กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ต้อนรับนางสาวไทยคนใหม่ในยุคเรียลิตี้ ในการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2551 รอบตัดสิน ภายใต้ คอนเซ็ปต์ “ประกายงามแห่งปัญญา” ที่จัดขึ้นโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมี ม.ร.ว.เบญจาภา ไกรฤกษ์ เป็นประธานคณะกรรมการตัดสินและเป็นผู้สวมมงกุฎให้กับนางสาวไทยปี 2551 พร้อมเหล่าคณะกรรมการ อาทิ ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์, ม.ล.นันทิกา วรวรรณ, ขรรค์ ประจวบเหมาะ และ จิตติมา วรรธนะสิน เป็นต้น ณ ห้องรอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน ซึ่งหญิงสาวผู้ฉายแววประกายแห่งปัญญา ได้ครองมงกุฎเพชรเป็นนางสาวไทยประจำปี 2551 คนที่ 44 จากบรรดาสาวงามทั้ง 18 คนที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสิน คือหมายเลข 17 บุ๋ม — พรรณประภา ยงค์ตระกูล นิสิตสาวคณะแพทยศาสตร์ ปี 3 จากรั้วจามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ตอบคำถามได้ชนะใจกรรมการ ด้วยคำถามว่า “หากคุณเป็นคนตัดสินใจจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน เพื่อสร้างความเจริญให้แก่ประเทศไทยด้านใดด้านหนึ่ง คุณจะให้ความสำคัญ หรือ เน้นด้านไหน เพราะอะไร” ซึ่งคำตอบคือ “บุ๋มจะนำงบประมาณที่ได้จัดสรรมาใช้พัฒนาด้านการศึกษา เพราะในปัจจุบันการศึกษายังกระจุกอยู่ในเมือง ซึ่งเยาวชนเด็กในชนบทยังไม่มีโอกาสได้เรียนสูง จึงอยากนำมาช่วยเหลือในจุดนี้ เพราะการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญ ที่จะทำให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น”
บรรยากาศภายในงานประกวดนางสาวไทยประจำปี 2551 ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทั้งจากสื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมชมการประกวด และยังเนื่องแน่นไปด้วยผู้ที่มาเชียร์ให้กำลังใจสาวงามที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดสินทั้ง 18 คน พร้อมด้วยป้ายไฟนีออนที่ทำมาเป็นหมายเลขของผู้เข้าประกวดที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งนับเป็นมิติใหม่ของรูปแบบการให้กำลังใจผู้เข้าประกวดนางสาวไทยในปีนี้ เนื่องจากการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2551 ได้มีการออกอากาศให้ผู้ชมทางบ้านได้ติดตามชมผ่านรายการเรียลิตี้ “เกาะติดเส้นทางนางสาวไทย” และร่วมโหวตตำแหน่งขวัญใจประชาชน อีกด้วย
ก่อนผลการตัดสินนางสาวไทย 51 ได้มีการประกาศรางวัลย่อยๆ ซึ่งเป็นรางวัลนางงามผิวสวย และ รางวัล Miss Healthy โดยผู้ที่ได้ 2 รางวัลนี้ไปครองคือ บุ๋ม - พรรณประภา ยงค์ตระกูล หมายเลข 17, รางวัล Miss Think Positive คือ แป้งร่ำ-เสาวลักษณ์ พรหมศร หมายเลข 15, รางวัล นางงามมิตรภาพ ได้แก่ ฮอลล์-พิมพ์พิชชา อัศวพงศ์สุกฤตา หมายเลข 10, รางวัลขวัญใจประชาชน ได้แก่ แป๊บ-พิชญา พงษ์ชีพ หมายเลข 3, รางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน และรางวัลนางงามบุคลิกภาพ ได้แก่ ปาล์ม- รต.หญิง ชโลธร ชัยชมภู หมายเลข 16 ที่คว้าไป 2 รางวัลเช่นกัน
ถึงเวลาแห่งความระทึกใจเมื่อพิธีกรประกาศผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ซึ่งได้แก่ หมายเลย 18 เดียร์-วรรณกร กองเมือง, หมายเลข 16 ปาล์ม-รต. หญิง ชโลธร ชัยชมภู และ หมายเลข 17 บุ๋ม-พรรณประภา ยงค์ตระกูล ซึ่งทั้ง 3 สาวงามนี้ จะต้องตอบคำถามเดียวกัน ซึ่งผู้ที่ยังไม่ได้ตอบจะต้องอยู่ในตู้เก็บเสียง ซึ่งคำถามคือ “หากคุณเป็นคนตัดสินใจจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน เพื่อสร้างความเจริญให้แก่ประเทศไทยด้านใดด้านหนึ่ง คุณจะให้ความสำคัญ หรือ เน้นด้านไหน เพราะอะไร” ซึ่งหมายเลข 16 ปาล์ม-รต. หญิง ชโลธร ชัยชมภู เป็นผู้ตอบคนแรกว่า “ปาล์มเลือกที่จะนำไปบริหารด้านการศึกษา และจะปลูกฝังเรื่องความดีสิทธิหน้าที่พึงมี เน้นให้เด็กเห็นประโยชน์ของประเทศชาติมาก่อนตัวเอง ไม่ทิ้งหรือลืมวัฒนธรรมอันดีงามของไทย และให้ความสำคัญกับผู้หลักผู้ใหญ่” ต่อด้วยหมายเลข 17 บุ๋ม-พรรณประภา ยงค์ตระกูล ที่ตอบว่า “บุ๋มจะนำงบประมาณที่ได้จัดสรรมาใช้พัฒนาด้านการศึกษา เพราะในปัจจุบันการศึกษายังกระจุกอยู่ในเมือง ซึ่งเยาวชนเด็กในชนบทยังไม่มีโอกาสได้เรียนสูง จึงอยากนำมาช่วยเหลือในจุดนี้ เพราะการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญ ที่จะทำให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น” และ หมายเลข 18 เดียร์-วรรณกร กองเมือง ที่ตอบเป็นหมายเลขสุดท้ายว่า “เดียร์จะนำมาพัฒนาการท่องเที่ยวในไทยค่ะ เพราะในปัจจุบันไทยเป็นสังคมทุนนิยม และกำลังเข้าสุ่ยุคแห่งปัญญา ไทยจึงมีความเหมาะสมกับยุคนี้ และประเทศไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยก็มีเสน่ห์ ซึ่งในเวลานี้ชาวต่างชาติให้ความนิยมความเป็นอยู่ในแบบเอเชียค่ะ” ระหว่างที่กำลังรอผลว่าใครที่จะได้เป็นนางสาวไทยประจำปีนี้ ก็เป็นช่วงเวลาอำลาตำแหน่งนางสาวไทยปี 50 ของ อ้อ-อังคณา ตรีรัตนาทิพย์ นางสาวไทยประจำปี 2550 จากนั้นจึงประกาศรางวัลนางสาวไทย รองอันดับ 1 และ 2 ผลปรากฏว่า หมายเลข 17 บุ๋ม- พรรณประภา ยงค์ตระกูล เป็นผู้คว้าตำแหน่งนี้ไปครอง, รองอันดับ 1 คือ หมายเลย 16 ปาล์ม-รต. หญิง ชโลธร ชัยชมภู และรองอันดับ 2 คือ หมายเลข 18 เดียร์-วรรณกร กองเมือง
