กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--ธ.กสิกรไทย
กสิกรไทยปล่อยทีเด็ดปลายปี จัด Money Plus Fair มหกรรมเพิ่มค่าเงิน เสนอทางเลือกการฝากเงินและการลงทุนให้แก่ลูกค้าบุคคลกลางขึ้นไป ทั้งเงินฝากคล่องตัว-ดอกเบี้ยสูง กองทุนผลตอบแทนเร้าใจและสิทธิ ประโยชน์ เรื่องภาษี ตั้งเป้าระดมเงินฝากใหม่ 2 หมื่นล้าน เงินกองทุนใหม่ 1 หมื่นล้านบาท
นายพิพิธ เอนกนิธิ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายธุรกิจลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ช่วงปลายปีนี้เป็นช่วงที่มีบัญชีเงินฝากประจำในระบบสถาบันการเงินถึงกำหนดระยะเวลาในการฝากมากกว่าแสนล้านบาท และเงินในกองทุนรวมที่จะครบกำหนดอายุอีกหลายหมื่นล้านบาท
ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงได้จัด Money Plus Fair มหกรรมเพิ่มค่าเงินขึ้น ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2549 เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำและการลงทุนในกองทุนรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลายและน่าสนใจเพื่อเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนให้แก่ลูกค้า ก่อนที่แนวโน้มอัตราผลตอบแทนของดอกเบี้ยจะเริ่มลดลงในปีหน้า โดยลูกค้าที่ต้องการออมเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงต่ำ สามารถเลือกบริการเงินฝากประจำฟิกส์-พลัส 3 เดือน ซึ่งจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 4.0-4.50% ต่อปี และเงินฝากประจำฟิกส์-พลัส 6 เดือน ได้รับดอกเบี้ย 4.25-4.75% ต่อปี ฝากขั้นต่ำเพียง 100,000 บาท
นอกจากนั้นยังมีบริการเงินฝากประจำคล่องตัว-พลัส 8 เดือน (Flexible-Plus Fixed Deposit) ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ด้วยคุณลักษณะเด่น คือความคล่องตัว ด้วยการเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถถ อนเงินก่อนครบกำหนดได้เมื่อฝากมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน โดยไม่เสียผลประโยชน์เรื่องดอกเบี้ย และยังจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ทั้งนี้ กรณีไถ่ถอนก่อนครบกำหนด เมื่อฝากมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน แต่ไม่ถึง 6 เดือน จะได้รับดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี เมื่อฝากมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนจนครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี ดังนั้น จะเห็นได้ว่าเมื่อฝากครบ 6 เดือนแล้ว ลูกค้าสามารถถอนเงินได้ก่อนกำหนด หรือจะเลือกฝากต่อจนครบกำหนด ก็ยังได้รับดอกเบี้ยสูงต่อเนื่องที่ 4.50% ต่อปีเช่นกัน โดยรับฝากขั้นต่ำ 50,000 บาท
เงินฝากประจำคล่องตัว-พลัสจะเป็นการเพิ่มทางเลือกอีกทางหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่ยังลังเลหรือไม่แน่ใจว่าจะฝากเงินที่ระยะเวลาไหนดี ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุความจำเป็นต้องใช้เงิน หรือแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เพราะฝากนานแค่ไหน ลูกค้าก็ยังได้รับดอกเบี้ยสูงต่อเนื่อง
สำหรับลูกค้าที่ต้องการลงทุนเพื่อผลตอบที่แทนสูงและได้รับสิทธิประโยชน์เรื่องภาษี สามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ในปีที่ลงทุนได้สูงสุดรวม 600,000 บาท กองทุนเปิดรวงข้าวธนรัฐ 6 เดือนและ 12 เดือน ที่เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้นเพราะไม่เสียภาษี ซึ่งจะทยอยออกขายอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี และกองทุนเปิดรวงข้าวตราสารรัฐระยะสั้น ที่เน้นการลงทุนในตราสารภาครัฐ ผลตอบแทนไม่เสียภาษี เริ่มต้นลงทุนเพียงเพียง 5,000 บาท และเป็นกองทุนที่มีสภาพคล่องสูง เนื่องจากลูกค้าสามารถซื้อขายได้ทุกวัน
ทั้งนี้ลูกค้าที่ฝากเงินหรือลงทุนใน Money Plus Fair มหกรรมเพิ่มค่าเงิน ตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ยกเว้นกองท ุนเปิดรวงข้าวตราสารรัฐระยะสั้น ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2549 จะได้รับของสมนาคุณพิเศษจากทางธนาคารเป็นกระเป๋าเดินทาง Limited Edition มูลค่า 1,000 บาท
นายพิพิธ กล่าวว่า การจัด Money Plus Fair มหกรรมเพิ่มค่าเงิน เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากและเงินลงทุนในกองทุนที่มุ่งหวังที่จะให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลายและได้รับผลตอบแทนที่สูง ซึ่งจะเป็นทางเลือกครั้งสุดท้ายของปีนี้ ก่อนที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มลดลงในปีหน้า ซึ่งธนาคาร กสิกรไทยได้ตั้งเป้าที่จะระดมเงินฝากใหม่เข้าธนาคารให้ได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท และมีเงินใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท