กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--สหมงคล ฟิล์ม
Q: ใน 13 เกมสยอง นอกจากบทภูชิต ที่ต้องเผชิญกับเกมสยองทั้ง 13 ข้อแล้ว บทตอง ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน บทที่พิเศษ ท้าทายและน่าสนใจมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นบทที่อิมไม่เคยเล่นมาก่อน อยากให้อิมช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยหนังเรื่องนี้มันน่าสนใจมันพิเศษยังไง
A:หนังเรื่องที่อิมสนใจและก็รู้สึกดีใจที่ได้รับเล่นเรื่องนี้เพราะว่าหนึ่งเป็นการพลิคคาแรคเตอร์ตัวอิมซึ่งที่จริงแล้วเป็นคนขี้เล่น แต่ว่ารับบทที่มันกดดันมากๆ อิมรู้สึกว่าได้ประสบการณ์มากขึ้นได้ร่วมงานกับผู้กำกับไฟแรงเป็นวัยรุ่นได้ร่วมงานกับพี่น้อย อิมรู้สึกว่าเขามีคาแรคเตอร์ที่มันแปลกๆไม่เหมือนคนทั่วไปแต่ที่จริงแล้วได้เล่นบทเรื่องนี้มันได้ประสบการณ์เยอะจริงๆเพราะว่าไอ้ตัวตองคล้ายๆทอมเป็นผู้หญิงที่ห้าวๆแล้วก็เป็นผู้นำต้องคอยแก้สถานการณ์เก่งเกือบทุกครั้งแล้วก็ดีใจนะค่ะที่ได้เล่นบทนี้
Q: ความไม่ธรรมดาของ “เรื่องราวและเนื้อหา”ในหนังเรื่อง 13 เกมสยอง
A: ใช่ เนื้อหาไม่ธรรมดา ต้องยอมรับว่าพี่มะเดี่ยวซึ่งเป็นผู้กำกับเก่งมากๆเลย เพราะว่าอิมเองชื่นชอบและติดตามผลงานของพี่เขาตั้งแต่เรื่องคนผีปีศาจแล้ว พี่มะเดี่ยวเขาให้บทหนังเรื่อง13เกมสยองลองให้อิมไปอ่านดู เออมันก็น่าเล่นมากๆเลยยิ่งที่พี่เขาบอกว่าไอ้ตัวตองเนี๊ยะคาแรคเตอร์เป็นแบบออกทอมๆ โอ้โฮคาแรคเตอร์น่าเล่นนะ เล่นกับพี่น้อยวงพรูด้วย เราก็มีการนัดเจอกันนัดแรกถกความคิดเห็นกันพูดคุยกัน ดีใจที่ได้เล่นหนังกับพี่น้อยและก็ได้ร่วมงานกับพี่มะเดี่ยวเนื้อเรื่องของบทนี้มันเหมือนสะท้อนชีวิตของสังคมจริงๆชีวิตในสังคมปัจจุบันคือมีการแก่ง แย่ง การแข่งขันการเอารัดเอาเปรียบ ในเรื่องตัวพี่น้อยเขาเล่นเป็นภูชิต เขาเป็นคนดีของสังคมมากด้วยการที่เขามีจิตใจอ่อนโยนเขาต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัวส่วนใหญ่แล้วสังคมทั่วไปก็เป็นแบบนี้เห็นแก่ตัว จึงทำให้เกิดความกดดันกับการแข่งขันซึ่งเขาเป็นคนดี แต่ตัวภูชิตเขาจะเป็นคนตรง คนซื่อ คนดี พอเขาโดนสิ่งเหล่านี้มากๆเข้า ก็จะรู้สึกท้อบ้าง ยิ่งโดนสถานการณ์ที่แม่โทรมา เออนี่ลูกตอนนี้ค่าเทอมของน้องออกแล้วซึ่ง ตัวภูชิตเองกำลังจะโดนไล่ออกจากงาน และยังหาเงินเลี้ยงตัวเองไม่ได้ จึงทำให้กดดันคือเขาต้องการเงิน