กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--สหมงคลฟิล์ม
เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งที่หลายคนรอคอย สำหรับ “ความสุขของกะทิ” ที่สร้างจากสุดยอดวรรณกรรมรางวัลซีไรต์ซึ่งเป็นที่ประทับใจของนักอ่านทั่วประเทศมาแล้ว และกำลังจะส่งมอบความสุข-ความอบอุ่นใจให้กับผู้ชมในช่วงต้นปี 52 นี้
ฉากไฮไลต์ฉากหนึ่งของเรื่องที่สร้างความประทับใจและเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้กำกับ “เจนไวยย์ ทองดีนอก” ถึงกับคันไม้คันมืออยากกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ๆ ก็คือ “ฉากที่หนูกะทิวิ่งร้องไห้ปล่อยโฮ” ซึ่งฉากนี้ทีมงานได้ยกกองไปถ่ายทำถึง “ริมชายหาดหัวหิน” กันเลยทีเดียว
ฉากนี้เป็นฉากที่ “กะทิ” (พลอย-ภัสสร คงมีสุข) ได้เดินทางไปเยี่ยมแม่ในวาระสุดท้ายพร้อมกับครอบครัว ความสงสัยที่อัดอั้นมานานเกี่ยวกับตัวของแม่ แปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจเมื่อรู้ว่าแม่จะอยู่กับตัวเองได้ไม่นาน ความเศร้าโศกอย่างเกินที่เด็กตัวน้อย ๆ คนหนึ่งจะรับไหว กะทิจึงปล่อยโฮออกมาแบบไม่ยั้งเพื่อให้ธรรมชาติปลอบประโลมความเศร้านี้ให้จางลง
ผู้กำกับฯ เจนไวยย์ ได้เปิดเผยถึงเบื้องหลังฉากนี้ว่า
“ตอนอ่านหนังสือเราประทับใจฉากที่กะทิวิ่งบนชายหาด เราเห็นกะทิวิ่งกำมือแน่นแล้วลมก็พัดเข้ามา กรีดน้ำตาที่ค่อย ๆ ทยอยไหลออก เราเห็นเป็นภาพสโลว์โมชั่น ไม่น่าเชื่อว่าในหนังสือไม่ได้เขียนว่ากะทิวิ่งอย่างช้า ๆ นะ แต่เราเห็นเลยว่าฉากนี้เราอยากจะถ่ายแบบสโลว์โมชั่นที่สุด ให้เห็นรายละเอียดน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลออกมา ผมที่ค่อย ๆ ปลิวที่กระทบกับลม สีหน้าที่เขาค่อย ๆ เปลี่ยนจากอารมณ์ปกติแล้วมาเป็นแบบอารมณ์ที่ระเบิดออกมา เรารู้สึกว่ามันเป็นภาพที่สวยงาม เพราะมันเป็นความหมายของชีวิตที่เป็นชีวิตจริง ๆ เมื่อคนที่มีอารมณ์ที่ไม่ไหว มันก็ต้องระเบิดออกมา เราก็เลยชอบฉากนี้มาก พอเราเห็นภาพเราก็อยากทำมาก ฉากนี้ถ่ายทำยากเพราะว่าหาดทรายก็ต้องสวย น้ำก็ต้องลง แบ็คกราวด์ก็ต้องเป็นเกาะนมสาว กล้องก็ต้องไม่มีการตัดต่อเลย รถกล้องก็ต้องอยู่บนสแตนดี้แคม ถ่ายด้วยความเร็วไฮสปีดถ่ายเทคหนึ่งต้องเปลี่ยน 1 ม้วนมีความยากหมดเลย ท้าทายทุกอย่าง ต้องให้น้องพลอยค่อย ๆ วิ่ง เพราะคิดว่าเทคเดียวคงไม่ผ่าน ต้อง 4-5 เทค เป็นอะไรที่แบบถ่ายทำยากจริง