กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ชวนเด็กไทยทั่วประเทศรักการอ่าน ส่งเสริมการเรียนรู้ ‘เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 4’ ชูคอนเซ็ปต์ ‘ความรู้ทำทุกสิ่งให้เป็นจริงได้’ 6 — 11 กรกฎาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (ส.พ.จ.ท.) ผนึกพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนเร่งกระตุ้นการอ่าน ส่งเสริมการเรียนรู้ในหมู่เด็กไทย รวมพลังจัดงาน ‘เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 4’ (Book Festival for Young People 2006) ระหว่างวันที่ 6 — 11 กรกฎาคม 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ หวังเป็นคลังความรู้ช่วยขับเคลื่อนเยาวชนไทยเห็นประโยชน์จากการอ่านและการเรียนรู้ พัฒนาระบบความคิด เสริมสร้างจินตนาการ สอดรับคอนเซ็ปต์ของการจัดงานในปีนี้ ‘ความรู้ทำทุกสิ่งให้เป็นจริงได้’ พบนิทรรศการและกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้มากมาย อาทิ นิทรรศการผลงานที่ชนะการประกวดวาดภาพประกอบหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 6, นิทรรศการการจัดการเรียนรู้บูรณาการด้านวิธีการทางวิทยาศาสตร์, ลานกิจกรรมสนุกคิด ประดิษฐ์ศิลป์, กิจกรรมนิทานเพื่อนรัก ฯลฯ ร่วมด้วยกิจกรรมบนเวที และการจัดอบรมสัมมนาในประเด็นที่ น่าสนใจทันยุคทันสมัย อาทิ การส่งเสริมการอ่านสำหรับวัยรุ่น, การช่วยให้เด็กพิเศษประสบความสำเร็จในการเรียนร่วม พิเศษสุดในงานร่วมลุ้นรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ครั้งที่ 2 ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2549
นายธนะชัย สันติชัยกูล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การอ่านเป็นพื้นฐานแห่งการเรียนรู้ที่สำคัญ การปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้แก่เยาวชน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ครอบครัว รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆ หน่วยงาน ควรจะร่วมมือกันส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ช่วยกันสร้างบรรยากาศการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทยในวงกว้าง ดังนั้นทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จึงได้จัดงาน ‘เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 4’ (Book Festival for Young People 2006) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ความรู้ทำทุกสิ่งให้เป็นจริงได้’ (Knowledge & Wisdom Station) ในระหว่างวันที่ 6 — 11 กรกฎาคม 2549 ณ ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านและการเรียนรู้ ตลอดจนสร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กและเยาวชนมีความสุขกับการอ่าน อันจะนำไปสู่การสร้างนิสัยถาวรให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้อนาคตเมืองไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และการอ่านได้อย่างแน่นอน
สำหรับกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ของงานในปีนี้ นอกจากจะมีการจัดการแข่งขันตอบคำถามสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ครั้งที่ 2 รอบชิงชนะเลิศ ระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3) ในวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2549 ณ ห้อง Meeting Room 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แล้ว ยังจะมีการแสดงผลงานที่ได้รับรางวัลจากการประกวดภาพประกอบหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน
ครั้งที่ 6 ในรูปแบบนิทรรศการบริเวณเอเทรียม และได้มีการจัดพิมพ์โปสเตอร์ภาพที่ชนะการประกวดครั้งที่ผ่านมา จำหน่ายภายในงานชุดละ 50 บาท 1 ชุดมีจำนวน 20 ภาพ
นอกจากนี้ภายในงานยังจะมีกิจกรรมและนิทรรศการที่เน้นส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัย โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซน C1 กลุ่มเด็กแรกเกิด - 8 ปี เน้นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กๆ อาทิ นิทรรศการผลงานของมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก, ลานกิจกรรม สนุกคิด ประดิษฐ์ศิลป์, กิจกรรมนิทานเพื่อนรัก, กิจกรรมเสริมพัฒนาการ ,กิจกรรมห้องเรียนเขียนหนังสือเด็ก และที่พิเศษสุดคือ นิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยะภาพของพระองค์ที่ได้มาผ่านการเรียนรู้ การเล่นอย่างมีอิสระเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ประกอบด้วยกิจกรรมห้องแล็บกินได้ ความสมดุล และดนตรี มีชีวิต โซน C2 สำหรับกลุ่มอายุระหว่าง 9-18 ปี เน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาการ และได้ทดลองปฏิบัติจริง เช่น นิทรรศการการจัดการเรียนบูรณาการด้วยวิธีการวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะจัดเป็นฐานกิจกรรมการเรียนรู้ อาทิ ไบโอดีเซล, Super Lemon โดยนักเรียนโรงเรียนสาธิต ปทุมวัน, แก๊สโซฮอลล์คุ้มกว่าดีเซลจริงหรือ, พลังงานทางเลือกสำหรับเศรษฐกิจพอเพียงในอนาคต ฯลฯ นิทรรศการและ กิจกรรมของกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมการอ่านหนังสือของเยาวชนอายุระหว่าง 12-23 ปี ใน 5 หัวเมืองใหญ่ (กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ชลบุรี, ขอนแก่น, สงขลา) พบว่า เยาวชนใช้เวลาอ่านหนังสือมากขึ้น ซึ่งเหตุผลสำคัญก็มาจากการอ่านผ่านอินเตอร์เน็ต อันเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก ที่เนื้อหาต่างๆ ได้ถูกนำเสนอในรูปของดิจิตอลมากขึ้น รวมถึงการที่มีหนังสือเล่มดีๆ มีเนื้อหาน่าสนใจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังพบว่า ปัญหาสำคัญที่ทำให้เยาวชนไม่ได้อ่านหนังสือเล่ม หรืออ่านหนังสือน้อยลง เนื่องจากไม่มีเวลาว่างในการอ่านหนังสือ เพราะเวลาว่างถูกแย่งชิงไปทำกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การพูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งกำลังเป็นปัญหาสังคมของบรรดาพ่อแม่ และผู้ปกครอง
“งานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนในครั้งนี้ จึงเป็นอีกกลวิธีหนึ่ง ที่จะสร้างความสนใจเพิ่มเวลาการอ่านหนังสือในยามว่างมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งรวมหนังสือเยาวชนที่มีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจและมีหลากหลายกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมในการเรียนรู้ เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสเลือกหาเลือกชม และได้ลองปฏิบัติจริง ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของงานที่ว่า “ความรู้ทำทุกสิ่งให้เป็นจริงได้” ซึ่งในปีนี้มีสำนักพิมพ์ที่ร่วมออกงาน 154 ราย จำนวน 309 บูธ และมีพื้นที่จัดงาน 11,000 ตารางเมตร” นายธนะชัย กล่าว
พบกับปรากฏการณ์แห่งการเรียนรู้และการอ่านได้ภายในงาน ‘เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 4’ (Book Festival for Young People 2006) ระหว่างวันที่ 6 — 11 กรกฎาคม 2549 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทรศัพท์ 0 2274 4961-2, 0 2691 6302-4
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net