เมื่อทุกคนต้องการเงิน เป็นแรงจูงใจให้ทุกคนต้องแข่งขัน ก็เลยเป็นตัวแทนสะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์ปัจจุบันสมัยนี้ ถ้าเขาต้องการอะไรสักอย่างหนึ่งแล้วเขาก็สามารถทำได้หมด แม้แต่ส่วนตัวอิมเองที่เล่นเป็นตองก็มีความฝันว่าอยากเป็นนักดนตรีรักในดนตรีมากแล้วก็ไม่มีใครเข้าใจตองเลยแม้กระทั่งพ่อตองเองก็ยังบังคับให้เรียนวิทย์คอม ทั้งที่ตัวตองก็ไม่ได้ชอบ ตองเป็นลูกคนจีนที่อยากได้ลูกผู้ชาย ทำให้ตองมีบุคลิกออกทอมๆเพื่อต้องการให้คุณพ่อภูมิใจ ตองเป็นเด็กฝึกงานที่เกี่ยวกับไอทีในบริษัทเดียวกับภูชิตซึ่งเป็นบริษัทขายเครื่องดนตรี ถึงจะไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับดนตรี บริษัทขายเครื่องดนตรีที่นี้ทำให้ตองได้มาเจอกับภูชิต ภูชิตก็คือพี่น้อย ตองก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตองก็รู้สึกว่าภูชิตเขามีอะไรที่คล้ายๆเราที่เราเห็นเขาเราสามารถปรึกษาเขาได้เหมือนกับว่าเขาเป็นพี่ชายแล้วตองก็จะเข้ามามีโอกาสรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับภูชิต การที่โดนบีบบังคับ ต้องดิ้นรนเพื่อความต้องการเงินจึงทำให้สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นแล้วก็เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ภูชิตเหมือนเป็นคนที่จุดประกายให้เราซึ่งเวลาที่เราแต่งเพลงเราก็จะให้พี่เขาฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้แต่ครอบครัวของเรา พ่อของเราก็ไม่รู้ถึงความฝันสิ่งนี้ของเรา จนกระทั่งตองก็เริ่มสังเกตว่าพี่ภูชิตเกิดเรื่องทำไมนิสัยเขาถึงเปลี่ยนไป ตองก็เลยเริ่มค้นหาความจริง
Q: ความยากของ “บทตอง”ใน 13 เกมสยอง
A: ยากม๊าก มาก พอคัทปุ๊บอิมจะดีใจมากเลยจะเต้นใหญ่เลยนะ คัทปั๊บอิมก็เล่นเป็นลิงเลยนะซึ่งจริง ๆตัวอิมเองเป็นคนที่สมาธิสั้นมากๆ แต่ว่าเรื่องนี้ยอมรับว่าตั้งใจเต็มที่เลยค่ะเวลาเล่นก็คือเล่นเวลางานก็คืองานอย่างสมมติว่าเวลาจะเข้าฉากอิมจะไม่คุยกับใครเลยแอ็คหนึ่งเสร็จอิมก็จะอยู่ในโลกส่วนตัวของอิม พี่มะเดี่ยวเองเขาก็จะคอยเตือน สั่งสอนว่าตัวตองมันต้องอย่างนี้นะมันไม่ใช่แบบผู้หญิงจ๋า เวลาถ่ายทำอิมก็จะยืนเงียบๆสักพักหนึ่งแล้วก็จะถ่ายทำได้ ยากมากเลยเพราะว่ามันไม่ใช่ตัวเราซึ่งมันจะขี้เล่นมากๆ แต่ก็ดีมันทำให้เรารู้ว่าเราพัฒนาฝีมือขึ้นถ้าอยากจะเก่งก็ต้องรับบทเก่งๆได้เยอะๆถึงจะเป็นนักแสดงที่ดีได้
Q: ได้ข่าวว่าเครียดมากกับบทที่ได้รับ
A: เครียดมากเลย จนอึ้งเลย อย่างยกตัวอย่างมีอยู่ฉากหนึ่งที่อิมต้องเข้าฉาก ตัวเรื่องตัวบทก็เครียดอยู่แล้ว ที่นี้ฉากที่ต้องเข้า เป็นฉากที่สยองมาก ทีมงานโปรดักชั่นฝ่ายฉากเองเขาสุดยอดเลย เซ็ทฉากออกมาชนิดที่ว่า แค่เห็นก็สยองแล้วด้วยฉากที่สมจริงมากเลย ในฉากจะเป็นฉากช็อค ทั้งสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทั้งรูป ทั้งกลิ่น แล้วอิมต้องเข้าไปอยู่ใกล้ๆกับสิ่งนั้น มันสมจริงมากแล้วอิมไม่เคยถ่ายฉากอะไรแบบนี้มาก่อนก็ดีก็ได้ประสบการณ์จริงๆ อย่างพี่น้อยลงทุนกัดไส้ของจริง ซึ่งอิมคิดว่าเป็นของปลอมแล้วนะ ของจริงมันจะคาวๆ ทีมงานเขาก็จะมีใส่น้ำแดงเฮลบลูบอย พี่น้อยก็ต้องเอาปากกัดแล้วอิมก็เห็นพี่ทีมงานเขาเอาไส้วางตรงพื้นอะเหม็นผสมเฮลบลูบอย หรืออย่างบางทีอิมไปนั่งดูมอนิเตอร์ฉากที่พี่น้อยเขาถ่ายกับพี่มะเดี่ยว พี่น้อยเขาหยิบไส้แล้วเอามากัด กึ๊กๆๆ คือ มันสมจริงมาก คือไม่คิดว่ามันจะโอ้โห แล้วพี่น้อยเวลาเล่นเขาต้องทำท่าอะไรอย่างเนี๊ยะ สมจริงมาก พี่เขาเก่งมากๆเลย
Q: ตอนแรกที่อ่านบทกับตอนที่มาเล่นแล้ว คิดไหมว่าสิ่งที่เราจะเจอในหนังมันจะหนักหน่วงทั้งคาแรคเตอร์ทั้งอารมณ์ทั้งเรื่องอย่างนี้มาก่อน
A: ไม่คิดเลย ตอนที่อ่านบทไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้เพราะคิดว่าคงเป็นทอมง่ายๆอิมทำได้ แต่พอได้อ่านบทแล้วเจาะลึกซึ้ง อูยยยยยยยยยมันยากมากเลยเพราะหนังมันต้องสมจริงด้วย over action อะไรแบบเนี่ยมันเป็นหนังจอใหญ่ที่เวลาเราทำอะไรรูปเราจะใหญ่มากทำอะไรนิดหนึ่งคือทุกคนมองในจอนั้นหมดเลย ทุกวินาทีทุกคนต้องมองในจอนั้นไม่เหมือนละครที่บางทีเราดูบ้างไม่ตั้งใจที่จะดูบ้างแต่หนังเนี่ยพอคนเสียเงินเข้าไปแล้วเขาจะตั้งใจดูเราจะต้องทำให้ทุกอย่างสมจริง อิมเลยรู้สึกว่ายากและบทที่ได้มาถึงจะมีบทพูดนิดหน่อยแต่การทำอารมณ์ให้เป็นทอม เข้มแข็งเป็นผู้นำที่ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ออกค้นหาใครตัวตนของใครสักคนเนี่ยะมันยากมากเลย
Q: พูดถึงพี่น้อยบ้างดีกว่า ก่อนหน้านี้อาจเคยเห็นเขาบ้างในฐานะนักร้อง แต่พอมาร่วมงานกัน รู้สึกอย่างไรบ้าง
