กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ภูมิพีอาร์
เผยรูปแบบใหม่ที่พลิกโฉมวงการไอที ด้วยดาต้าเซ็นเตอร์แบบกระทัดรัดในตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน ประหยัดและลงทุนขั้นต้นต่ำกว่าดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิม 100 เท่า ยืดหยุ่นกว่า เคลื่อนย้ายสะดวก ติดตั้งใช้งานได้ทุกสถานที่ทันทีทุกสถานการณ์
ซัน ไมโครโครซิสเต็มส์พลิกแนวคิดศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยนวัตกรรมใหม่ “โปรเจ็กต์ Blackbox” ย่อดาต้าเซ็นเตอร์สมรรถนะสูงลงในพื้นที่ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐาน สามารถติดตั้งใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เมื่อต้องเร่งขยายระบบรองรับการใช้งานทางธุรกิจ โดดเด่นด้วยการลงทุนขั้นต้นต่ำกว่าดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมถึง 100 เท่า ติดตั้งได้ทุกสถานที่โดยไม่ต้องลงทุนระบบรองรับเพิ่มเติม เช่น ในลานจอดรถ หรือ พื้นที่ว่างในอาคาร นอกจากนี้ยังเหมาะกับการใช้งานภาคสนาม โปรเจ็กต์ก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ใช้งานนอกสถานที่ หรือเป็นระบบสำรองฉุกเฉินในกรณีเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
โปรเจ็กต์ Blackbox ออกแบบมาเพื่อการติดตั้งใช้งานอย่างรวดเร็ว ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถติดตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ระบบโมดูลได้ทันทีที่ต้องการโดยใช้เวลาเพียงหนึ่งในสิบของศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แบบเก่า ช่วยให้สามารถเริ่มใช้งานจริงได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์แทนที่จะกินเวลาเป็นปีเมื่อเทียบกับแบบเดิม
นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นต่อการใช้งานที่หลากหลาย สามารถตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ได้ทันทีเมื่อต้องการ รวมระบบที่มีได้อย่างง่ายดาย ประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายในเรื่องอาคารสถานที่ ประหยัดไฟและต้นทุนการวางระบบไฟฟ้าและพลังงาน ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพของดาต้าเซ็นเตอร์ล้ำยุคในทุกแห่งทั่วโลกโดยไม่ต้องสร้างอาคารหรือวางระบบพิเศษขึ้นรองรับ
ขณะเดียวกันยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย โดย โปรเจ็กต์ Blackbox จะมีต้นทุนในการลงทุนขั้นต้นที่ต่ำกว่าดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมขนาด 1 หมื่นตารางฟุตถึง 100 เท่า และประหยัดกว่า 5 เท่า เมื่อคิดเป็นต้นทุนต่อตารางฟุต ในขณะที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้พิ้นที่ติดตั้งแค่เพียงหนึ่งในสามของแบบเดิมเมื่อเทียบกับสมรรถนะของระบบคอมพิวเตอร์ที่เท่ากัน ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายจากการติดตั้งใช้งานที่ทำได้สะดวกรวดเร็ว ใช้ชิ้นส่วนมาตรฐานทั้งระบบ รวมทั้งใช้ประโยชน์สูงสุดจากระบบพลังงาน การทำความเย็นและช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดวางดาต้าเซ็นเตอร์ของตนในสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการใช้งานของธุรกิจตนอีกด้วย
