กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์
“นิทาน” สื่อทรงอานุภาพ ที่สามารถร้อยรักร้อยสายใยภายในครอบครัวได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะสำหรับช่วง 6 ขวบปีแรก และจากที่พ่อแม่เป็นผู้เล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน เมื่อลูกน้อยต้องมาเป็นผู้เล่าบ้างจะเป็นอย่างไร สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (ทีเค ปาร์ค) ร่วมกับ นิตยสาร Mother&Care และมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก จึงได้จัดทำโครงการ “ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 1” ขึ้น เพื่อเป็นเวทีแห่งการพัฒนาทักษะและนิสัยรักการอ่านของเด็กๆ ให้ตัวหนังสือที่ผ่านตาหรือผ่านหู ออกมาโลดแล่นในโลกจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัด ซึ่งแบ่งประเภทการแข่งขันดังนี้ 1.ประเภทเดี่ยว มี 2 ระดับ คือ ระดับ 4-6 ปี และระดับ 6-9 ปี 2. ประเภททีมโรงเรียน (ทีมละ 3-5 คน) มี 2 ระดับ คือ ระดับ 4-6 ปี และ ระดับ 6-9 ปี และ 3. ประเภททีมครอบครัว (ทีมละไม่เกิน 5 คน จำกัดอายุลูกไม่เกิน 9 ปี) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พร้อมทุนการศึกษามูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท ตัดสินรอบชนะเลิศเดือนตุลาคมศกนี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gmmultimedia.co.th
ภายในงานแข่งขันรอบคัดเลือกประเภทเดี่ยวระดับ 4-6 ปี ที่ผ่านมา ณ อุทยานการเรียนรู้ ชั้น 8 อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซน D คณะกรรมการตัดสินต่างกล่าวถึงประโยชน์ของนิทาน โดย รศ. พญ. นิศรา เรืองดารกานนท์ กล่าวว่า “นิทานช่วยส่งเสริมการอ่าน โดยเฉพาะการส่งเสริมการอ่านภายในครอบครัว เพราะความสำคัญของการเล่านิทานให้ลูกฟัง มิใช่เพียงส่งเสริมศักยภาพสมอง ทั้งด้านจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ รสนิยมด้านศิลปะ ภาษา และจริยธรรมเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญยิ่งในการเสริมสร้างความปฏิสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้เกิดขึ้น อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันครอบครัวในสังคมไทยอย่างยั่งยืน”
ทางด้าน รศ.เกริก ยุ้นพันธ์ เสริมว่า “นิทานเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่เราได้ยินพ่อแม่เล่าให้ฟังตั้งแต่เด็ก ทั้งหมดเป็นความรู้ เป็นครูของเรามาจนถึงทุกวันนี้ จะเรียกได้ว่านิทานมีพลังที่สามารถแทนอ้อมกอดของวงแขนที่อบอุ่นตลอดจนความรักของพ่อแม่ได้”
นอกจากนั้น ทิพย์สุดา สุเมธเสนีย์ ได้อธิบายถึงประโยชน์ของนิทานเพิ่มเติมว่า “นิทาน คือ ชีวิตของเด็ก ปลูกฝังให้เด็กเป็นคนที่รักการอ่านหนังสือ และเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูก อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาให้เด็กมีการเจริญเติบโตทั้งด้านจิตใจและความคิดที่ดี กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตัวเอง รวมทั้งได้เรียนรู้สิ่งที่เป็นข้อคิดหรือคติสอนใจจากนิทานเรื่องนั้นๆ”
ในขณะที่บรรยากาศในรอบคัดเลือกที่นำมาฝากกันในวันนี้ ดูจากความตั้งใจแล้วทุกคนได้คะแนนเต็มสิบ แต่เรื่องราวความสนุกของนิทานนั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่ไม่เพียงแต่ปวดหัวกับความไม่อยู่นิ่งของผู้เข้าแข่งขัน แต่ยังต้องลุ้นไปกับนิทานของน้องๆ แต่ละเรื่องว่าจะจบลงอย่างไร แถมแต่ละคนยังงัดข้อคิดเด็ดออกมาโชว์กัน เรียกว่ากินกันไม่ลงจริงๆ ส่วนผลการตัดสินจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามได้ที่ www.gmmultimedia.co.th
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net