กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--แบรนด์ ซาลอน
ผู้จุดประกายจุดเปลี่ยนแห่งสุนทรีย์และศิลปะการอยู่อาศัยคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง -ยอดขาย 75% บทสะท้อนคุณภาพการสร้างสรรค์ดีไซน์และการเปลี่ยนสู่สิ่งใหม่ ที่ลูกค้าต้องการ-
อควาเรียส พิสูจน์ฝีมือ “ตัวจริง” ด้านธุรกิจคอนโดมิเนียมคุณภาพของเมืองไทย หลังดันยอดขาย “เอควา” คอนโดหรูต้นซอยสุขุมวิท 49 แตะ 75% ด้วยจุดขายหลัก 3 ประการ “มอบบริการครบครันเหมือนอยู่โรงแรม”, “สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อความแตกต่างด้วยการเป็นคอนโดมิเนียมที่มีออนเซนเป็นแห่งแรกของไทย” และ “ศูนย์รวมความครบครันของสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อ การอยู่อาศัย” มั่นใจประสบการณ์ในวงการกว่า 15 ปี และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมพัฒนาและสร้างสรรค์โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ตอบโจทย์แห่งสุนทรีย์และศิลปะแห่งการอยู่อาศัย ใจกลางเมืองอย่างลงตัว
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ผู้นำด้านแนวคิดใหม่เพื่อการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตัว คอนโดมิเนียมหรู “เอควา” ต้นซอยสุขุมวิท 49 รวม 152 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท บนเนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน ไปเมื่อไม่นานมานี้ ณ ปัจจุบัน เอควาได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการแสวงหาคอนโดมิเนียมที่ลงตัวระหว่างการออกแบบที่ไม่ซ้ำใครและความคุ้มค่าด้านพื้นที่ใช้สอย ตลอดจนการเสริมบริการเพื่อให้การอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เสมือนยกเอาบริการของโรงแรมระดับ 5 ดาวมาไว้ภายในคอนโดมิเนียม ทั้งยังครบครันด้วยระบบอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคเพื่อยกระดับสุนทรียภาพแห่งการอยู่อาศัย อาทิ ออนเซนแบบ semi-outdoor บนชั้นดาดฟ้า ซึ่งเป็นออนเซนในคอนโดมิเนียม แห่งแรกในประเทศไทย สระว่ายน้ำที่มีระบบ hydro-therapy ซึ่งทุกอย่างคือเครื่องพิสูจน์ว่า วันนี้ อควาเรียส คือผู้จุดประกายพัฒนาการก้าวใหญ่แก่วงการคอนโดมิเนียมของไทย
“ผมอยากให้ทุกคนสัมผัสได้ว่า “โครงการทุกโครงการของอควาเรียสคือสุนทรีย์และศิลปะแห่งการอยู่อาศัย” เพราะ “ศิลปะ” ที่ได้รับการยอมรับ จะไม่มีวันสูญหายไปตามกาลเวลา มีแต่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ครอบครองอยู่เสมอ สิ่งนี้ถือเป็นหัวใจหลักในการสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการของ อควาเรียส “เอควา” ถือเป็นความภาคภูมิใจของผมและทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี ในวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย เพราะเราใช้เวลาสร้างสรรค์คอนเซปต์จากผลการวิจัยความต้องการของผู้บริโภคและกระแสของการอยู่อาศัยในอนาคตมารวมไว้อย่างลงตัว ซึ่งแนวทางนี้จะถูกนำไปใช้ในทุกโครงการทั้งที่เป็นโครงการของเราเอง รวมถึงโครงการที่เราจะเข้าไปรับบริหารในอนาคตด้วย เราพร้อมที่จะเป็นผู้ “เปลี่ยน” และ “พัฒนาสู่สิ่งใหม่” เพื่อสร้างสรรค์ให้ทุกรูปแบบแห่งการอยู่อาศัยเต็มไปด้วยคุณภาพและตรงตามความต้องการ” นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการคอนโดมิเนียม “เอควา” ถือเป็นคอนโดฯ ที่โดดเด่นด้วยทำเลที่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 49 เพียง 100 เมตร และห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อเพียง 350 เมตร เป็นคอนโดมิเนียมสูง 29 ชั้น 1 อาคาร มีแบบห้องให้เลือก 3 แบบ คือ 1-3 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยระหว่าง 54-180 ตารางเมตร ด้วยราคาขายเริ่มต้น 120,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นที่ 6.6 ล้านบาทและ Duplex penthouse 1 ห้อง ราคา 50 ล้านบาท ณ ปัจจุบันขายไปได้แล้วกว่า 75% หรือคิดเป็นยอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยผู้สนใจสามารถชมรายละเอียดโครงการได้ที่ www.aequacondo.com
