อมูล เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เข้าซื้อกิจการของอาร์เอสเอ ซีเคียวริตี้ (RSA Security) (NASDAQ:RSAS) ผู้นำด้านการคุ้มครองและจัดการตัวตนผู้ใช้งาน (Identity) แบบออนไลน์ และทรัพยากรดิจิตอล อย่างสมบูรณ์ โดยสำนักงานใหญ่ของอาร์เอสเอตั้งอยู่ในรัฐแมสซาชูเส็ตต์ ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงที่ประกาศเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2549 อีเอ็มซีจะจ่ายเงินสด 28.00 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพื่อแลกเปลี่ยนกับแต่ละหุ้นของอาร์เอสเอ รวมถึงสิทธิ์ในการจองซื้อหุ้น โดยราคาซื้อทั้งหมดเกือบ 84,000 ล้านบาท (2,100 ล้านดอลลาร์) หลังจากหักยอดเงินคงเหลือในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ (Cash Balance) ของอาร์เอสเอ ผู้ถือหุ้นของอาร์เอสเอ ซีเคียวริตี้ ได้อนุมัติการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว
นอกจากนี้ อีเอ็มซียังได้ลงนามในข้อตกลงขั้นสุดท้ายสำหรับการเข้าซื้อกิจการของเน็ตเวิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (Network Intelligence) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนในแมสซาชูเส็ตต์ โดยเป็นผู้นำด้านการคุ้มครองข้อมูลและการจัดการเหตุการณ์ การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท (175 ล้านดอลลาร์) ภายหลังการเข้าซื้อกิจการของทั้งสองบริษัท อีเอ็มซีจะจัดตั้งส่วนธุรกิจใหม่สำหรับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
ดร.ธัชพล โปษยานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัทอีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความปลอดภัยของข้อมูลนับเป็นประเด็นที่ผู้บริหารระดับซีไอโอในองค์กรต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ในการตัดสินใจอนุมัติงบประมาณ ในปัจจุบันปราการแนวหน้าของระบบรักษาความปลอดภัยเริ่มเปลี่ยนย้ายจากการคุ้มครองบริเวณรอบนอกของเครือข่าย ไปสู่การปกป้องและคุ้มครองข้อมูลโดยตรง ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะถูกจัดเก็บไว้ที่ใดหรือกำลังเคลื่อนย้ายไปยังจุดใดก็ตาม”
“การเพิ่มเติมเทคโนโลยีของอาร์เอสเอ และเน็ตเวิร์ก อินเทลลิเจนซ์ เข้ากับผลิตภัณฑ์ของอีเอ็มซี จะช่วยให้เราสามารถดำเนินกลยุทธ์ด้านการรักษาความปลอดภัยที่มุ่งเน้นข้อมูลเป็นหลัก เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกสามารถคุ้มครองข้อมูลของตนเองได้อย่างเหมาะสมตลอดอายุการใช้งานของข้อมูล พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบ”
กลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยโดยมุ่งเน้นข้อมูลของอีเอ็มซี ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถคุ้มครองข้อมูลได้อย่างเป็นระบบและครบวงจร องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถประเมินความเสี่ยงต่อข้อมูลขององค์กร คุ้มครองผู้ใช้ที่เข้าถึงข้อมูลนั้น คุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ในการเข้าถึงข้อมูล ปกป้องความลับและความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลโดยตรง และบริหารจัดการข้อมูลและเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินการมีประสิทธิภาพและเพื่อลดภาระในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
อาร์เอสเอ ซีเคียวริตี้ ช่วยเพิ่มเติมโซลูชั่นที่ยอดเยี่ยมในด้านการจัดการตัวตนผู้ใช้งานและการจัดการการเข้าถึง รวมถึงซอฟต์แวร์ด้านการเข้ารหัสและการจัดการคีย์ และความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะทำให้อีเอ็มซีสามารถขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ส่วนเน็ตเวิร์ก อินเทลลิเจนซ์ จะช่วยพัฒนากลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยโดยมุ่งเน้นข้อมูลของอีเอ็มซี ด้วยการจัดหาเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถรวบรวม ตรวจสอบ วิเคราะห์ และรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัย โดยครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย แอพพลิเคชั่นระดับองค์กร ระบบเมนเฟรม คอมพิวเตอร์เดสก์ทอป อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล หรือจุดอื่นๆ โซลูชั่นจากเน็ตเวิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ช่วยลดภาระในการยืนยันว่ามีการปฏิบัติตามนโยบายและกฎระเบียบด้านการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนธุรกิจการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้แบรนด์ของอาร์เอสเอ จะมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเบดฟอร์ด รัฐแมสซาชูเส็ตต์ และ มร. อาร์ต คอวิเอลโล่ อดีตซีอีโอของอาร์เอสเอ จะดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารของอีเอ็มซี และประธานของส่วนธุรกิจกล่าวว่า “ในการรักษาความปลอดภัย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปลี่ยนจากการติดตั้งโซลูชั่นเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง ลูกค้าควรเปลี่ยนไปใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ built in ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที เพื่อคุ้มครองลูกค้า ระบบ และข้อมูลอย่างครบวงจร” มร. คอวิเอลโล่ กล่าว “ตอนนี้อีเอ็มซีมีทรัพยากรและความเชี่ยวชาญที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างกลมกลืนและทั่วถึง และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างเต็มที่ในฐานะทรัพยากรที่มีค่า ไม่ใช่ปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง”
พร้อมกันนี้ อีเอ็มซีเปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดสรรวงเงินกู้ระยะสั้น 88,000 ล้านบาท (2,200 ล้านดอลลาร์) โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อใช้ในการเข้าซื้อกิจการของอาร์เอสเอ มร. เดวิด กูลเด้น รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอีเอ็มซี กล่าวว่า “วงเงินกู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่อีเอ็มซี เพราะช่วยให้เราสามารถทำการเข้าซื้อกิจการได้สำเร็จเสร็จสิ้น โดยหลีกเลี่ยงการดึงเอาเงินลงทุนระยะสั้นมาใช้ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการใช้ประโยชน์จากงบดุลที่แข็งแกร่งของเรา”
นอกจากนั้น อีเอ็มซียังยืนยันที่จะใช้เงินอย่างน้อย 3,000 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อคืนหุ้นของอีเอ็มซีในช่วงปี 2549 “เมื่อพิจารณาถึงโอกาสที่รออยู่เบื้องหน้า หุ้นของอีเอ็มซีในระดับนี้จะยังคงเป็นหนึ่งในหุ้นที่มูลค่าดีที่สุดในตลาด และเราจะยังคงให้เงินทุนสนับสนุนแผนการซื้อหุ้นคืน” มร. กูลเด้น กล่าว
หลังจากที่อีเอ็มซีประกาศแผนการซื้อกิจการของอาร์เอสเอ ซีเคียวริตี้ ทั้งสองบริษัทได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเพื่อจัดทำแผนงานสำหรับการผนวกรวมกิจการ โดยมุ่งที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจสูงสุด ส่วนหลักๆ ที่มีการผนวกรวมการดำเนินงานได้แก่:
องค์กร — อาร์เอสเอ ซีเคียวริตี้ เป็นรากฐานของส่วนธุรกิจการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของอีเอ็มซี ภายใต้การควบคุมดูแลของ มร. คอวิเอลโล่ ชื่อของอาร์เอสเอ รวมถึงแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ และบริการทั้งหมดจะคงไว้เช่นเดิม ในขณะที่เน็ตเวิร์ก อินเทลลิเจนซ์ จะกลายเป็นหน่วยธุรกิจภายใต้ส่วนธุรกิจการรักษาความปลอดภัย หน่วยงานบริหารและหน่วยงานทั่วไปจะได้รับการผนวกรวมเข้ากับองค์กรของอีเอ็มซี
การขาย บริการ และการจัดจำหน่าย- ส่วนธุรกิจการรักษาความปลอดภัยที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้จะมีทรัพยากรด้านการขาย การจัดเตรียมการขาย การตลาด และบริการเป็นของตัวเอง เพื่อดำเนินงานตามเป้าหมายที่วางไว้ และขับเคลื่อนโครงการคู่ค้าด้านระบบรักษาความปลอดภัย และในขณะเดียวกันก็จะใช้ประโยชน์จากหน่วยงานภาคสนามของอีเอ็มซีซึ่งกระจัดกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
การวิจัยและพัฒนา- ส่วนธุรกิจการรักษาความปลอดภัยจะยังคงใช้ทรัพยากรเฉพาะสำหรับการพัฒนา และเพิ่มความรวดเร็วในการนำเสนอโซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาและนำเสนอแพลตฟอร์มร่วมสำหรับการรักษาความปลอดภัย (common security platform - CSP) เป็นรายแรกในอุตสาหกรรม โดยแพลตฟอร์ม CSP ของอีเอ็มซีจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วฉับไวในการผนวกรวมบริการหลักๆ ด้านความปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของอีเอ็มซี ช่วยให้ลูกค้ามีแพลตฟอร์มแบบเปิดสำหรับการคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล
ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี เป็นผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการบริหารระบบเครือข่ายข้อมูลเพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกสามารถดึง และปรับใช้ข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละส่วนของวงจรข้อมูลนั้นๆ ได้ในระดับสูงสุดโดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.EMC.com
Verdyne NunisEMC South AsiaTel: +65-6427-1741Fax: +65-6333-6878Email: Nunis_verdyne@emc.com Local PR agency contactจตุพร ไตรทานบริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัดTel: 0-2971-3711Fax : 0-2521-9030Email : jatuporn@pc-a.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