กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--ปตท.
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเล็กน้อย ล่าสุดวันนี้ (15 ธ.ค.51) น้ำมันดิบเวสเท็กซัสฯ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 46.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบดูไบ และน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซินและดีเซล อยู่ที่ 42.67 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล, 42.85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 57.58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ สาเหตุหลักยังคงมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่ผ่านร่างแผนการเข้าช่วยเหลือบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ 3 แห่งของสหรัฐฯ (GM, Chrysler, และ Ford) ที่ประสบปัญหาด้านการเงิน และจากข่าวรัฐบาลสหรัฐฯ รายงานสถิติยอดขายปลีกของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย.51 ลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งนับเป็นการลดลงต่อเนื่องนานที่สุดในรอบ 16 ปี และยอดการใช้รถยนต์ของสหรัฐฯ ในช่วงเดือน ม.ค.- ต.ค. 51 ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ประมาณ 3.5% ปตท. จึงได้พิจารณาปรับลดราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันดีเซล (บี2 และบี 5) ลงได้อีก 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (วันอังคารที่ 16 ธ.ค.51) เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 85 พลัส 18.29
น้ำมันเบนซิน พีทีที E 20 พลัส 15.59
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 16.89
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 16.09
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 21.39
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 17.84
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 19.34
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า การปรับลดราคาของ ปตท. ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 43 แล้ว (นับจากต้นเดือน ก.ค.51 เป็นต้นมา) อย่างไรก็ตามในระยะสั้น นักวิเคราะห์กว่าร้อยละ 53 จาก Bloomberg Poll คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นจากข่าวที่กลุ่มประเทศโอเปคมีแนวโน้มประกาศปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลงอีกในการประชุมที่ประเทศอัลจีเรียในวันที่ 17 ธ.ค. ศกนี้