กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--โซนี่ บีเอ็มจี
Liner Note : Million ways to write : Part 1 :
*ทฤษฎีสีชมพู(LIVE VERSION)
เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของผมและพี่นิ้วกลม เพลงนี้เป็นซีดีแถมอยู่ในหนังสือ soundtrack of my love ของพี่นิ้วกลมเขา โดยได้ไอเดียมาจากบทสนทนาในหนังสือเล่มนี้ระหว่างพี่นิ้วกลมกับชิงชิงแฟนของพี่เขา ชิงชิงเป็นผู้หญิงที่มองเห็นรายละเอียดของโลกเยอะไม่แพ้พี่นิ้วกลม เยอะถึงขนาดตั้งทฤษฏีขึ้นมาว่า “ การที่คนสองคนใกล้ชิดกัน สีของทั้งสองจะไหลเข้ามาผสมกัน “ แต่ก่อนเราไม่เคยชอบหนังเกาหลี ไม่เคยเห็นในสายต่าเลยด้วยซ้ำหนังเกาหลีจะเริ่มปรากฏตัวตามที่ต่างๆเมื่อเราได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่เราชอบแก่กันและกัน เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักคุโรมาตี้ เธอจะมีมุขตลกแบบคุโรมาตี้ตอนที่ฉันแนะนำให้เธออ่าน เพลงนี้นอกจากพี่นิ้วกลมจะมาช่วยเขียนเนื้อให้แล้ว ยังได้พี่จอร์จ seven dog มาทำดนตรีให้อีกด้วย
*ก่อนวงการล่มสลาย Feat. ป๊อด โมเดิร์นด๊อก, บอย โกสิยพงษ์,นภ พรชำนิ, เบน ชลาทิศ, คิว —ฟลัว, โต๋ - ศักดิ์สิทธิ์, ตรัย ภูมิรัตน, ตู่ — The Stranger, ต๋อง — The BEGINS
เมื่อพบกับความไม่แน่นอน เป็นธรรมดาที่เราจะต้องหวาดกลัว หวาดกลัวเมื่อพบว่าเส้นทางที่เราได้เลือกเดินนั้นเป็นหนทางตัน หลังจากได้ทำความรู้จักกับวงการเพลงมาเป็นระยะเวลา 3 ปี ความคิดที่เป็นแกนหลักของเพลงนี้ก็ดูจะเริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ความคิดที่ว่าอีกไม่ช้าไม่นานนั้น “วงการเพลงจะต้องล่มสลาย” แน่นอนว่าความคิดนี้ทำให้ผมกลัวจนหัวหด ทำให้เกิดฉุกคิดได้ว่า เมื่อเรามีความปรารถนาที่จะแต่งเพลงเพื่อเยียวยาคนอื่นอย่างได้ผลในวงกว้าง ตัวเราเองก็สมควรจะได้รับการเยียวยาเสียก่อน เพลงนี้จึงเป็นเหมือนเพลงเปิดใจพี่น้องศิลปิน เหมือนเรามาร่วมกันแชร์ปัญหาสู่กันและกัน แล้วได้ข้อสรุปหนี่งเดียวคือ “ไม่ว่าจะพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราจะทำงานด้วยความรักจนถึงวันสุดท้าย“
เพลงนี้ก็เลยรับเชิญพี่ๆน้องๆศิลปินที่สนิทสนมกันมาช่วยถ่ายทอดโดยเขียนเนื้อเพลงและ Design วิธีการร้องให้มีลายเซ็นของแต่ละคนเด่นชัด คือเป็นการพูดเรื่องเดียวกัน แมสเสจเดียวกัน แต่เปลี่ยนวิธีการพูดตามลักษณะนิสัยของผู้ร้อง
*ความคิด (เพลงประกอบภาพยนตร์ ‘A Moment in June’)
ในช่วงที่ผมฝึกแต่งเพลงกับ พี่บอย โกสิยพงษ์ พี่บอยมักจะเล่าเรื่องประสบการณ์การทำงานสมัยก่อนให้ผมฟังอยู่บ่อยๆ และเขามักจะมีคำว่า “บิด“ หลุดออกมาอยู่เสมอ บิดในความหมายของพี่บอยเป็นอาการของการแต่งเพลงแล้วอินมาก จนไม่สามารถยืนหรือนั่งตัวตรงได้ ต้องบิดไปเขียนไป ทำหน้าตาเหยเกบิดเบี้ยวเจ็บปวดตามไปด้วยในขณะนั้นผมได้แต่ฟังแต่ก็คิดตามไปไม่ถึงสักทีว่าคนเราจะแต่งเพลงแล้วตัวบิดได้อย่างไร
จนกระทั่งคืนหนึ่งผมออน msn แล้วแนตตี้เพื่อนสนิทของผมอีกคนส่งดนตรีเปล่าๆมาให้แล้วบอกว่าช่วยแต่งเพลงจากดนตรีนี้ให้หน่อย แล้วเขาก็ได้แนบเอา concept ของเพลงเพลงนี้มาให้ผมใส่ในไฟล์ word ในนั้นเขียนประมาณว่า “ เธอจากไปแล้วแต่ฉันยังเดินผ่านที่ๆเรานัดกันอยู่ทุกวัน “ ผมขนลุกซู่แล้วก็ต่อไมโครโฟนเพื่ออัดเนื้อร้องทันที คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเข้าใจว่าอาการ ”บิด“ มันเป็นยังไง