ๆ ส่วนการแสดงของน้องพลอยและพี่น้อย (กฤษฎา สุโกศล แคลปป์) ที่ต้องเข้าฉากนี้ด้วยกันก็แสดงกันได้อย่างที่ผมต้องการ เศร้าอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งคู่ทุ่มเทให้กับฉากนี้มาก ๆ ถึงจะต้องวิ่งกันอยู่หลายรอบก็ตาม ความประทับใจที่มีอยู่แล้วก็ประทับใจเหมือนเดิม เนื่องจากมันยากด้วย แต่ก็ออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่คิดไว้ครับ”
ด้านนักแสดงตัวน้อย “พลอย ภัสสร” ในบท “กะทิ” พูดถึงฉากยากฉากนี้ว่า
“ฉากที่อยู่บนชายหาด คือกะทิเขาร้องไห้แบบว่าเสียใจเรื่องเกี่ยวกับคุณแม่ แต่ไม่อยากให้คนอื่นเขาเห็น กะทิก็เลยวิ่ง คือไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองร้องไห้ พยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้ให้มากที่สุดค่ะ แล้วคือทนไม่ได้แล้วจริง ๆ เป็นครั้งแรกที่กะทิเขาร้องไห้ได้เยอะขนาดนี้ พี่เจน (ผู้กำกับ) เป็นคนสอนทำอารมณ์ด้วยค่ะ คือตอนร้องไห้แล้ววิ่ง พี่เจนเขาให้ปล่อยอารมณ์ ให้ปล่อยเสียงดัง ปล่อยอย่างที่หนูเคยทำ พี่เจนเขาเป็นคนตะโกนเสียงดังเลยร้องเลย เพราะเขาบอกว่าให้ร้องไห้ดัง ๆ กว่านี้อีก (หัวเราะ) ก็ทำอารมณ์อยู่ไม่นานเท่าไหร่นะคะ ตอนนั้นคิดถึงเกี่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ของเรา คิดว่าถ้าคุณแม่เราในเรื่องเป็นอย่างนี้จริง ๆ ก็คงจะเสียใจ ก็คิดอย่างงี้ค่ะ ก็เลยร้องไห้ แล้วมีพี่ทีมงานทุกคนเขาก็ช่วยด้วย เขาบอกว่าน้องพลอยค่อย ๆ นะ ใจเย็น ๆ เขาก็ทำให้หนูร้องไห้ได้เร็วกว่าเดิมด้วย ไม่ได้เร่งด้วยค่ะ เพราะว่าถ้ารีบร้อนจะไม่เป็นธรรมชาติค่ะ ฉากนี้หนูเล่นอยู่ 3-4 เทคค่ะ มีปัญหาก็คือเทคแรกตอนที่ก้มหน้าแล้วร้องไห้ เทค 2 วิ่งผิดเกือบเลยเพราะวิ่งแล้วไปสะดุดทรายเพราะมันเป็นหลุมน่ะค่ะ เทค 3 ก็มองผิดที่ค่ะ แต่อีกเทคหนึ่งก็ได้พอดีค่ะ
ฉากนี้ต้องเล่นกับพี่น้อยด้วยค่ะ เป็นฉากที่พี่น้อยเหมือนให้วิ่งแข่งกัน แล้วหนูก็วิ่งเลย แล้วก็ต้องร้องไห้เศร้าไปด้วยค่ะ แล้วพี่น้อยก็จะเขามาปลอบกะทิค่ะ ตอนวิ่งก็ไม่ค่อยเหนื่อยนะคะ ก็เหมือนได้ออกกำลังกายไปด้วย แต่ตอนที่ต้องขี่หลังพี่น้อยก็มีเสียว ๆ บ้างค่ะ เสียวตกค่ะ (หัวเราะ)”
ติดตามฉากเด็ดปล่อยพลังการแสดงของ “น้องพลอย ภัสสร คงมีสุข” ในบท “กะทิ” นี้ได้ในภาพยนตร์อบอุ่นหัวใจเรื่อง “ความสุขของกะทิ” พร้อมส่งความสุขต้อนรับวันเด็ก 8 ม.ค. นี้ ทุกโรงภาพยนตร์