กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--กบข.
กบข. ประเมินอัตราผลตอบแทนตลอดปี 2551 คาดติดลบอยู่ที่ร้อยละ 6-7 หากเศรษฐกิจโลกยังตกต่ำ พร้อมเตรียมปรับกลยุทธ์การลงทุนปี 52 พลิกผลตอบแทนเป็นบวก
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงผลตอบแทนตลอดปี 2551นี้ อาจติดลบที่ร้อยละ 6-7 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการติดลบจากการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีการปรับลดมูลค่าลงมาก จากวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาและเศรษฐกิจโลกตกต่ำ โดยวิกฤติดังกล่าวได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยลดลงจากต้นปีถึงร้อยละ 50-55 ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 30-35 ทั้งนี้ผลตอบแทนการลงทุนของ กบข. ย้อนหลัง 12 เดือน ( ตุลาคม 2550 — กันยายน 2551) ติดลบร้อยละ 4.45
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนของ กบข. จะพลิกกลายเป็นบวกได้ จากราคาหุ้นที่ดีดตัวก่อนภาวะเศรษฐกิจโลกจะฟื้น ขณะเดียวกันมองว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ย่ำแย่เมื่อเทียบกับวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงปี 2540 โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของประเทศปีหน้าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0-2.0
ทั้งนี้ กบข. กำลังอยู่ระหว่างการทบทวนสัดส่วนการลงทุนใหม่ ซึ่งจะมีความสอดคล้องกับโครงสร้างตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป และเน้นการกระจายความเสี่ยงมากขึ้นผ่านการลงทุนในพันธบัตรระยะสั้น และการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกต่างๆ เช่น กองทุน Private Equity ที่ลงทุนในหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในส่วนที่เป็นอาคารเช่าและอพาร์ตเมนต์ที่มีการทำสัญญาระยะยาว โดยเฉพาะอาคารสำนักงานที่เป็นพื้นที่ให้เช่าซึ่งให้ผลตอบแทนอยู่ที่ร้อยละ 6-8 มาโดยตลอด
นายวิสิฐกล่าวเพิ่มเติมว่า “ โดยปกติกองทุนเงินออมระยะยาวนั้น สมาชิกควรดูผลตอบแทนเป็นแบบพิจารณาย้อนหลัง 3 ปี 5 ปี ซึ่งไม่ควรดูเป็นรายปี เพราะต้องยอมรับว่าในปีนี้เป็นปีที่ไม่ปกติ ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมา สมาชิก กบข. ได้รับผลตอบแทนสะสม โดยหากสมาชิก กบข. ที่เริ่มเข้าร่วมตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนช่วงปี 2540-2550 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ร้อยละ 8.24 ขณะที่ผลตอบแทนสุทธิย้อนหลัง 3 ปี ( ปี2548-2550 ) อยู่ที่ร้อยละ 6.47 และย้อนหลัง 5 ปี ( ปี 2546-2550 ) อยู่ที่ร้อยละ 6.61”
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th / www.gpf.or.th