A: เล่นกับพี่น้อยแรกๆอิมก็มีเกร็งบ้างเหมือนกันนะ อาจจะเป็นเพราะว่าฉากส่วนใหญ่ในหนังจะเป็นลักษณะที่ว่าตองจะเป็นตัวละครหนึ่งที่พาคนดูเข้าไปติดตามและค้นหาตัวจริงของตัวภูชิตที่พี่น้อยเล่น ซึ่งในหนังตอนแรกเราสนิทกัน แต่พอเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ก็อาจทำให้ตองเองเริ่มที่จะฉุกคิดว่าจริงๆ แล้วผู้ชายคนนี้ใช่เป็นอย่างที่เรารู้จักรึเปล่า ส่วนตัวจริงพี่น้อยแรกๆที่ยังไม่รู้จัก รู้สึกว่าเขาเป็นพี่ชายที่น่าค้นหาคนหนึ่ง คืออย่างตัวพี่น้อยเผินๆดูเหมือนว่าเขาเป็นผู้ชายที่เหมือนมีอะไรบางอย่าง ดูเงียบๆ ที่เราอาจไม่รู้ว่าจะอธิบายออกมาอย่างไร ด้วยภายนอกอาจจะดูเหมือนว่าเขามีโลกส่วนตัวของเขา แรกๆอิมก็รู้สึกเกร็งแต่ลึกๆแล้วเมื่อได้ร่วมงานจะรู้ว่าพี่น้อยเขาเป็นคนที่สบายมากๆพยายามบอกตัวเองว่าแล้วเราจะเกร็งทำไม เขาเป็นคนติดดินมากๆ อะไรก็ได้ และที่สำคัญเขาเป็นคนที่จริงจังกับงานมากค่ะ บางวันที่ทำงาน ถ่ายหนังด้วยกัน พี่น้อยเขาไม่สบายด้วยเป็นไข้ เห็นเขานอนซม แต่ถึงเวลาถ่ายปั๊บเขาก็ลุกขึ้นมาลุย ถ่ายได้ต่อ เขาเป็นคนที่มีความอดทนมากเลย บางทีเห็นเขาแสดงคอนเสิร์ตเสร็จปุ๊บรีบบินกลับมาถ่ายหนังต่อ สุดยอดจริงๆดีใจค่ะที่ได้ทำงานกับพี่น้อย
Q: พูดถึงความตั้งใจ ความเต็มที่ ในการที่อิมมาเล่นหนังเรื่องนี้ หลายคนไม่รู้ว่าเมื่อก่อนที่อิมผมยาว แล้วจู่ๆ มาเปลี่ยนเป็นผมสั้นนี่สาเหตุเพราะหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ
A: ใช่แล้วนี่อิมโดนตัดผมมาเลยจากเพื่อนสนิทก็สังเกตุได้อิมจะผมยาวเท่านั้น (ทำท่าประกอบ) แล้วพี่มะเดี่ยวก็บอกว่าอยากให้ผมสั้น เป็นทอม ก็เลยเหลือเท่าบ่า แล้วด้วยสปิริต ก็เลยเข้าไปคุยกับพี่มะเดี่ยวว่าผมเท่าบ่ามันจะดูไม่ห้าวรึเปล่า ทอมอะไรผมเท่าบ่า แล้วตอนนั้นผมอิมออกหยิก ๆด้วยไง อิมเลยบอกงั้นอิมตัดผมให้ดีกว่า พี่มะเดี่ยวบอกอื้มดีค่ะ อิมก็นึกว่าคงตัดไม่เยอะหรอก พี่มะเดี่ยวบอกว่าตัดทรงนี้นะ ทรงฝรั่งอ่ะ พี่มะเดี่ยวบอกทรงนี้แหล่ะดี ดีกว่าทรงนี้อีก อิมก็เลยอ้ะ...ตัดก็ตัด ตอนนั้นอิมติดละครอีกเรื่องหนึ่ง อิมเลยต้องสั่งวิกมา เพื่อถ่ายทรงนี้เป็นผมจริงแล้วในละครเป็นวิก แล้วก็ถ่าย ๆมาก็ใช้เวลาหลายเดือน ก็จะมีละครใหม่อีก เขาจะให้ผมยาว ช่วงนี้ก็เลย เอ๊ะ! จะยังไงดี โชคดีถ่ายเสร็จก่อน
Q. ถึงขนาดเห็นบทแล้วผู้กำกับยังไม่เปิดกล้อง แต่อยากเล่นมากถึงขนาดโทรไปหาผู้กำกับว่าเมื่อไรจะถ่ายเลยทีเดียว