ม.ร.ว.เบญจาภา ไกรฤกษ์ ประธานคณะกรรมการตัดสิน เผยหลังจากได้สาวงามมาดำรงตำแหน่งนางสาวไทยประจำปี 2551 ว่า “สาวงามทั้ง 3 คนที่ผ่านเข้ามาสู่รอบสุดท้าย ทุกคนล้วนมีความสวย ความฉลาด และมีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งนางสาวไทยกันทุกคน ซึ่งคะแนนที่กรรมการให้นั้นมีการพลิกไปมาตลอด เรียกว่าสูสีกันมากๆ แต่คืนนี้ดวงเป็นของบุ๋ม-พรรณประภา ยงค์ตระกูล”
ด้านบุ๋ม-พรรณประภา ยงค์ตระกูล นางสาวไทยคนใหม่ คนที่ 44 ประจำปี 2551 เผยถึงความรู้สึกหลังการได้รับตำแหน่งนางสาวไทยว่า “ตอนอยู่บนเวทีรู้สึกตื่นเต้น แต่รวบรวมสติเพื่อจะได้มีสมาธิในการตอบคำถามให้ดีที่สุด ก่อนการประกาศผมก็แอบคาดหวังเล็กๆ ค่ะ เมื่อได้รับตำแหน่งแล้วจะทำหน้าที่ให้กองประกวด องค์กรการกุศลต่างๆ เหมือนคำพูดที่ว่ามงกุฎหนัก แต่สิ่งที่ตามมาหลังการสวมมงกุฎหนักยิ่งกว่า ดังนั้นเวลาจะทำอะไรต้องอดทน เสียสละ และคิดถึงคนอื่นมากกว่าตนเอง สำหรับภาวะบ้านเมืองในขณะนี้ บุ๋มเชื่อค่ะว่าสิ่งที่ทุกคนคิดหรือแสดงออกมา ก็เพื่อต้องการพัฒนาประเทศชาติให้ดีขึ้น และบุ๋มก็เชื่อค่ะว่าทุกคนในตอนนี้ก็อยากที่จะให้เจอทางออกที่ดีที่สุดให้แก่ประเทศชาติเช่นกันค่ะ ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนางสาวไทย บุ๋มอยากจะรณรงค์ให้เด็กวัยรุ่นหันมาสนใจ เอาใจใส่ผู้สูงอายุกันค่ะ ด้วยความเป็นหมอที่บุ๋มเรียน และมักจะเห็นคนเฒ่าคนแก่ที่ป่วยต้องเข้าพักรักษาพยาบาล แต่กลับถูกทอดทิ้งให้ต้องอยู่ตามลำพัง ซึ่งมันน่าเศร้ามาก และผู้สูงอายุเหล่านี้ควรที่จะมีความสุขอยู่กับลูกหลานที่ท่านรักในบั้นปลายชีวิต บุ๋มจึงอยากที่จะช่วยเหลือสังคมในตรงนี้ค่ะ”
สวย สง่า แถมความคิดยังเฉียบคม สำหรับนางสาวไทยประจำปี 2551 คนที่ 44 บุ๋ม-พรรณประภา ยงค์ตระกูล ซึ่งจะต้องรับหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ในการเป็นตัวแทนของประเทศไทย เผยแพร่วัฒนธรรมไทยอีกด้วย โดยของรางวัลที่ได้รับ คือ มงกุฎเพชรมูลค่า 450,000 บาท เงินรางวัล 1,000,000 บาท, รถ Isuzu มิวเซเว่น แพลทตินั่มใหม่ มูลค่า 1,200,000 บาท, เครื่องประดับเพชร Perfect Diamond มูลค่า 200,000 บาท, กรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคลจาก AIA วงเงินคุ้มครอง 3,000,000 บาท, ผลิตภัณฑ์ สก๊อต คอลลาเจนอี เครื่องดื่มคอลลาเจน ดื่มฟรีตลอด 1 ปี, เครื่องสำอาง BSC Cosmetology ให้ใช้ฟรี ตลอดปี, ผลิตภัณฑ์ AJ ชุดโฮมเธียเตอร์ และเครื่องเล่นดีวีดี, ผลิตภัณฑ์จาก คังเซน เคนโก มูลค่า 107,100 บาท
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร.0-2434-8300 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์