กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนพฤศจิกายน 2551 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2551 ดังนี้
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
1.1 เดือนพฤศจิกายน 2551
หนี้ในประเทศ
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll Over วงเงินรวม 9,500 ล้านบาท โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การเคหะแห่งชาติ และธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงิน 2,000 ล้านบาท 1,700 ล้านบาท 2,000 ล้านบาท และ 3,800 ล้านบาท ตามลำดับ
1.2 ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552
หนี้ในประเทศ
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการ Roll Over หนี้เดิม
รวม 9,995 ล้านบาท
2. การกู้เงินภาครัฐ
เดือนพฤศจิกายน 2551
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชย
การขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาล
วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 111,000 ล้านบาท โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีการกู้เงินรวม 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินบาทสมทบ 55 ล้านบาท กู้เพื่อทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 58 ล้านบาท และกู้เพื่อลงทุน 887 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 110,000 ล้านบาท
ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552 ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 136,000 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 25,000 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 111,000 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
พฤศจิกายน 2551
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 10,930 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 10,928 ล้านบาท
ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 15,797 ล้านบาท
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2551
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 มีจำนวน 3,408,631 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.92 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,130,527 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,031,498 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 100,091 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 138,199 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 8,316 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 299 ล้านบาท โดยหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 42,958 ล้านบาท สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 31,584 ล้านบาท 8,800 ล้านบาท 2,255 ล้านบาท และ 20 ล้านบาท ตามลำดับ
การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 42,958 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันทั้งในส่วนของหนี้ในประเทศและหนี้ต่างประเทศ โดยหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 23,312 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ออกหุ้นกู้ วงเงิน 18,000 ล้านบาท และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เบิกจ่ายเงินกู้ระยะยาว จำนวน 4,000 ล้านบาท และการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น 12,709 ล้านบาท
สำหรับหนี้ที่รัฐบาลกู้ตรงลดลงสุทธิ 31,584 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการปรับลดระดับตั๋วเงินคลัง จำนวน 46,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับฐานะดุลเงินสดของรัฐบาลในเดือนดังกล่าว และรัฐบาลได้ทำการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงสุทธิ 2,254.78 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน เนื่องจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ไถ่ถอนพันธบัตร วงเงิน 5,000 ล้านบาท และออกพันธบัตร วงเงิน 2,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันลดลงสุทธิ 8,800 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากสถาบันบริหารกองทุนพลังงานได้ไถ่ถอนพันธบัตร วงเงิน 8,800 ล้านบาท หนี้สาธารณะ 3,408,631 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 409,455 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.01 และหนี้ในประเทศ 2,999,176 ล้านบาท หรือร้อยละ 87.99 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,297,793 ล้านบาท หรือร้อยละ 96.75 และหนี้ระยะสั้น 110,837 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.25 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5510, 5507