A: ใช่แล้ว พี่มะเดี่ยวเอาบทมาให้อิมดู ด้วยความที่อยากเล่นมากเลย เล่นเป็นทอมไรเงี้ย พี่สที่กองก็พาไปตัดผม และก็ยังไม่ถ่ายซะที ผมมันก็สั้นอย่างงั้นน่ะแหล่ะ เดือนนึงได้มั้ง อิมก็....เมื่อไหร่จะถ่ายพี่ (ทำท่าโทรศัพท์) อิมก็อยากแสดงเต็มที่แล้ว Acting มันพุ่งพล่าน เขาก็เออ ๆกำลังจัดคิวกันอยู่ เราก็..เพื่อหนังเรื่องนี้เราต้องทำให้ได้ ก็เลยทำผมสั้นๆอย่างงี้ตลอด คุณผู้ชมอาจจะเห็นว่า อิมผมสั้นตลอด ไม่ไว้ผมยาวซะที ไม่ใช่นะคะอิมไว้ผมยาวแล้ว ด้วยความที่อิมต้องอินกับบทไง มันเป็นทอม เลยต้องตัดแต่คราวนี้มันสั้นมากๆเลยนะ ก็เต็มที่หน่อย จะได้อินกับบทอิมว่าการที่ทุกๆอย่างพร้อม ทำให้เราอินกับบทได้ดีกว่า ดีกว่าผมยาวก็เลยยอมตัดผม เพื่อหนังเรื่อง 13 ค่ะ
Q: พูดถึงผู้กำกับหน่อย มะเดี่ยว ซึ่งเป็นผู้กำกับฝีมือที่อายุน้อยมาก
A: อิมรู้สึกว่าเขาเป็นวัยรุ่นที่น่าเอาตัวอย่างมากๆๆเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าตัวเองเป็นนักแสดงแล้วแกล้งประจบเขานะแต่อิมทำงานกับเขาแล้วอิมเห็นว่าเขาทำงานจริงจังจริงเกินอายุเกินวัย23-24 จะมาเป็นขนาดนี้ เขาเป็นผู้กำกับที่หายากมากเป็นวัยรุ่นแล้วไฟแรงขนาดนี้ แล้วถ่ายหนังจะเจอปัญหาตลอด location ฝนตกถ่ายไม่ได้ เขาก็จะแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่วัยรุ่นอายุ23-24 ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน และที่สำคัญคือนอกจากจะเป็นผกก.แล้ว เขายังเป็นเจ้าแห่งไอเดียที่มีเนื้อหาค่อนข้างแปลก แหวกแนว และเขาสามารถคุมงานได้ทั้งเรื่องให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างที่เขาคิดได้ อิมว่าน่านับถือนะค่ะ
Q: อยากฝากอะไรกับคนที่รอดูหนังเรื่องนี้
A: ก็ขอฝากหนังเรื่อง Quiz Show 13 ด้วยนะคะ เพราะว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่อิมค่อนข้างจริงจังและก็ทุ่มแรงทุ่มกาย ทุ่มใจ ยอมทุกอย่าง ทั้งผม....และ ก็ค่อนข้างเครียดกับบทเรื่องนี้ เอาไปทำการบ้านหนักมาก ส่วนพี่น้อยก็เหนื่อยมาก เคยถ่ายจนเป็นลมเลย ทุกคนเต็มที่กับงานหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ ทีมงาน ทุกฝ่ายเลย ยังไงก็ลองไปดู อิมคิดว่าเป็นหนังแนวใหม่ที่ทำเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 พี่มะเดี่ยว...และก็มีนักแสดงอีกหลายท่านเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพี่ศรัณยู น้องอเล็กซ์และก็พี่ต่าย เพ็ญพักตร์ และก็มีน้องอิม อชิตะ และก็พี่น้อย วงพรู ด้วยนะคะ ขอฝากด้วย อิมคิดว่าเป็นหนังที่น่าติดตามอีกเรื่องนึงเลยเพราะอิมคิดว่าเป็นหนังที่รวมหลายอารมณ์ หลายความรู้สึกเลย ยังไงก็ลองไปดูนะคะ
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net