"CIO แทบทุกรายและบริษัทเปิดใหม่ที่ผมเคยคุยด้วยบอกมาว่า ทุกวันนี้พวกเขากำลังติดขัดปัญหาเรื่องพื้นที่และพลังงานของศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีไม่พอ และโซลูชั่นที่มีอยู่ในทุกวันนี้ยังรองรับมาตรฐาน Web 2.0 ไม่ได้" โจนาธาน ชวาทส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซันไมโครซิสเต็มส์ เผย "ดังนั้นแทนที่เราจะเสียเวลาไปปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์แบบปัจจุบันที่ออกแบบมาให้คนต้องคอยเฝ้าดูแลคอมพิวเตอร์ โปรเจ็กต์ Blackbox ของเราเลยหันไปเริ่มจากมาตรฐานร่วมที่ทุกอุตสาหกรรมใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด นั่นคือ ตู้คอนเทนเนอร์ แล้วตั้งคำถามว่า เราจะออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์แบบโมดูล ที่เคลื่อนย้ายสะดวกจากตรงจุดนี้ได้อย่างไร และคำตอบก็คือ เราทำได้จริงด้วยค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ประหยัดกว่าถึงเป็นร้อยเท่า ค่าใช้จ่ายต่อพื้นที่หนึ่งตารางฟุตน้อยกว่า 1 ใน 5 และเราสามารถเคลื่อนย้ายดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีทั้งความจุและสมรรถนะสูงนี้ไปที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ "
“ในขณะที่คนอื่นกำลังแข่งสร้างเซิร์ฟเวอร์ที่เล็กที่สุดในการใช้กับแร็ค เรากลับถามคำถามนี้ด้วยมุมมองที่ต่างออกไปว่า คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดที่เราสามารถสร้างได้มีขนาดเท่าไหร่? และคำตอบที่เราได้ก็คือ ต้องมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าตู้คอนเทนเนอร์ เพราะจะได้ขนส่งได้ง่ายและสะดวก” เกร็ก ปาปาโดปูลัส หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัทซันไมโครซิสเต็มส์ กล่าว “ และนี่คือที่มาของโปรเจ็กต์ Blackbox ที่มีคุณสมบัติชั้นยอดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเน้นประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด ขณะนี้เราได้ยื่นจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีห้ารายการไปแล้วในด้าน การออกแบบระบบโดยรวม การออกแบบติดตั้งแร็ค ระบบทำความเย็นประสิทธิภาพสูงและระบบตติดตามดูแลสภาพแวดล้อมการทำงาน พวกเราตื่นเต้นกันมากกับโปรเจ็กต์นี้”
โปรเจ็กต์ Blackbox มีเป้าหมายที่ผู้ใช้งานบริการเน็ตเวิร์กขนาดใหญ่ อาทิเช่น การใช้งาน Web 2.0 หรือระบบที่มีการขยายตัวสูงและต้องขยายระบบเพิ่ม การติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ในโปรเจกต์ที่ต้องการความเร่งด่วน ระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง การใช้งานภาคสนาม การใช้แทนระบบดาต้าเซ็นเตอร์เดิมที่ประสบปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว การรวมระบบและขยายงานดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่เดิม การใช้งานคอมพิวเตอร์ระบบ Grid ทั้งหมดนี้สามารถทำได้สะดวกประหยัดพลังงาน ค่าใช้จ่ายด้านระบบไฟฟ้า พนักงานผู้ดูแลระบบ และพื้นที่ติดตั้ง รวมทั้งเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ใหม่ได้เมื่อมีความจำเป็นในการใช้งาน
สมรรถนะใช้งานโปรเจ็กต์ Blackbox
โปรเจ็กต์ Blackbox ต้นแบบเป็นระบบที่ทรงพลัง สามารถรองรับการใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย ตั้งแต่ระบบบริษัทขนาดใหญ่ไปจนถึง คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง โดยโปรเจ็กต์ Blackbox เพียงตัวเดียวสามารถสนับสนุนระบบคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพการทำงานเทียบเท่ากับ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูงที่ติดอันดับ 200 เครื่องที่เร็วที่สุดในโลกได้
ปัจจุบันต้นแบบของโปรเจ็กต์ Blackbox 1 ตัว สามารถรองรับการใช้งานดังต่อไปนี้
สามารถติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ Sun Fire T1000 ที่ใช้เทคโนโลยี CoolThreads ได้ 250 ตัว รองรับการใช้งาน ได้มากถึง 2,000 คอร์และ 8,000 เธรด
สามารถติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ x64 จำนวน 250 ตัว รองรับการใช้งาน ได้มากถึง 1,000 คอร์
สามารถรองรับระบบดิสก์สตอเรจได้ความจุ 1.5 เพทาไบต์ หรือเทปสตอเรจแบบประหยัดพลังงานได้ความจุ 2 เพทาไบต์
