กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--เอ.พี.ฮอนด้า
ตลาดรถจักรยานยนต์ล่าสุดเดือน พ.ย. ได้รับผลกระทบจากความตึงตัวของสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตลดลงเป็นครั้งแรกหลังจากที่ขยายตัวติดต่อกันเรื่อยมาตั้งแต่เดือน ก.พ. แต่ทั้งนี้จากปัจจัยการทรงตัวของกลุ่มรถแบบครอบครัว อันมีแรงช่วยเสริมกระตุ้นและผลักดันโดยรถแบบเครื่องยนต์หัวฉีดนั้น นับเป็นส่วนสำคัญในการพยุงให้ตลาดหดตัวเพียงเล็กน้อย โดยมีปริมาณการจดทะเบียนรวมทั้งสิ้นกว่า 1.25 แสนคัน ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าในอัตรา 3% เท่านั้น ในขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสม 11 เดือนของปีนี้ ยังคงมีอัตราการขยายตัว 6% ด้วยปริมาณเกินกว่า 1.58 ล้านคัน
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารส่วนงานขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่าปริมาณการจดทะเบียนป้ายวงกลมรถจักรยานยนต์โดยรวมทั้งสิ้นมีจำนวน 125,323 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 129,608 คันแล้ว มีปริมาณยอดจดทะเบียนลดลง 4,285 คัน หรือเทียบเท่าอัตราการขยายตัวลดลง 3% โดยนับเป็นการเติบโตลดลงครั้งแรกในรอบปี 10 เดือน หลังจากที่มีการขยายตัวติดต่อกันตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นมา ซึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดการหดตัวนั้น เนื่องมาจากสภาพการตึงตัวของสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของยอดการจดทะเบียนแล้ว พบว่าในกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่เป็นประเภทหลักของตลาด ต่างมีอัตราการเติบโตลดลง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดโดยรวม ยกเว้นเพียงกลุ่มรถแบบครอบครัวเท่านั้นที่มีอัตราการเติบโตทรงตัว โดยเมื่อเปรียบเทียบปริมาณการจดทะเบียนของรถประเภทนี้ในระหว่างช่วงเดียวกันของปีนี้กับปีก่อนหน้าแล้ว มีจำนวนที่ใกล้เคียงกัน คือ ในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมามีจำนวน 63,651 คัน ในขณะที่เดือน พ.ย. ปีที่แล้วมีจำนวน 63,755 คัน
โดยส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยหนุนให้รถประเภทครอบครัวมีอัตราการเติบโตทรงตัว เนื่องมาจากแรงผลักดันของรถครอบครัวแบบเครื่องยนต์หัวฉีด อันเป็นเทคโนโลยีใหม่ของรถจักรยานยนต์ที่กำลังได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างมากในตลาด โดยเฉพาะรถครอบครัวเครื่องยนต์หัวฉีดรุ่นใหม่ คือ ฮอนด้า ซีแซด-ไอ 110 (CZ-i 110) นั้น ได้รับความนิยมจากตลาดเป็นอย่างดี จนสามารถขยับอันดับของกลุ่มรถที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดขยับจากอันดับ 6 ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 ขณะที่ก่อนหน้านี้ในเดือน ต.ค. ขยับจากอันดับ 10 มาอยู่ที่อันดับ 6 และที่สำคัญก็คือ จากผลของการทรงตัวในกลุ่มรถแบบครอบครัว นับเป็นส่วนช่วยพยุงให้ตลาดรวมในเดือน พ.ย. มีอัตราการเติบโตลดลงเล็กน้อยเพียง 3% เท่านั้น
ทางด้านรถกลุ่มอื่นๆ ที่เป็นประเภทหลักของตลาด ได้แก่ รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ และรถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต ล้วนมีอัตราการเติบโตลดลง โดยรถแบบ เอ.ที. มีปริมาณการจดทะเบียน 57,166 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 60,835 คันแล้ว มีอัตราการเติบโตลดลง 6% และรถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตมียอดจดทะเบียน 3,020 คัน ขณะที่ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีจำนวน 3,698 คัน ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตลดลง 18%
ส่วนกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่นอกเหนือจากนี้ คือ รถแบบสปอร์ต และรถประเภทอื่นๆ มีปริมาณการจดทะเบียน 830 คัน และ 656 คัน ตามลำดับ
สำหรับปริมาณการจดทะเบียนสะสมในช่วง 11 เดือนของปีนี้ คือ ตั้งแต่เดือน ม.ค. — พ.ย. มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,587,366 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าแล้ว มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 6% โดยแบ่งเป็นรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 817,493 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 51% มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8% , รถแบบ เอ.ที. 708,628 คัน สัดส่วนตลาด 45% เติบโตเพิ่มขึ้น 4% , รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 43,670 คัน สัดส่วนตลาด 3% เติบโตลดลง 10% , รถแบบสปอร์ต 10,566 คัน สัดส่วนตลาด 1% เติบโตเพิ่มขึ้น 3% และรถประเภทอื่นๆ 7,009 คัน