กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--ปตท.
แม้ราคาตลาดโลกลดลง แต่ยังคงต้องขอให้ช่วยกันประหยัด เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นได้อีก ขณะเดียวกัน สนพ.ได้ทยอยเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพื่อลดภาระที่ตรึงราคาไว้
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงตลอดเดือนตุลาคมนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนสูงมาก บางช่วงได้อ่อนตัวลงบ้าง (ซึ่งทางสำนักงานนโยบายพลังงาน ได้ทยอยเรียกเก็บเงินคืนเข้ากองทุนน้ำมันมาเป็นระยะๆ เพื่อชำระหนี้จากการตรึงราคาน้ำมันตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา จากประมาณ 100,000 ล้านบาท เหลือประมาณ 50,000 ล้านบาท) และจากการที่ในวันนี้ราคาได้อ่อนตัวลง กล่าวคือ น้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ระดับ 54.97เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ระดับ 59.75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 69.39 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล นั้น ทำให้ ปตท.สามารถปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันทั้งกลุ่มเบนซิน (รวมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95) และกลุ่มน้ำมันดีเซล (รวมน้ำมันไบโอดีเซลและดีเซล-ปาล์ม บริสุทธิ์) ลงให้ผู้บริโภคได้อีกลิตรละ 30 สตางค์ มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.49) เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม.และปริมณฑล เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 25.29
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 23.79
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 24.49
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 23.84
น้ำมันพีทีทีไบโอดีเซล/น้ำมันดีเซล-ปาล์มบริสุทธิ์ 23.34
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ ปตท. กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากที่ ปตท.ลดราคาน้ำมันทุกชนิด 30 สตางค์/ลิตร ในครั้งนี้แล้ว ปตท.ยังต้องส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพื่อลดภาระของกองทุนดังกล่าวข้างต้น โดยในวันพรุ่งนี้ สนพ. จะมีการเรียกเก็บเงินจากน้ำมันเบนซินและดีเซลในอัตรา 26 และ 15 สตางค์/ลิตร ตามลำดับ ทำให้อัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเบนซิน95 เป็น 3.46 บาท/ลิตร เบนซิน91 เป็น 3.26 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์95 และ ดีเซล เป็น 1.50 บาท/ลิตร ตามลำดับ
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนและกลุ่มผู้ซื้อขายน้ำมันขาดความเชื่อมั่นในนโยบายลดกำลังการผลิตของประเทศกลุ่มโอเปค ที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน (1 พ.ย.ศกนี้) ว่าจะสามารถบังคับใช้และได้รับความร่วมมือจากกลุ่มประเทศสมาชิกได้จริง ประกอบกับปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูงมากกว่า โดย EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ต.ค.49 อยู่ที่ระดับ 335.6 ล้านบาร์เรล ด้านราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ค่อนข้างอ่อนตัวลงหลังจากสิ้นสุดฤดูท่องเที่ยว และกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งตลาดหันไปให้ความสนใจกับเชื้อเพลิงที่ใช้ทำความอบอุ่น ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินลดลง และคาดว่าราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวนสูงโดยนักลงทุนและกลุ่มผู้ใช้น้ำมันดิบยังไม่แน่ใจในทิศทางของราคาน้ำมัน ซึ่งคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าประเทศกลุ่มโอเปคอาจมีการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ในการประชุมวันที่ 14 ธ.ค.49 ที่กรุง Abuja ประเทศไนจีเรียด้วย
นายชัยวัฒน์ กล่าวตอนท้ายว่า ปตท.พร้อมที่จะปรับลดราคาน้ำมันในกรณีที่ราคาน้ำมันตลาดโลกอ่อนตัวลง และยังคงเป็นผู้นำในการปรับลดราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากในรอบกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ปตท. ได้นำลดราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดลงไปแล้วกว่า 3 — 4 บาท/ลิตร กล่าวคือ ลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินถึง 12 ครั้ง รวม 4.90 บาทต่อลิตร และลดราคาน้ำมันกลุ่มดีเซลถึง 9 ครั้ง รวม 3.70 บาท/ลิตร กระนั้นก็ตามฝากผู้บริโภคช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย เพราะเราต้องพึ่งพาจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2538
โทรสาร 0 2537 2572, 2517
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.