เพลงนี้บอกถึงเรื่องราวของคู่รักที่พลัดพรากจากกันไปแล้วแต่คนใดคนหนึ่งยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความทรงจำเก่าๆเกี่ยวกับทั้งคู่ลอยฟุ้งเต็มไปหมด และถึงแม้จะอยากพบมากกันเพียงไหนก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว อยากจะทิ้งจดหมายหรือเขียนพื้นผนังไว้ตัวโตๆเผื่อเธอจะเดินผ่านมาเห็นแล้วนึกถึงกันบ้างก็คงเป็นไปไม่ได้ จึงได้แต่ฝาก “ความคิด“กระซิบเบาๆเอาไว้ว่า “ฉันยังรักเธอ“
และล่าสุดเพลง “ความคิด” ยังได้รับเลือกให้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘A moment in June’ หนังไทยที่เข้าฉายและถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล สาขา New Currents Award ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซานครั้งที่ 13 ประเทศเกาหลีใต้ โดยมีกำหนดเข้าฉายในเมืองไทยต้นปีหน้า 2552
*คนที่คุณก็รู้ว่าใคร Feat.คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
โจ AF2 เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งไหว้วานให้ผมแต่งเพลงให้สักเพลง โดยที่ไม่มีอะไรให้เลยนอกจากชื่อเพลงว่า “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร“ ในช่วงนั้นผมงานยุ่งจนไม่มีเวลาแต่งให้โจเลยจนกระทั่งวันหนึ่งขณะอาบน้ำก็เกิดไอเดียขึ้นมาว่า ถ้าจะพูดคำว่า คนที่คุณก็รู้ว่าใคร มันน่าจะดูอบอุ่นละมุนๆดีถ้าเป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่คอยเทคแคร์ดูแลผู้หญิงคนที่ตนแอบชอบโดยไม่แสดงตัว เหมือนส่งดอกไม้ให้แล้วเหน็บการ์ดเล็กๆเขียนว่า ”ยิ้มเยอะๆนะ จาก คนที่คุณก็รู้ว่าใคร” อยู่ทุกวี่วัน ผมเลยแต่งเพลงนี้เสร็จใน 15 — 20 นาทีต่อมาแล้วโทรศัพท์หาโจทันที แต่ได้รับคำตอบว่า “ มึงมาแต่งให้กูอะไรป่านนี้กูกำลังถ่ายปกอยู่ “ ก็เลยเอาเพลงนี้มาลงในอัลบั้มของตัวเองแต่เนื่องด้วยฟีลของเพลงค่อนข้างจะแตกต่างจะเพลงอื่นอยู่พอสมควร ก็เลยนึกถึงเพื่อนสนิทของผมอีกคนหนึ่งที่เหมาะสมมากที่จะถ่ายทอดเพลงแบบนี้ ซึ่งในที่นี้ผมจะไม่บอกหรอกว่าเขาเป็นใคร เพราะเขาก็คือ “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร“ ไง
*ร่ม Feat. ตรัย ภูมิรัตน , ออน ละอองฟอง
นิ้วกลมเป็นนักเขียนที่ผมชื่นชอบมากถึงมากที่สุดจนเข้าขั้นบ้าคลั่ง ผมติดตามงานเขียนของเขาทุกงานแม้กระทั่งในเวปไซต์ของเขาก็ตาม เพลงนี้เกิดไอเดียจากการอ่านเรื่องสั้นของเขาใน blog ของเขา เมื่อถูกทำมาเป็นเพลง เพลงนี้จึงจึงมีวิธีการเล่าแบบเรื่องสั้น คือมีเวลา บรรยากาศ และตัวละครแสดงอยู่ชัดเจน การแต่งเพลงนี้จึงเหมือนกับคล้ายกับการทำหนัง และมีตัวผมนั่งแท่น ผุ้กำกับ แต่ว่าไม่ได้กำกับภาพผมกำกับแค่เสียงเท่านั้น
ตัวละครเอกในเพลงนี้เป็นผู้ชายขี้เหงา เมื่อมีการ casting พระเอกของเพลงนี้ขึ้นมา บทเลยตกเป็นของพี่ บอยตรัย อย่างไม่ต้องสงสัย และถ้ามีตัวละครตัวเดียวเรื่องนี้ก็คงไม่สนุกสักเท่าไหร่ ก็เลยมีการ casting นางเอกกันต่อมา หลังจาก castกันอยู่นานสุดท้ายบทนางเอกตกไปอยู่ที่ น้องออน ละอองฟอง มารับบทสาวสวย ไร้เดียงสา ที่ทำให้พี่ตรัยหวั่นไหวได้กลางบรรยากาศฝนพรำโดยมีร่มเป็นตัวดำเนินเรื่อง
= ติดตามฟังงานกำกับของผมได้ทุกแผ่น ในเครือ LOVEiS SONY MUSIC =
“Million Ways To Write Part 1” ผลงานเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของ “แสตมป์” 18 ธันวาคมนี้!!!
Update ข้อมูลศิลปินได้ที่: www.sonybmg.co.th / www.loveisloveis.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : บริษัท โซนี่ บีเอ็มจี (ประเทศไทย) จำกัด : สาวิตรี (อ้อ) 089-485-4122