กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า ในโอกาสที่รถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดบริการครบ 9 ปี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 นั้น ปรากฏว่า มียอดผู้ใช้บริการตั้งแต่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 972,034,298 เที่ยวคน โดยมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟฟ้าเฉลี่ยวันทำการ 424,369 เที่ยวคนต่อวัน ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา 2.6 % และในปีนี้วันที่มีผู้โดยสารมาใช้บริการสูงสุด คือวันที่ 3 ตุลาคม 2551 มีจำนวน 497,390 เที่ยวคน และปีนี้นับเป็นปีแรกที่สัดส่วนของการใช้บัตรโดยสารประเภทบัตร 30 วัน และบัตรเติมเงิน รวมกันแล้วเกินกว่า 50 % ซึ่งนับว่าสูงกว่าการใช้ตั๋วแบบเที่ยวเดียว โดยเฉพาะบัตรเติมเงิน เพิ่มขึ้นจาก ปี 2550 เดิม12.90 % เป็น 17.90 % เนื่องจากบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เช่น การให้ส่วนลด 2 — 4 บาทต่อเที่ยว การลดค่าโดยสาร 20 % เมื่อเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา และการคงกิจกรรมโปรโมชั่นบัตรประเภท 30 วัน ซึ่งมีราคาพิเศษ รวมถึงการจัดกิจกรรมเพิ่มมูลค่าในบัตรโดยสาร เช่น บีทีเอส สมาร์ทจอย หนูด่วนชวนแวะ ที่ผู้โดยสารสามารถนำบัตรโดยสารสมาร์ทพาสไปใช้เป็นส่วนลดกับร้านค้าที่ร่วมรายการ และล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้ คือ โครงการหนูด่วนพลัส ซึ่งเป็นการสะสมคะแนนจากค่าเดินทาง สำหรับผู้ถือบัตรสมาร์ทพาสทั้งประเภทเติมเงินและ 30 วัน ซึ่งผู้โดยสารสามารถนำคะแนนสะสมไปใช้แลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย โดยบริษัทฯ คาดว่ากิจกรรมนี้จะกระตุ้นให้ผู้โดยสารหันมาใช้บัตรทั้งสองประเภทเพื่อใช้ในการเดินทางมากยิ่งขึ้น และจะทำให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดนั้น ในปี 2551 บริษัทฯ ได้มีการดำเนินการด้านต่างๆ คือ ปรับตารางการเดินรถไฟฟ้า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณความหนาแน่นของผู้โดยสาร โดยขณะนี้ สายสุขุมวิท ช่วงเวลาเร่งด่วน ให้บริการความถี่สูงสุดอยู่ที่ 2.38 นาที และสายลีลมอยู่ที่ 3.21 นาที การจัดการระบบความปลอดภัยที่ดี โดยบริษัทฯ ได้รับการรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยตามมาตรฐาน OHSAS 18001:2007 จากบริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อเดือนกันยายน 2551 และได้รับการรับรองระบบการจัดการด้านความปลอดภัยจาก บริษัท Lloyd’s Register International (Thailand) จำกัด รวมทั้งการได้รับการต่ออายุใบรับรอง ISO 9001:2000 เป็นครั้งที่ 2 ด้วย ซึ่งจากมาตรฐานต่างๆ ทำให้ตลอดระยะเวลาที่เปิดให้บริการมา ผู้โดยสาร 1 คน อาจพบกับความล่าช้าตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไปเพียงครั้งเดียวต่อการเดินทาง 1,775 เที่ยว และตลอดระยะเวลาที่เปิดให้บริการไม่มีผู้ใดประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บรุนแรง
