กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
เป็นฝ้าที่แก้ม ใช้ครีมแพงๆ อย่างไรก็ไม่หาย แถมยังเป็นปัญหากวนใจเรื่องสุขภาพผิวพรรณที่ต้องประสพมากที่สุด แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่มีผลกระทบให้ต้องเสียบุคลิกภาพ ยิ่งมาเกิดบนโหนกแก้มซึ่งเป็นจุดเด่นบนใบหน้า โดยเฉพาะสุภาพสตรีในวัยกลางคน ก็ยิ่งทำให้ขาดความมั่นใจ ฝ้า คือ การเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีหรือเมลานิน ที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ อาทิ แสงแดด ไอความร้อน ความไม่สมดุลของฮอร์โมน แพ้ส่วนผสมในเครื่องสำอาง พันธุกรรมและความเปลี่ยนแปลงของวัยที่เพิ่มขึ้น
ครีมลดเลือนรอยฝ้าแต่เดิม มักจะมีส่วนประกอบของสารปรอท ที่ช่วยทำให้ใบหน้าขาวขึ้น แต่สารปรอทจะมีผลกระทบให้เม็ดสีตายสนิท ยิ่งใช้ครีมประเภทนี้นานวัน ใบหน้าอาจเกิดรอยด่างเป็นจุดขาว นอกจากนี้ บางชนิดก็มีส่วนผสมของสารอื่นๆ อาทิ สเตอรอยด์ ที่กัดผิว ใช้ต่อเนื่อง ผิวหน้าจะเปราะบาง ทำให้เห็นเส้นเลือดฝอยสีแดงๆ ขยายขึ้นบริเวณที่ทา เมื่อฝ้าเป็นหนึ่งในปัญหายอดฮิตของสาวๆ ไทย ล่าสุดรมย์รวินท์คลินิก ได้นำเทคโนโลยีแฟร็กเซล (Fraxel) จากการค้นพบของแพทย์ผิวหนังชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นเลเซอร์ตัวแรกและตัวเดียว ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ที่มีความปลอดภัยสูงและมีผลข้างเคียงน้อย มาใช้ในการรักษาปัญหาฝ้า ซึ่งแพทย์หญิงฐานิสร ธรรมลิขิตกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคผิวหนังแห่งรมย์รวินท์คลินิก ให้ความเห็นว่า “แม้ฝ้าจะเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก แต่ก็รักษาได้ หากแก้ไขได้ ตรงจุด และปฎิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะคนไทยอยู่กับแสงแดด ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้า ดังนั้นเราจะต้องหาสาเหตุให้เจอ แม้ไม่ได้เผชิญกับแสงแดดตรงๆ นั่งอยู่ในรถแอร์เย็นๆ นึกว่าไม่โดนแดด แต่จริงๆ แล้วรังสีในแสงแดดที่ทำให้เกิดฝ้า ก็สามารถผ่านกระจกเข้ามาได้ ยิ่งนั่งในรถที่แอร์เย็นสบาย ในภาวะที่การจราจรติดขัด ชีวิตต้องอยู่บนท้องถนนยาวนาน ก็ยิ่งรับแสงมากขึ้น วิธีที่ดีที่สุด คือ พยายามอยู่ในที่ร่ม หากต้องเผชิญกับแสงแดด ให้ใช้ร่ม หมวก ป้องกันมิให้ผิวต้องกระทบกระทั่งกับแสงแดดโดยตรงปัจจุบัน ก็ยังมีทางเลือกในการรักษาฝ้าที่ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีแฟร็กเซล ที่ย่อยพลังงานเลเซอร์ให้เล็กที่สุด เพื่อลงไปกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตนเอง หรือเป็นการทำลายเซลล์ที่สร้างสีเยอะผิดปกติออกไปทีละน้อย เป็นการผลัดผิวเก่าให้ได้ผิวใหม่ทดแทน มีผลข้างเคียงน้อย และสามารถออกไปพบปะ
ผู้คน โดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเพียงแต่จะต้องดูแลตนเอง โดยหลีกเลี่ยงจากแสงแดด เพื่อให้ได้ผลประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีวิทยาการใหม่ล่าสุด ด้วยการนำแฟร็กเซล มาผนวกเข้ากับเลเซอร์อาร์เอส (RS) ซึ่งเป็นซอฟท์เลเซอร์ลบสี รอยดำจะค่อยๆ จางลง พร้อมกับใช้วิธีนำส่งตัวยาจากไวท์เทนนิ่งทรีตเม้นต์ลงสู่ผิว ซึ่งไม่ก่อให้เกิดแผล หลังจากการรักษา ไปไหนมาไหนได้อย่างปกติ ซึ่งเหมาะกับผิวและปัญหาฝ้าของคนไทย เพราะผิวของคนไทยมีเม็ดสีมาก ยิ่งกว่านั้นเมืองไทยมี แสงแดดแรง ดังนั้นเลเซอร์ที่เหมาะสม ควรเป็นเลเซอร์แบบอ่อนโยน
“ที่ดีที่สุดในการป้องกันและรักษาฝ้า คือ การหลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเฉพาะในช่วง 08.00น. — 17.00น. เพราะรังสีในแสงแดด นอกจากจะทำให้ฝ้าเข้มขึ้น ยังทำให้ผิวเหี่ยว เกิดมะเร็งผิวหนัง และอย่าลืมให้ความสำคัญกับครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป และหากเกิดฝ้าบริเวณใบหน้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษา ไม่ควรซื้อยาทาเอง” แพทย์หญิงฐานิสร กล่าวทิ้งท้าย
*******************************************
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300, 0-2434-8547
สุจินดา, แสงนภา, ปนัดดา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net