กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องประสบภาวะขาดทุนมาตลอด 3 ปี ซึ่งเป็นผลจากปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดเกินกว่าความต้องการ และทำให้ไข่ไก่มีราคาตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในปี 2552 จึงจำเป็นต้องขอให้ภาครัฐโดยกรมปศุสัตว์ โปรดพิจารณาปรับลดโควต้าการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
“ปัจจุบันราคาไข่ไก่คละใหญ่อยู่ที่ 1.80 - 2.00 บาท จากต้นทุนที่ 2.10 บาท ถ้าหากยังยึดโควต้าของการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ ปี 52 เท่าเดิม จะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่เดือดร้อน เพราะปริมาณผลผลิตจะมีมากเกินความต้องการและราคาขายก็จะต่ำกว่าต้นทุน ทำให้เกษตรกรขาดทุนต่อเนื่องอีก” นายกสมาคมกล่าว และยังได้ขอร้องไปยังผู้ผลิตทุกรายให้ช่วยลดการนำเข้าอย่างพร้อมเพรียง
นอกจากนี้ ทางกรมปศุสัตว์ควรต้องเข้ามาดูแลควบคุมอายุการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และไก่ไข่ยืนกรงให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตามมติคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) อีกด้วย
“ผลผลิตไข่ไก่ปัจจุบันอยู่ที่วันละ 29-30 ล้านฟอง ในขณะที่ความต้องการบริโภคไข่ไก่อยู่ที่วันละ 25-26 ล้านฟอง ทำให้มีปริมาณไข่ไก่เหลือสะสมทุกวัน เกษตรกรต้องขายสินค้าต่ำกว่าต้นทุน ประกอบกับช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ทำให้การบริโภคไข่ไก่จะลดลงมาก คาดว่าราคาไข่ไก่จะอ่อนตัวลงอีก ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด คือการปรับลดการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นการควบคุมปริมาณผลผลิตไข่ตั้งแต่ต้นทาง” นายกมงคลกล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์
081-862-5248