นายคีรี กาญจนพาสน์ กล่าวว่า “ด้านการพัฒนาระบบให้บริการ บริษัทฯ ได้พัฒนาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน เพื่อให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าได้รับความสะดวก สบาย ความปลอดภัยในราคาที่คุ้มค่าที่สุด และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการ โดยปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ ทาสีสถานีรถไฟฟ้าให้ดูใหม่ สะอาดตาเช่นเดียวกับปีแรกที่เปิดให้บริการ รวมทั้งการซ่อมบำรุงใหญ่รถไฟฟ้า ที่มีการใช้งานครบ1,000,000 กิโลเมตร โดยที่การซ่อมใหญ่อุปกรณ์สับราง ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2250 ก็จะแล้วเสร็จทั้งหมดในไตรมาสแรกของปี 2552 ส่วนความคืบหน้าในการจัดหาขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 12 ขบวน นั้น ชุดแรกจะนำเข้ามาให้บริการประมาณปลายปี 2552 และจะเข้ามาครบทั้งหมดต้นปี 2553 ส่วนการเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณมีความก้าวหน้าไปด้วยดีซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนในช่วงกลางปี 2553 อย่างแน่นอน”
สำหรับการเชื่อมต่อกับอาคารข้างเคียงตามเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสในปีนี้นั้นก็ได้มีการเปิดเพิ่มที่สถานีอโศกกับอาคาร Exchange Tower สถานีสนามกีฬาแห่งชาติกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สำหรับอาคารที่มีแผนจะเชื่อมต่อในอนาคต คือสถานีเอกมัยกับอาคารเมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ สถานีอโศกกับอาคาร Interchange และสถานีพญาไท กับสถานีของ Airport Rail Link
นายคีรี กาญจนพาสน์ กล่าวถึงการเตรียมการเพื่อรองรับส่วนต่อขยายเส้นทางสายสีลมช่วงต่อจากสถานีสะพานตากสินไปยังสถานีวงเวียนใหญ่ ว่า “ขณะนี้บริษัทฯ กำลังเริ่มเจรจาในรายละเอียดเพื่อรับการคัดเลือกให้เป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าจากบริษัทกรุงเทพธนาคม ซึ่งกรุงเทพมหานครมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการส่วนต่อขยายช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบริการเปิดได้ตามที่กรุงเทพมหานครกำหนดไว้ประมาณกลางปี 2552 บริษัทฯ จึงได้มีการเตรียมความพร้อมโดยทำการสำรวจและออกแบบ รวมถึงเตรียมงานต่างๆ ที่จำเป็น เช่น ระบบตั๋วโดยสาร ระบบประตูอัตโนมัติ ระบบประกาศชื่อสถานีอัตโนมัติ ระบบวิทยุสื่อสาร ขบวนรถไฟฟ้า พนักงานที่จะให้บริการซึ่งจะต้องมีการรับเพิ่ม การอบรมเพิ่มเติมพนักงานให้เรียนรู้ระบบและเทคโนโลยีใหม่ไว้พร้อมที่จะให้บริการ ได้ทันทีแล้ว
และนับตั้งแต่บริษัทฯ ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2551 นั้น ขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะลงทุน และดำเนินงานในส่วนต่อขยายทั้งหมดของรถไฟฟ้าบีทีเอส และพร้อมที่จะลงทุนหรือดำเนินงานในรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการดำเนินการจัดทำระบบตั๋วร่วม นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในบริเวณแนวเส้นทางรถไฟฟ้า รวมทั้งการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งแผนงานทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯมีความมั่นคงทางการเงิน และสามารถเติบโตต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน ส่วนการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น จะดำเนินการโดยเร็วที่สุด ตามวัตถุประสงค์ของสัมปทานที่ต้องการให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในกิจการสาธารณูปโภคนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คงจะต้องพิจารณาสถานการณ์ตลาดการเงินของโลกควบคู่ไปด้วย ”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ขนิษฐา ต.ตระกูล
ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์
ส่วนสื่อสารองค์กร
บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)
โทรศัพท์ 026177300 ต่อ 1841
โทรสาร 026177133
E-mail : khanithat@bts.co.th