เกี่ยวกับความเห็นต่อพัฒนาการโครงการคอนโดมิเนียมของเมืองไทยนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด กล่าวแสดงความเห็นว่า “ผมมองว่าตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางสุขุมวิท ไม่มีวันตาย หากบริษัทผู้พัฒนา เดินหมากในการสร้างสรรค์โครงการอย่างถูกจุด ผมมองเห็นกำลังซื้อที่ยังสามารถโตได้อีก ทั้งในส่วนการซื้อเพื่อลงทุนและการซื้อเพื่ออยู่อาศัย นั่นคือ จุดยืนยันสิ่งที่ผมคิด และผมมั่นใจว่า “เอควา” คือศิลปะแห่งการอยู่อาศัยที่พร้อมจะเพิ่มมูลค่าให้เจ้าของในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะ “เอควา” คือคอนโดมิเนียมแบบ Tailor Made เรารู้ว่าเราทำให้ใครอยู่ เรารู้ว่าเราทำให้ใครซื้อ และเราก็รู้ไปอีกขั้นว่า “การตัดสินใจซื้อในวันนี้ คือ ความสะดวกสบายและความพึงพอใจสูงสุดในการอยู่อาศัยตลอดชีวิต” เพราะคำว่าพัฒนาโครงการวันนี้ตามกระแส เพื่อขายตามกระแส และอยู่ตามกระแส ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน เราไม่ได้ต้องการขายคอนโดฯ ตามกระแส แต่การซื้อเพื่อสร้างความสะดวกสบายตลอดชีวิตของการอยู่อาศัยต่างหาก คือสิ่งที่ผมและทีมงาน ต้องการขาย”
ทั้งนี้ หากพิจารณาถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในเขตสุขุมวิท พบว่า พื้นที่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ซอยสุขุมวิท 24, 39, 49 และทองหล่อ โดยในเขตพื้นที่ดังกล่าว ณ ปัจจุบันมีโครงการ ที่กำลังอยู่ระหว่างเสนอขายรวม 9 โครงการ โดยมี 3 โครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมระดับเกรดเอ ที่มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมองว่าในปี 2552 ปริมาณที่จะเสนอขายสู่ตลาดจะน้อยลง เป็นผลมาจากการหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการยากมากขึ้น การควบคุมอย่างเคร่งครัดของสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการ ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคต้องละเอียดรอบคอบในการตัดสินใจซื้อ ซึ่งนำไปสู่ความคาดหวังในการซื้อที่สูงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไป ดังนั้น ในปีหน้าจะถือเป็นปีพิสูจน์ฝีมือว่าใครคือ “ตัวจริง” ของธุรกิจ โดยผู้ที่ต้องการพัฒนาโครงการและมีเงินทุนจะยิ่งต้องการมองหาผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะช่วยให้คำปรึกษา เพื่อไม่ให้พลาดในการลงทุนพัฒนาโครงการ และน่าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่บริษัทที่ให้การบริการด้านการบริหารโครงการจะเติบโตมากขึ้นด้วย
บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ด้วยทุนจดทะเบียน 54 ล้านบาท โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ปัจจุบันมีจำนวนพนักงานกว่า 100 คน ที่พร้อมให้บริการด้านอสังหาริทรัพย์อย่างครบวงจร อาทิ ธุรกิจพัฒนาโครงการ ธุรกิจบริหารการพัฒนาโครงการ ธุรกิจบริหารโครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรม ตลอดจนธุรกิจตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ครบทุกประเภท ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 3 ปีในการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา อควาเรียส เอสเตท ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับยักษ์ใหญ่มากมาย ในการบริหารการพัฒนาโครงการ อาทิ กลุ่มบริษัทแสนสิริในส่วน เรด โลตัส กลุ่มบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท ในส่วนโครงการคอนโดมิเนียมไอวี่ และกลุ่มบริษัทอนันดา ในส่วนโครงการคอนโดมิเนียมไอดีโอ เป็นต้น ณ ปัจจุบัน รับบริหารรวมกว่า 16 โครงการ มีพื้นที่บริหารกว่า 450,000 ตารางเมตร รวมมูลค่าโครงการกว่า 18,000 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น อควาเรียส เอสเตท ยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาและบริหาร Shasa Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาวบนเกาะสมุยอีกด้วย สามารถค้นหาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aquariusestate.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์:
รชนิภา วีรพลิน หรือ ศิริรักษ์ วัลมาลี
บริษัท แบรนด์ ซาลอน จำกัด 02-951-9849, 02-951-9949, 081-720-5255
และ 081-347-2828