สามารถรองรับหน่วยความจำได้สูงสุด 7 เทราไบต์
สามารถจัดการและรองรับการทำงานยูสเซอร์จากเครื่องเดสก์ท็อปได้มากถึง 10,000 รายพร้อมกันในเวลาเดียว ปัจจุบัน โปรเจ็กต์ Blackbox มีระบบพลังงานไฟฟ้าและการทำความเย็นเพียงพอที่จะรองรับการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งแบบแร็คได้มากถึง 200 กิโลวัตต์
คุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติม
ดาต้าเซ็นเตอร์ที่สมบูรณ์แบบพร้อมใช้งานในตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐานขนาด 20’
ใช้เวลาในการออกแบบระบบ ติดตั้งใช้งานเพียงแค่ 1 ใน 10 ของการติดตั้งช้งานดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิม
รองรับการใช้งานได้หลากรูปแบบอุปกรณ์ ทั้งเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์ก
ติดตั้งอุปกรณ์ลงแร็คได้มากขึ้นกว่าระบบแร็คแบบเก่าในดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิม
รองรับสมรรถนะคอมพิวเตอร์มากเป็นสามเท่าเมื่อเทียบกับพื้นที่ใช้งานเท่ากัน
ติดตั้งระบบทำความเย็น ระบบไฟฟ้าและเน็ตเวิร์กแบบรวมศูนย์และใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
ระบบระบายความร้อนด้วยพัดลมและน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบที่ใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์
เชื่อมต่อสายภายนอกได้สะดวก ทั้ง ท่อน้ำ สายไฟ และสายเน็ตเวิร์กโทรคมนาคม
มีระบบเตือนภัย สัญญาณเตือนและ GPS
ระบบรองรับการกระแทกทั้งที่พื้นและเพดานตู้ พร้อมระบบล็อคตัวเซิร์ฟเวอร์เพื่อการใช้งานได้สะดวกเวลาขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ด้วยระบบมาตรฐานชิปปิ้งทั่วไป
ประตูเปิดด้านหน้าและหลัง ช่องพิเศษและกลไกเลื่อนสำหรับการดูแลรักษาส่วนกลาง
โซลูชั่นแบบครบวงจร พร้อมทั้งเซอร์วิสและบริการสนับสนุนครบครัน
โปรเจ็กต์ Blackbox ยังใช้งานเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาเพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในด้านต้นทุนและ การประหยัดพลังงาน
เครื่องต้นแบบของโปรเจ็กต์ Blackbox ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ Sun V20z จำนวน 245 ตัว(35 x 7) ตั้งค่าใช้งานสำหรับคอมพิวเตอร์ระบบ Grid ส่วนแร็คตัวที่ 8 ที่มีจะใช้ติดตั้งสวิชต์ เน็ตเวิร์ก อุปกรณ์ขจัดความชื้นจากอากาศ คอมพิวเตอร์ควบคุมระบบความร้อน ระบบควบคุมสัญญานเตือนภัย และระบบควบคุม EPO
ปัจจุบัน โปรเจ็กต์ Blackbox กำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย คาดว่าจะมีกำหนดวางตลาดได้ในราวกลางปีหน้านี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โปรเจ็กต์ Blackbox โปรดดูได้ที่ www.sun.com/blackbox
เกี่ยวกับ ซัน ไมโครซิสเต็มส์
ภายใต้วิสัยทัศน์ “The Network Is The Computer” ผลักดันให้ซันมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสำคัญๆ ของโลกอย่างต่อเนื่อง และปรัชญาสำคัญของซัน คือ การเชื่อมโยงนวัตกรรมใหม่และสร้างชุมชนแห่ง การเรียนรู้ ซึ่งถือเป็นกระแสนำในโลกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แห่งอนาคต หรือที่เรียกว่า ยุคแห่งการมีส่วนร่วม (The Participation Age) ปัจจุบัน ซัน ไมโครซิสเต็มส์ (สัญลักษณ์หุ้นในตลาดหุ้นแนสแดก: SUNW) มีเครือข่ายครอบคลุมอยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซันได้ที่ http://sun.com หรือ http://sun.com.sg
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณรัมภา มนูญศิลป์
คุณมรุต ทวีเพ็ชร / คุณฐาปนี นันทวิสัย
ภูมิพีอาร์
โทร. 0-2610-3727-8
อีเมล์: Marut@Bhumpr.com , Tapanee@Bhumpr.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net