กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 เป็นต้นมา หน่วยงานความปลอดภัยอาหารแห่งนอร์เวย์ (Norwegian Food Safety Authority - NFSA) ได้ตรวจพบสารเคมีตกค้างทางการเกษตรมีปริมาณเกินกว่าที่นอร์เวย์กำหนดในสินค้าผักสดจากไทย ได้แก่ ถั่วฝักยาว พริก หัวหอม ใบกระเพรา มะเขือม่วง และผักคะน้า ซึ่ง NFSA ได้มีคำสั่งให้ระงับการจำหน่ายและนำสินค้าออกจากร้านค้าต่าง ๆ รวมทั้งจะสุ่มตรวจสินค้าในล็อตต่อไปจากบริษัทผู้ส่งออกรายเดียวกัน โดยจะกักสินค้าไว้ ณ ด่านนำเข้าจนกว่าจะได้รับผลการตรวจสอบแล้ว
ประเทศนอร์เวย์เป็นประเทศหนึ่งที่มีการตรวจสอบสารเคมีตกค้างทางการเกษตรอย่างเข้มงวด ขณะนี้ หน่วยงาน NFSA ของนอร์เวย์กำลังติดตามตรวจสอบสินค้าพืชผักจากไทยอย่างต่อเนื่องและได้ตรวจพบสารตกค้างประเภทต่าง ๆ บ่อยครั้ง ซึ่งอาจนำมาสู่การใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้นในอนาคต จะเป็นผลให้สินค้าเกษตรของไทยเข้าสู่ตลาดนอร์เวย์ได้ยากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หน่วยงานของไทยมิได้นิ่งนอนใจ โดยกรมวิชาการเกษตรได้ออกประกาศกำหนดให้สินค้าผัก ผลไม้ที่จะส่งออกไปยังนอร์เวย์ ต้องมีหนังสือรับรองสารพิษตกค้างจากกรมวิชาการเกษตรแสดงต่อกรมศุลกากรประกอบพิธีการส่งออก รวมทั้งต้องผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรดีที่เหมาะสม (Good Agricultural Practice: GAP) และมาจากโรงคัดบรรจุที่ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานตามระบบการผลิตที่ดี (Good Manufacturing Practice: GMP) จากกรมวิชาการเกษตร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการตรวจพบสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานดังกล่าว และทำให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยของสินค้าเกษตรที่ส่งออกด้วย
สำหรับสารเคมีตกค้างทางการเกษตรที่นอร์เวย์ตรวจพบจากสินค้าผักของไทย ทางการนอร์เวย์ได้กำหนดปริมาณสูงสุด ดังนี้
ประเภทสารเคมี ปริมาณสูงสุดที่อนุญาตให้มีได้ (mg/kg)
Carbendazim 0.02
Chlorpyrifos 0.05
Cypermethrin 0.05
Ethion 0.01
Metalaxyl 0.05
Triazofat 0.01
Dictrotophos ไม่มีการกำหนดไว้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ใช้ได้ทั้งในนอร์เวย์และสหภาพยุโรป
ปัจจุบัน นอร์เวย์ได้ตรวจพบสารเคมีตกค้างในสินค้าผักจากไทยบ่อยครั้งดังกล่าว ฉะนั้น ผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์จะส่งออกสินค้าผัก ผลไม้ไปยังนอร์เวย์ควรปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวข้างต้นอย่างเคร่งครัด และเพิ่มความระมัดระวังในการใช้สารเคมีทางการเกษตร เพื่อมิให้สินค้าถูกทำลายหรือถูกกักกัน ณ ด่านนำเข้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าผัก ผลไม้ของไทยโดยรวมได้
นอร์เวย์เป็นตลาดส่งออกผัก ผลไม้ที่สำคัญของไทย โดยในปี 2550 ไทยส่งออกสินค้าผัก ผลไม้สดแช่เย็นและแช่แข็งไปนอร์เวย์มูลค่าประมาณ 66 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.2 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดของไทยไปยังนอร์เวย์ และในปี 2551(ม.ค. — ต.ค.) ไทยส่งออกสินค้าผัก ผลไม้สดแช่เย็นและแช่แข็งไปนอร์เวย์มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 24.2